Baron Philippe de Rothschild Pauillac นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงออกมาจากการผลิตที่ยอดเยี่ยมของแบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงและทักษะในการผลิตไวน์อย่าง Baron Philippe de Rothschild ที่อยู่ในย่านชุมชนชาวพื้นเมืองที่มีสูตรการผลิตไวน์ที่โด่งดังอย่าง Pauillac ในเมือง Medoc ของเขต Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีโรงกลั่นไวน์และไร่องุ่นเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นไวน์ที่มีการนำพื้นที่ของคฤหาสน์ขนาดใหญ่มาใช้ในการสร้างฐานการผลิตอีกด้วย
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร โดยเริ่มแรกนั้น ทางผู้ผลิตได้มีการคัดเลือกสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกัน รวมทั้งยังนำมาใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันอีกด้วย ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 62%, Merlot 28%, Cabernet Franc 8% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot อีก 2% ด้วยเช่นกัน โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตเลือกใช้นั้นจะต้องนำมาจากการเพาะปลูกในไร่องุ่นของตัวเองและถูกคัดเลือกลักษณะมาอย่างดีแล้วเท่านั้น โดยองุ่นทั้งหมดนั้น ทางผู้ผลิตก็นำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่แท้ 30% และอัตราส่วนที่เหลือนั้นทางผู้ผลิตจะแบ่งไปหมักลงในถังไม้โอ๊กที่เคยมีการใช้มาแล้วเป็นครั้งที่สอง โดยทั้งสองถังนั้นเป็นระยะเวลายาวนานในการหมักและทางผู้ดื่มจะสามารถดื่มได้ทันที แต่จะเป็นการดีกว่าถ้าจะปล่อยไวน์นี้ไว้สักระยะเวลาประมาณ 3-5 ปี เพื่อให้ได้ไวน์ที่มีสัมผัสที่มีคุณภาพที่สุด
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่ได้รับการรับรองจากนักดื่มด้วยราคาที่สูงกว่าราคาเฉลี่ยของไวน์ทั่วโลก เนื่องด้วยเสน่ห์ที่เกิดจาก สี เนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจ ด้วยส่วนแรกคือสีนั้น ไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงเข้มราวกับสีของโกเมน รวมไปถึงกลิ่นของไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นในระดับที่สูงมาก โดยกลิ่นที่โดดเด่นออกมาจะเป็นกลิ่นของผลไม้สีแดงนานาชนิดที่ผสานกันกับกลิ่นของกาแฟคั่วได้อย่างดี นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่กลมกล่อมและมีโครงสร้างขององค์ประกอบในไวน์ที่สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน โดยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ออกมาจากไวน์ชนิดนี้ คือ ชะเอมเทศ ผลเชอร์รี่และวานิลลา
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยความประทับใจจากผู้ที่ลิ้มลองรสชาติจริง ซึ่งไวน์ชนิดนี้จะมีเอกลักษณ์ที่กลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างเข้มข้นและเต็มไปด้วยผลไม้สีแดงหลากหลายชนิดที่ผสานกันกับผลเชอร์รี่ วานิลลา ชะเอมเทศและกาแฟคั่ว ซึ่งนับได้ว่าเหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ เนื้อสัตว์ปีก นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5% อีกด้วย
Baron Philippe de Rothschild Pauillac
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Emiliana Coyam ยังนับได้ว่าเป็นไวน์แดงแบบผสมที่มีต้นกำเนิดการผลิตและการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Emiliana Organic Vineyards อันโด่งดังที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชน Colchagua Valley ในใจกลางเมืองของประเทศชิลี ซึ่งแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์สัญชาติชิลีที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ไวน์ขนาดใหญ่ที่เน้นการผลิตแบบออร์แกนิคและทางชีวภาพเป็นเจ้าแรกของโลกอีกด้วย
