Tag Archives: ไวน์

Chateau Haut Pontet, Saint-Emilion Grand Cru

Chateau Haut Pontet, Saint-Emilion Grand Cru

                Chateau Haut Pontet, Saint-Emilion Grand Cru เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการใช้องุ่นทั้งสามพันธุ์ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Merlot 66% องุ่นพันธุ์ Cabernet Franc 32% และใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 2% มาเป็นวัตถุดิบหลักเหมือนกันกับไวน์รุ่นอื่นๆของยี่ห้อ Chateau ซึ่งไวน์ชนิดนี้นอกจากจะใช้องุ่นทั้งสามพันธุ์แล้ว ยังมีการใช้กรรมวิธีที่รังสรรค์และละเอียดประณีตในการปรุงแต่งรสชาติของไวน์อีกด้วย โดยอย่างแรกเลยที่ทางผู้ผลิตได้ให้ความสำคัญคือการคัดเลือกและเก็บเกี่ยวองุ่นที่ใช้ในการผลิต จะต้องเป็นการเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้น นอกจากนี้ในการหมักไวน์ชนิดนี้ จะต้องใช้ถังที่ทำมาจากปูนซีเมนต์และถังไม้เท่านั้น

                กลิ่นของไวน์ชนิดนี้ก็นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่หอมหวานพอสมควร ด้วยกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นที่หอมอย่างเป็นธรรมชาติจากกลิ่นของดอกไม้ นอกจากกลิ่นของดอกไม้แล้ว  ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่หอมจากผลไม้จากตระกูลเบอร์รี่หลากหลายชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ก็ยังมีกลิ่นของเชอร์รี่ ซึ่งเป็นกลิ่นที่หอมนวล เบาบางอีกด้วย

                นอกจากกลิ่นที่หอมหวานและอุดมไปด้วยพลังจากธรรมชาติแล้ว รสชาติของไวน์ชนิดนี้ก็นับได้ว่าเป็นรสที่อร่อยและกลมกล่อมเป็นอย่างยิ่ง เป็นรสสัมผัสที่เบาบางและอร่อยเนื่องจากมีรสสัมผัสของผลไม้อยู่มาก โดยเฉพาะผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่ที่หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ผสมผสานและหลอมรวมกันกับรสของเครื่องเทศชั้นเยี่ยม

                โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่งดงาม เบาบางและกลมกล่อม เนื่องด้วยมีความเป็นผลไม้อยู่มาก ทั้งผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และองุ่นทั้งสามพันธุ์นี้ ซึ่งไวน์นี้ยังมีการผสมรวมกันกับเครื่องเทศที่เผ็ดฉุน แต่เข้ากันได้อย่างสมดุลและลงตัว นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% และเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานร่วมกันกับเนื้อย่างและชีส นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีจำหน่ายแค่ใน 2 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ประเทศฝรั่งเศสและประเทศเยอรมัน

Chateau Haut Pontet, Saint-Emilion Grand Cru

Chateau Haut Pontet, Saint-Emilion Grand Cru

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Grand Pontet Grand Cru Classé

Chateau grand pontet

                Chateau grand pontet 2012 เป็นไวน์ที่เกิดจากการรังสรรค์โดย Beau-Sejour Becot and Joanin Bacot ซึ่งได้รังสรรค์ไวน์ชนิดนี้ด้วยการใช้องุ่นพันธุ์ Merlot 75% องุ่นพันธุ์ Cabernet Franc 15% และใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 10% ซึ่งองุ่นเหล่านี้นั้น ผู้สร้างสรรค์ไวน์นี้ได้ใช้องุ่นที่ปลูกและเติบโตที่หมูบ้าน Saint Emillion Village เท่านั้น ซึ่งหมู่บ้านนั้นเป็นหมู่บ้านที่มีดินที่เป็นดินเหนียวผสมดินทรายและหินปูน โดยหมู่บ้านใช้ที่ดินสำหรับปลูกองุ่นอยู่ที่ประมาณ 5,500-8,000 เฮกเตอร์หรือราวประมาณ 5,500,000-8,000,000 เอเคอร์เลยทีเดียว

                ส่วนตัวไวน์นั้นเป็นไวน์ที่มีเนื้อไวน์เป็นสีแดงราวกับสีของทับทิม และสีก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงเมื่อไวน์นั้นมีอายุน้อยหรือหมักไว้ไม่นานนัก นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่หอมมาจากกลิ่นของผลไม้สีแดงต่างๆและมีความชัดเจนในวัตถุดิบแต่ละชนิดพอสมควร โดยกลิ่นของไวน์นี้จะหอมจากผลไม้เป็นหลัก แต่ก็ยังมีการแฝงกลิ่นของวานิลลาและกลิ่นราวกับหนังจางๆด้วย

                นอกจากกลิ่นที่หอมหวานและสดชื่นด้วยผลไม้แล้ว ไวน์ชนิดนี้ยังไม่รสชาติที่เต็มไปด้วยรสของวัตถุดิบทั้งสามชนิดที่หลอมรวมกัน เป็นรสชาติที่ผสมรวมกันระหว่างองุ่นนธุ์ Merlot องุ่นพันธุ์ Cabernet Franc และใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ซึ่งทั้งสามพันธุ์ได้ให้รสชาติที่แตกต่างกัน โดยองุ่นพันธุ์ Merlot นั้นให้รสสัมผัสเหมือนกันกับผลไม้ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ให้รสเหมือนสารแทนนินและองุ่นพันธุ์ Cabernet Franc ให้รสชาติที่เผ็ดฉุนคล้ายกันกับเครื่องเทศ

                โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ทั้งสามชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่หลากหลาย ลงตัวและชัดเจนเป็นอย่างมาก เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ขององุ่นทั้งสามพันธุ์ ได้แก่ องุ่นนธุ์ Merlot องุ่นพันธุ์ Cabernet Franc และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon และเป็นไวน์ที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิประมาณ 18 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที และมีอายุยาวนานกว่า 10-20 ปี

 

Chateau grand pontet 2012

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

 

Beaulieu Vineyard Napa Valley Cabernet Sauvignon

Beaulieu Vineyard (BV) Napa Valley Cabernet Sauvignon

                Beaulieu Vineyard (BV) Napa Valley Cabernet Sauvignon 2015 นี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีส่วนผสมขององุ่นจากไร่องุ่น Beaulleu ที่มีชื่อเสียงเรื่องการเพาะปลูกองุ่นระดับโลก โดยเป็นไวน์ที่เกิดจากการรังสรรค์โดย Jeffrey Stambor ในหมู่บ้าน Napa Valley ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ระดับโลก โดยหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์องุ่นที่มีส่วนผสมขององุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon เป็นหลัก

                ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อไวน์เป็นสีแดง และมีกลิ่นของไวน์ที่ออกไปทางเข้มข้นและนุ่มลึกตามแบบฉบับไวน์ที่มาจากหมู่บ้าน Napa Valley ที่มีชื่อเสียง เป็นกลิ่นอายที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งยังคงรักษากลิ่นอายของความดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ กลิ่นของไวน์ชนิดนี้ก็มีความซับซ้อนไปด้วยส่วนผสมนานาชนิด ทั้งองุ่น Cabernet Sauvignon ดอกไวโอเลตและกลิ่นของกาแฟมอคค่า นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่แยกออกเป็นชั้นๆทั้งกลิ่นของแบลกเบอร์รี่ แบลกเชอร์รี่และน้ำผลไม้อย่างน้ำพลัม