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นไวน์ทีมีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่มากพอสมควร ทั้งในส่วนเริ่มต้นที่ทางผู้ผลิตนั้นได้มีการเลือกสรรสายพันธุ์ขององุ่นที่นำมาใช้เยอะมากถึงหกสายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งนับได้ว่ามากกว่าจำนวนสายพันธุ์ที่นำมาใช้ในไวน์ทั่วไป อีกทั้งทางผู้ผลิตนั้นก็ได้มีการคำนวณอัตราส่วนของปริมาณตามสายพันธุ์ไว้แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Syrah หรือ Shiraz 38%, Cabernet Sauvignon 21%, Carmenere 21%, Merlot 17%, Petit Verdot 2% และ องุ่นสายพันธุ์ Mourvedre 1% โดยองุ่นทั้งมดนั้นทางผู้ผลิตก็จะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊ก
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชิที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อสัมผัส สี กลิ่นและรสชาติของไวน์ที่มีความงดงามและสอดคล้องกันได้อย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เอร็ดอร่อย กลมกล่อมและนุ่มลึกอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งไวนืชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความเข้มข้นและมีความชัดเจนในองค์ประกอบและโครงสร้างกันเป็นอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและลงตัวกันได้เป็นอย่างดียิ่ง ทั้งความนุ่มลึก เข้มข้น และเข้ากันได้อย่างกลมกล่อมลงตัว ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานไวน์ชนิดนี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัวและเนื้อกวาง หรือว่าเป็นสเต๊กจานร้อนๆก็เหมาะสมอยู่เช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5-15% อีกด้วยเช่นกัน
Emiliana Coyam
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Grand Vin de Léoville Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงออกมาจากการผลิตที่ยอดเยี่ยมของแบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงและทักษะในการผลิตไวน์อย่าง Chateau Leoville-Las Cases ที่อยู่ในย่านชุมชนชาวพื้นเมืองที่มีสูตรการผลิตไวน์ที่โด่งดังอย่าง Saint-Julien ในเมือง Medoc ของเขต Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีโรงกลั่นไวน์และไร่องุ่นเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นไวน์ที่มีการนำพื้นที่ของคฤหาสน์ขนาดใหญ่มาใช้ในการสร้างฐานการผลิตอีกด้วย
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร โดยเริ่มแรกนั้น ทางผู้ผลิตได้มีการคัดเลือกสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ถึงสามสายพันธุ์ด้วยกัน รวมทั้งยังนำมาใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันอีกด้วย ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 61%, Merlot 21% และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Franc อีก 16% ด้วยเช่นกัน โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตเลือกใช้นั้นจะต้องนำมาจากการเพาะปลูกในไร่องุ่นของตัวเองและถูกคัดเลือกลักษณะมาอย่างดีแล้วเท่านั้น โดยองุ่นทั้งหมดนั้น ทางผู้ผลิตก็นำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กแท้ 90% เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 18-20 เดือนด้วยกัน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังมีมนต์เสน่ห์และความน่าสนใจที่ลักษณะภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสี เนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง โดยกลิ่นของไวน์ชนิดนี้เป็นกลิ่นไวน์ที่มีความหอมหวานไปด้วยกลิ่นของลูกสน กลิ่นใบยาสูบและกลิ่นของต้นโอ๊ก ไม่ใช่เพียงแค่นั้นไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความเต็มน้ำเต็มเนื้อเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังมีระยะเวลาสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนานอย่างยิ่งอีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างดี มีทั้งความเต็มน้ำเต็มเนื้อในรสชาติและเนื้อสัมผัสอย่างดียิ่ง รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีความนุ่มลึกและความเข้มข้นของไวน์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดและเนื้อไก่ นอกเหนือจากนี้ไวน์ขนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 5% ซึ่งนับว่ามีระดับของแอลกอฮอล์ค่อนข้างน้อยมากเลยทีเดียว
Grand Vin de Léoville Saint-Julien