                นอกจากกลิ่นที่หอมหวานและแบ่งเป็นชั้นๆแล้ว รสชาติของไวน์ชนิดนี้ก็มีการแบ่งชั้นระดับด้วยเช่นกัน โดยไวน์ชนิดนี้มีรสชาติจากรสสัมผัสของแบลกเบอร์รี่ แบลกเชอร์รี่และน้ำผลไม้อย่างน้ำจากลูกพลัมอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่เต็มไปด้วยรสของเครื่องเทศแทบทุกชนิด โดยเฉพาะอบเชยที่มีรสแสดงออกมาเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีรสชาติของคาราเมลจากต้นโอ้กเผาและอบอย่างดี

                โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์จากผลไม้ที่มีการแบ่งแยกและโดดเด่นชัดเขน ทั้งแบลกเชอร์รี่ แบลกเบอร์รี่และลูกพลัม รวมทั้งยังมีความเป็นโอ้กจางๆที่ผสมหลอมรวมกันอีกด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระยะเวลาในการหมักยาวนานกว่า 15 เดือนและมีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.6% ซึ่งเป็นไวน์ที่เหมาะอย่างยิ่งในการดื่มควบคู่กับการรับประทานกับเนื้อย่างและชีส

 

Beaulieu Vineyard (BV) Napa Valley Cabernet Sauvignon 2015

Beaulieu Vineyard (BV) Napa Valley Cabernet Sauvignon 2015

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

 

Legende Bordeaux

Legende Bordeaux

               Legende bordeaux 2016 นี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ผลิตโดยนักปรุงไวน์ที่มีชื่อว่า Diane Flamond จาก Bordeaux และ Baron de Rothshild ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่เป็นไวน์ที่เกิดจากการผสมกันขององุ่นหลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งยังเป็นไวน์แดงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของความเรียบง่าย ความร่วมสมัยและความมีระดับไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักในถังโอ๊กยาวนานกว่า 9 เดือน เพื่อกลั่นกรองให้ได้รสชาติของไวน์ที่ดีเยี่ยมที่สุด

               โดยไวน์ชนิดนี้มีสีของไวน์ที่เป็นสีแดงเข้มมาก นอกจากนี้กลิ่นของไวน์ก็ยังมีกลิ่นที่เข้มข้นมากและมีกลิ่นที่แรงจะเตะจมูก โดยกลิ่นที่เตะจมูกนั้นเป็นกลิ่นที่ล้วนมีความสดใหม่และสดชื่นไปด้วยผลไม้สดนานาชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะได้แก่กลิ่นของเรดเคอร์เรนและกลิ่นของราสเบอร์รี่ โดยกลิ่นของต้นโอ๊กก็ผสมหลอมรวมอยู่กันกับกลิ่นของผลไม้เหล่านั้นด้วยเช่นกัน

              นอกจากกลิ่นที่หอมและรุนแรงแล้ว รสชาติของไวน์ชนิดนี้ก็นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่มีรสชาติที่กลมกล่อมและคงรักษาเอกลักษณ์ของไวน์แดงไว้อย่างชัดเจน ทั้งรสชาติที่ดื่มได้ง่ายและเยี่ยมยอด มีรสสัมผัสของต้นโอ๊กพันธุ์ดีที่มีรสเบาบางและกลมกล่อม รวมทั้งยังมีรสชาติจากรสสัมผัสของผลไม้ที่หลอมรวมกันได้อย่างสมดุลและลงตัวดีมาก นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ก็ยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ติดลิ้นยาวนานอีกด้วย

               โดยรวมแล้ว นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากการผสมผสานความเรียบง่ายและความมีระดับได้อย่างสมดุล เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติของโอ๊กและผลไม้อย่างโดดเด่น เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้เป็นการผสมรวมกันขององุ่นสองสายพันธุ์ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 60% และองุ่นพันธุ์ Merlot 40% อีกด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5% และมีความเป็นกรดอยู่ที่ 3.27

 

Legende bordeaux 2016

Legende bordeaux 2016

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Montes Alpha Cabernet Sauvignon