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Opus One Overture Napa Valley นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตและการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชั้นนำเป็นระดับแถวหน้าของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปอย่าง Opus One ที่มีการถูกผลิตและมีฐานการผลิตใหญ่ที่ย่านชุมชนที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมอย่าง Napa Valley ซึ่งเป็นชุมชนอยู่ที่เขตการปกครองในเมือง Napa ที่อยู่ทางชายฝั่งตอนเหนือของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นหลากหลายสายพันธุ์กว่า 5 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 79%, Cabernet Franc 7%, Petit Verdot 6%, Merlot 6% และองุ่นสายพันธุ์ Malbec 2% มาใช้ในการผลิตด้วยเช่นกัน รวมไปถึงไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยตัวไวน์ชนิดนี้ทางผู้ผลิตจะมีการคัดเลือกสายพันธุ์และลักษณะขององุ่นที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดเท่านั้น แล้วทางผู้ผลิตจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์เยี่ยมจากประเทสฝรั่งเศสเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 18 เดือนด้วยกัน
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกทีน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นไวน์ที่มีสีของไวน์เป็นสีแดงเข้มอย่างดี รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้ที่มีสีเข้มอย่างดีผสานกันกับกลิ่นของผลไม้ โดยเฉพาะกลิ่นของไวน์ที่มีเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์จากองุ่นเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่เต็มน้ำเต็มเนื้อ มีความกลมกล่อมและมีความคลาสสิกอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะของผลส้มที่ค่อนข้างเป็นรสชาติของผลไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลส้ม ผลเบอร์รี่สีดำและผลเชอร์รี่สำดำด้วยเช่นกัน
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นและรสชาติของผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สีเข้มหลากหลายชนิด ที่ผสานกันกับกลิ่นของผลส้ม ผลเบอร์รี่และเชอร์รี่สีดำกันได้อย่างดีและลงตัวอีกด้วย ซึ่งไวน์ชนิดนี้จึงเหมาะสมในการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัวและเนื้อกวาง นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% เพียงเท่านั้น
Opus One Overture Napa Valley
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Chateau Pavie Saint Emilion Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาและถูกผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์ไวนืที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ยอดนิยมสำหรับวงการไวน์เป็นวงกว้างอย่างChateau Pavie ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตและการนำสูตรการผลิตไวน์ในชุมชนพื้นเมืองจาก Saint Emilion Grand Cru ของเมือง Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ไวน์น้ำดีที่ขึ้นชื่อในการผลิตไวน์จากองุ่นสายพันธุ์ Merlot เป็นระดับแถวหน้าของเมือง Bordeaux เลยทีเดียว
ซึ่งแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ได้มีการนำสูตรและวัฒนธรรมในการผลิตมาจากชาวพื้นเมือง Saint Emilion Grand Cru ของเมือง Bordeaux มาใช้ตั้งแต่สมัยรุ่นสู่รุ่นใหม่อย่างยอดเยี่ยม โดยทางผู้ผลิตนั้นก็เน้นที่จะใช้วัตถุดิบที่พวกเขามีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง อย่าง องุ่นสายพันธุ์ Merlot แท้ 100% มาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ โดยทางผู้ที่ผลิตไวน์ชนิดนี้จะนำองุ่นทั้งหมดที่ผ่านการคัดเลือกจากไร่องุ่นของตัวเองเท่านั้นมากลั่นเป็นเวลายาวนานกว่า 8-9 วันในอุณหภูมิ 8 องสาเซลเซียส หลังจากนั้นก็จะนำไปบ่มต่อถังไม้ที่มีการควบคุมอุณหภูมิเป็นอย่างดีจำนวนสองครั้งด้วยกัน ได้แก่ ครั้งแรกที่ใช้เวลายาวนานกว่า 36 วัน ส่วนครั้งที่สองจะเป็นการกลั่นไวน์เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 20 วันด้วยกัน ซึ่งการหมักไวน์ในครั้งที่สองจะเน้นในการใช้ถังไม้เนื้อดีเท่านั้น เมื่อทำการบ่มแล้วทางผู้ผลิตจะนำองุ่นที่ผ่านกระบวนการทั้งสามไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศส 80% เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 18 เดือนก่อนจะนำไปบรรจุใส่ขวดเพื่อจำหน่ายต่อไป
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ในลักษณะภายนอกเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น สี รส และเนื้อสัมผัสที่ชวนให้น่าลิ้มลองและน่าหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเริ่มแรกจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีแดงที่ค่อนข้างเข้มทึบแสงและขุ่นกว่าไวน์แดงทั่วไป รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างมีความสดชื่นและเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผสานกันกับกลิ่นของผลเชอรืรี่ เบอร์รี่สีดำ ลูกพลัม กาแฟเอสเปรสโซ่และกลิ่นรมควันอย่างดี ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างดี มีความกลมกล่อม ความเปรี้ยวอมหวานและมีความสมดุลลงตัวพอดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมสมกับเป็นไวน์แดงที่นักดื่มนิยมและให้ความสนใจกันมากสมกับเป็นไวน์ที่มีราคาที่สูงที่สุดที่ถูกส่งตรงและผลิตมาจากย่านชุมชน Saint Emilion Grand Cru และเป็นไวน์ที่ได้รับความนิยมในการค้นหาเป็นอันดับสามด้วยเช่นกัน นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นของผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นผลเชอร์รี่ ลูกพลัมและผลเบอร์รี่สีดำอย่างดี สมกันกับเป็นไวน์หายากอย่างแท้จริง ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำไปรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12-14.6%
Chateau Pavie Saint Emilion Grand Cru
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Catena Zapata Malbec Argentino นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นระดับแถวหน้าของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับต้นๆของทวีปอเมริกาใต้อย่าง Bodegas Catena Zapata ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ชุมชนดังในด้านการผลิตไวน์อย่าง Uco Valley หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Valle de Uco ของเมือง Mendoza ของประเทศอาร์เจนติน่า ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็ยังนับได้อีกว่าเป็นสถานที่แห่งเพาะปลูกองุ่นที่เหมาะสมที่หาได้ยาก
ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นอายและมีการผสมผสานของวัฒนธรรมระหว่างกระบวนการผลิตไวน์ระหว่างสองประเทศและสองทวีปอย่างสูตรการผลิตไวน์จากทวีปยุโรปอย่างประเทศฝรั่งเศสกับทวีปอเมริกาใต้อย่างประเทศอาร์เจนติน่า โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีแรงบันดาลใจในการผลิตที่ยอดเยี่ยมและค่อนข้างหายาก เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเกิดจากการนำเอกลักษณ์เด่นจากสถานที่ที่นักปรุงไวน์ได้ไป จำพวกสถานที่โบราณสถานที่ยังมีอยู่ในปัจจุบันมาใช้ รวมไปถึงสถานที่การสำรวจที่ยังไม่มีใครรู้จัก สถานที่ที่พบในการผจญภัยและสถานที่ที่ได้ไปทั้งหมดมาใช้เป็นลวดลายบนฉลากไวน์และเป็นแนวคิดในการผลิตไวน์ โดยทางผู้ผลิตได้เริ่มต้นเดินทางอออกจากยุโรปมายังทวีปอเมริกา และมีการนำสตรีตัวอย่างจากแต่ละแห่งมาใช้เป็นตัวละครเอกบนฉลากอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งไวน์ชนิดนี้ได้นำเอาองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียว ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Malbec มาใช้ในการผลิต และทางผู้ผลิตนั้นก็ได้นำองุ่นมาหมักลงในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสใบใหม่แท้ 100% มาใช้ในการบ่มองุ่นในช่วง 30 วันแรก หลังจากนั้นทางผู้ผลิตก็จะย้ายไปลงในถังไม้โอ๊กชนิดเดียวกันเพื่อหมักต่อเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 18 เดือนด้วยกัน