Montes Alpha Cabernet Sauvignon

 

ไวน์ชนิดนี้มาจาก Colchagua Valley ประเทศชิลี โดยประกอบไปด้วยองุ่นมีสองพันธุ์

นั่นคือ Cabernet Sauvignon 90% และ Merlot 10%ในกระบวนการผลิตนั้นใช้เวลา

ในการเก็บเกี่ยวช่วงปลายมีนาคมจนถึงช่วงกลางพฤษภาคม เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจึงนำมาเก็บและอัด

ให้แน่นในภาพที่ดีเยี่ยม ก่อนนำไปหมัก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักในถังโอ้กฝรั่งเศส

ที่มีอายุเล็กน้อยทั้งสามถัง โดยหมักองุ่นเพียงแค่ 55% ต่อครั้งเท่านั้นยาวนานกว่า 12 เดือน

ซึ่งทำให้ไวน์นี้มีอายุของไวน์มากกว่า 10 ปี โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการรังสรรค์และการรวมความคิด

ในการปรุงแต่งไวน์ชนิดใหม่โดยบุคคลทั้งสองท่าน ได้แก่ Aurelio Montes และ Douglas Murray

ซึ่งเป็นนักปรุงไวน์ที่ล้วนมีชื่อเสียงและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยองุ่นที่ใช้ในกรรมวิธีการผลิตนั้น

ก็เป็นองุ่นที่ถูกคัดแค่เอาพันธุ์ที่ดีที่สุดจากไร่องุ่นของตัวเองมาทำด้วยเช่นกัน

ด้วยไวน์นี้มีสีแดงทับทิมที่เข้มข้น โดยไวน์ชนิดนี้มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ขององุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ไว้อย่างเข้มข้นและรุนแรง รวมทั้งยังมีกลิ่นขององุ่น

ที่มีสีน้ำตาลเจือจางด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของมะกอกสีเขียว รวมทั้งยังมีกลิ่นของผล

ไม้สีดำจางๆแลพกลิ่นของโอ้กจางๆที่มีความคลาสสิก

รวมทั้งยังมีกลิ่นต้นสนและกลิ่นของไม้เผาไว้ด้วย

ในส่วนของรสชาตินั้น ไวน์นี้เต็มไปด้วยรสของสตรอเบอร์รี่สุกแบล็กเคอร์แรนท์ลูกเกดสีดำ

ผลไม้หวาน ยังรวมถึง ท๊อฟฟี่ และช็อกโกแลตสร้างความซับซ้อนให้กับรสชาติที่เข้มข้นในปาก

หลังชิมไวน์ตัวนี้แล้วจะสร้างความสมดุลให้กับผิวได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นไวน์ชั้นเลิศที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง

เพื่อใช้สร้างความบันเทิงได้ในอนาคต อีกทั้งกลิ่นหอมของครีมและผลไม้ที่ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างยาวนาน

แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับจิบไวน์ Montes Alpha Cabernet Sauvignon คู่กับเนื้อแดง

เนื้อมองโกเลีย สปาเก็ตตี้โบโลเนสซอส ชีส และซี่โครงเนื้อแกะกับซอสเห็ด

และควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 17 – 19 องศาเซลเซียส หรือที่ประมาณ 62-66 องศาฟาเรนไฮต์อีกด้วย

ใดยไวน์ชนิดนี้แนะนำว่าควรที่จะรินเตรียมไว้ในแก้งหรือภาชนะที่ใช้ดื่มอย่างน้อย 30 นาที