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าไม่ได้มีดีแค่เพียงเรื่องราว ตำนาน และที่มาในการผลิตไวน์เพียงเท่านั้น แต่ว่าไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นไวน์แดงที่มีความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูงและมีโครงสร้างขององค์ประกอบที่ชัดเจน โดยลักษณะเด่นของกลิ่นและรสชาติของไวน์นั้นจะประกอบไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิด เช่นผลเบอร์รี่สีดำ ลูกพลัม ผลเบอร์รี่สีน้ำเงิน และยังมีกลิ่นกับรสชาติเพิ่มเติมของต้นโอ๊ก วานิลลาและช็อกโกแลตอีกด้วย นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความเข้มข้นที่เบาบางและนุ่มละมุน รวมทั้งยังมีความละเอียดอ่อนในเนื้อสัมผัสมากอีกด้วยเช่นกัน
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง เป็นไวน์ที่มีความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสที่สูง มีองค์ประกอบเป็นโครงสร้างที่ชัดเจน แต่ทว่ากลับมีความเบาบางและนุ่มละมุนของเนื้อไวน์ที่ค่อนข้างหาได้ยากในไวน์ชนิดอื่นๆ รวมไปถึงยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติของผลเบอร์รี่ทั้งดำและนำเงินหลากหลายชนิดที่ผสานตัวกันกับต้นโอ๊ก ลูกพลัม วานิลลาและช็อกโกแลตกันได้อย่างพอดีลงตัว ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14%
Catena Zapata Malbec Argentino
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Chateau Marquis d’Alesme Becker Margaux นับได้ว่าเป็นไวน์ชื่อดังที่ถูกส่งตรงและได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งแก่นักดื่มไวน์ทั่วทั้งโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรป ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีคฤหาสน์ โรงกลั่นไวน์และไร่องุ่นของตัวเองอย่าง Chateau Marquis d’Alesme ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตขนาดใหญ่อยู่ที่เมือง Margaux ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์แดงและเป็นระดับแนวหน้าของโลก ซึ่งเมืองนี้เป็นเมืองทั้งอยู่ในเขตการปกครองเมือง Bordeaux ของประเทสฝรั่งเศส
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนแต่ไม่ซับซ้อนมากนัก ด้วยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำสูตรการสร้างสรรค์ไวน์ดั้งเดิมจากประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ปี ค.ศ.1988 มาใช้ โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกใช้นั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 61%, Merlot 33% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot 6% มาใช้ในการผลิตไวน์ชนิดนี้ โดยองุ่นที่ใช้นั้นทางผู้ผลิตนั้นจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่กว่า 60% เป็นเวลายาวนานกว่า 18 เดือนเต็มเลยทีเดียว โดยในช่วงสามเดือนแรกนั้นทางผู้ผลิตได้มีการนำไปบ่มและหมักเพื่อเพิ่มอายุของไวน์ก่อน เพื่อทำให้ไวน์มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่น สี เนื้อสัมผัส และรสชาติของไวน์ที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ด้วยกลิ่นในช่วงแรกของไวน์ที่ค่อนข้างโดดเด่นไปด้วยกลิ่นของดอกไม้ ผลเชอร์รี่สีดำและกลิ่นของเครื่องเทศที่ผสานกันได้อย่างลงตัว บวกกันกับกลิ่นในช่วงกลางและช่วงท้ายที่เริ่มมีความสดชื่นและมีความหวานมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างดี และยังมีความเบาบางที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง นับได้ว่าเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ใครหลายคนล้วนจับตาไวน์ชนิดนี้ที่มีความสดใหม่ได้อย่างดีเลยทีเดียว
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งกลิ่นในช่วงเริ่มแรกที่เต็มไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์จากดอกไม้ ผลเชอร์รี่สีดำและเครื่องเทศที่ผสานกันได้อย่างลงตัว เป็นไวน์ที่มีทั้งความหวานและความสดชื่นได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5%
Chateau Marquis d’Alesme Becker Margaux
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
19 Crimes Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์แดงเลื่องชื่อที่ถูกส่งตรงมาจากเมืองผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น บวกกันกับชื่อที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของ 19 Crimes ก็ยิ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้ดูมีมนต์เสน่ห์มากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่มลรัฐวิกตอเรียของประเทศออสเตรเลีย
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์แห่งความภาคภูมิใจของชาว 19 Crimes และนักดื่มไวน์ในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแบรนด์ไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1788 ด้วยฝีมือของนักปรุงไวน์ที่ได้มีการอพยพมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทำให้ทางผู้ผลิตได้รับวัฒนธรรมการผลิตและสูตรการปรุงไวน์อันโดดเด่นมาจากประเทศอังกฤษด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแบรนด์ไวน์นี้ได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวการผลิตไวน์ผ่านเรื่องราวการเดินทางร่วมเดือนของนักปรุงไวน์ โดยทางผู้ผลิตนั้นมีการนำองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวมาใช้ในการผลิตไวน์ชนิดนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon แท้ 100% มาใช้ โดยองุ่นยอดนิยมชนิดนี้ทางผู้ผลิตจะนำลงไปหมักในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์เยี่ยมจากประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวและความเป็นมาของไวน์ชนิดนี้เท่านั้นที่สามารถดึงดูดนักดื่มทั่วโลกให้หันมาสนใจไวน์ชนิดนี้ได้ แต่ว่ามนต์เสน่ห์จริงของไวน์ชนิดนี้คือลักษณะของเนื้อสัมผัสและลักษณะภายนอกต่างหาก โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงสดสว่างไสว บวกกันกับกลิ่นของไวน์ที่มีความเข้มข้นไปด้วยกลิ่นของวานิลลาที่ผสานกันกับกลิ่นของผลเคอร์แรนสีแดง ดอกไวโอเลต และผลมัลเบอร์รี่ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสที่ค่อนข้างหวานหอมและเต็มน้ำเต็มเนื้อได้เป็นอย่างดี มีรสชาติที่โดดเด่นของวานิลลาและผลเคอร์แรนสีแดงที่เข้ากันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น สี เนื้อสัมผัส และรสชาติที่ยอดเยี่ยม น่าแนะนำให้แก่คนรอบข้างเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงสวยงามราวกับสีของเนื้อไวน์ชั้นดีที่ผสานกันกับกลิ่นและรสชาติที่หวานหอมจากวานิลลาและผลเคอร์แรนสีแดง ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดและเนื้อไก่ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5% อีกด้วยเช่นกัน
19 Crimes Cabernet Sauvignon
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Vieux Chateau Certan Grand Vin Pomerol นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของคุณภาพและรสชาติที่ยอดเยี่ยม สมกับเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่ถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาจากแบรนด์ไวน์ชั้นเยี่ยมอย่างเมือง Pomerol ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์แดงของเมือง Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งไวน์ที่ผลิตมาจากที่นี่มากกว่าครึ่งล้วนเป็นไวน์ที่มีราคาสูงติดระดับต้นของโลกเลยก็ว่าได้
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตโดยการนำวัฒนธรรมการปรุงไวน์ตามสูตรฉบับดั้งเดิมจากเมือง Bordeaux ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของการผลิตไวน์มาสร้างสรรค์ไวน์แดงชนิดอย่างดี โดยทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นทั้งสามสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot 60%, Cabernet Franc 30% และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 10% ซึ่งอัตราส่วนที่ใช้นั้นก็จะมีความแตกต่างกันตามสายพันธุ์ขององุ่นที่ทางผู้ผลิตเลือกใช้ แต่ก็จะไม่แตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต
นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติ รวมไปถึงสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างดียิ่งด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อสัมผัสของไวน์ที่ค่อนข้างเป็นสีแดงเข้มสมกับเป็นเนื้อไวน์แดงชั้นดี บวกกันกับกลิ่นของไวน์ที่เริ่มถ่ายทอดกลิ่นของดอกไม้หอมมาในช่วงแรก หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้ก็จะทยอยส่งกลิ่นที่หวานขึ้นราวกับกลิ่นของขนมทรัฟเฟิลที่ผสานกันกับกลิ่นของผลราสเบอร์รี่สีดำ เหล้าลูกพลัมและดอกเชอร์รี่ที่หวานหอม ละมุนด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่ค่อนข้างมีรสชาติที่คล้ายคลึงกัน ไม่แตกต่างกันมาก แต่ว่ารสสัมผัสจะมีความเข้มข้นและฉุนมากกว่าจากเครื่องเทศอย่างดีที่ผสมกันกับโกโก้ ผลไม้สีแดงหลากหลายชนิด ชะเอมเทศที่ช่วยส่งให้ไวน์ชนิดนี้มีความร่วมสมัยได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นจากผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลราสเบอร์รี่และลูกพลัม ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเครื่องเทศ ชะเอมเทศ โกโก้ และขนมทรัฟเฟิลที่ผสานกันได้อย่างดีมาก ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการที่จะนำไปรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5% อีกด้วยเช่นกัน
Vieux Chateau Certan Grand Vin Pomerol
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Penfolds Koonunga Hill Shiraz นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมคุณภาพดีที่ถูกส่งตรงออกมาจากการสร้างสรรค์และผลิตภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงเป็นระดับแนวหน้าของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นไวน์ระดับต้นของทวีปออสเตรเลียอย่าง Penfolds โดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังนี้เป็นแบรนด์ผลิตไวน์ที่มีโรงกลั่นไวน์เป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เขตภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตและขั้นตอนในกระบวนการผลิตที่ไม่ค่อยซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากทางผู้ผลิตมีการเน้นย้ำในการใช้องุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวมาเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิต ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Shiraz หรือ Syrah แท้ 100% และนำองุ่นเหล่านั้นผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบสมัยใหม่ของชาว Penfolds ที่มีอายุมายาวนานกว่าร้อยกว่าปีมาใช้ในการผลิต ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ทางผู้ผลิตก็ได้มีการผสมผสานการผลิตไวน์แบบดั้งเดิมเก่าแก่มาร่วม 170 ปีมาใช้ด้วยเช่นกัน โดยพวกเขาได้เลือกสรรวัตถุดิบอย่างดีและมีคุณภาพเท่านั้น
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่ยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจได้อย่างยิ่ง ไม่ใชเพียงแค่กรรมวิธีการผลิตเพียงเท่านั้น แต่ว่าเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติของไวน์นั้นกลับน่าสนใจไม่แตกต่างกัน โดยเริ่มจากเนื้อสัมผัสของไวน์ที่เป็นสีของไวน์ที่เป็นสีแดงสดสมกับเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมทีผสานตัวกันกับกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นของผลมัลเบอร์รี่สีแดงสดกับผลราสเบอร์รี่สีแดงที่เริ่มส่งกลิ่นทันทีที่เปิดขวดไวน์ หลังจากนั้นกลิ่นของผลเบอร์รี่สีน้ำเงิน ต้นโอ๊ก เครื่องเทศที่เผ็ดร้อน ต้นเบอร์รี่และสารแทนนินที่ค่อนข้างเปรี้ยวอีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ค่อนข้างทำให้นักดื่มหลายคนประหลาดใจอย่างยิ่ง ทั้งรสชาติของเครื่องเทศและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ค่อนข้างชัดเจนและโดดเด่นเป็นอย่างดียิ่ง แต่องค์ประกอบที่แสดงออกมานั้นกลับมีการแบ่งลำดับรสชาติได้เป็นอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ให้ความหวานอย่างชัดเจนอย่างยิ่ง และยังมีกลิ่นและรสสัมผัสของเครื่องเทศ ต้นโอ๊กและความเผ็ดจากปาปริก้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัวและเนื้อกวาง นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5% ด้วยเช่นกัน
Penfolds Koonunga Hill Shiraz
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Posts navigation
แนะนำเหล้านอก
error: Content is protected !!