เพื่อที่จะรักษาและทำให้กลิ่นกับรสชาติดีที่สุด

นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในระดับ 14.3% อีกด้วย

Montes Alpha Cabernet Sauvignon
Montes Alpha Cabernet Sauvignon

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Escudo Rojo

Escudo Rojo

            Escudo Rojo คือการผสมผสานที่ดีเยี่ยมของกลุ่มองุ่นพันธ์ดั้งเดิมทั้งหลาย

โดยมีกระบวนการผลิตอันประกอบไปด้วย

Cabernet Sauvignon 40%, Camenere 38%, Syrah 20% และ Cabernet Franc 2%

ซึ่งได้รับการคัดเลือกและหมักไว้ในถังไม้โอ๊คนานถึง 12 เดือน

ในร้านขายของชำBaron Phillippe de RosthschildMaipo ที่ Valle Centralประเทศชิลี

ปีแล้วปีเล่า โดยที่การผสมผสานของวัตถุดิบจะทำเป็นรอบๆ ค่อนข้างซับซ้อน

และเข้มข้น มีปริมาณแอลกอฮอล์ 14% โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการ

ปรุงแต่งโดย Baron Philippe de Rothschild Maipo ซึ่งเป็นนักปรุงไวน์ให้กับ Chile

และเขาก็ได้เลือกไร่องุ่นที่มีชื่อว่า Valle Central ซึ่งเป็นไร่องุ่นที่ช่วยทำให้องุ่น

มีกลิ่นและรสชาติที่มีความแตกต่างจากไร่องุ่นอื่นโดยสิ้นเชิง รวมทั้งยังทำให้รสและกลิ่น

ของไวน์องุ่นมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากไร่องุ่นที่นี่,ได้รับสารอาหารมาจากดินเหนียวที่ไร่

องุ่นที่นี่ใช้อีกด้วย นอกจากเอกลักษณ์ที่ได้กล่าวไปแล้ว ไวน์ชนิดนี้ยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง

ซึ่งเป็นจุดเด่น ได้แก่ การเก็บองุ่นด้วยมือเท่านั้น  และจะคัดองุ่นด้วยฝีมือมนุษย์เท่านั้น

เพื่อคุณภาพของไวน์ที่ดีที่สุด

                ไวน์ตัวนี้มีสีแดงเข้มและสีม่วงเข้มที่มีเงาแวววับสะท้อนสว่าง และมักจะมีภาพรวมของกลิ่น

ของผลไม้สุกสีแดงและกลิ่นหอมของผลไม้สีดำ รวมถึงกลิ่นอ่อนๆของขนมปังเฮเซลนัท

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่มีความหอมฟุ้งกระจาย รวมทั้งยังมีกลิ่นไวน์ที่ซับซ้อนและเข้มข้น

โดยกลิ่นแรกที่เปิดออกมาคือกลิ่นที่เข้มข้นของแบลกเบอร์รี่ แบลกเชอร์รี่และกลิ่นสตรอเบอร์รี่ป่า

หลังจากนั้น ไวน์ชนิดนี้จะมีกลิ่นของเนื้อแบลกเบอร์รี่กับกลิ่นของถั่วอัลมอนด์และกลิ่นของ

การแฟคั่วตามมา ซึ่งเป็นกลิ่นอายที่มีความร่วมสมัยแฝงอยู่

ด้วยความเข้มข้นที่ลึกซึ้งจากองุ่นพันธ์ต่างๆ ทำให้มีรสชาติที่นุ่มนวล ละมุน

ซึ่งตรงข้ามกับกลิ่นที่แสดงออกมาอย่างสิ้นเชิง ด้วยรสที่สมบูรณ์แบบของราสเบอร์รี่

แบล็คเคอร์แรนท์ผสมผสานกับกลิ่นพริกไทยดำที่มีรสเผ็ด รวมถึงความกลมกล่อมขององุ่น

Cabernet, Syrah และCamenere โดยรสชาติที่สามารถสัมผัสได้เมื่อนักดื่มได้ลิ้มลองไวน์

ชนิดนี้คือความนุ่มนวลและความเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย ทั้งราสเบอร์รี่ แบลกเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ป่า และบิลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นเบอร์รี่สีฟ้าเข้มที่พบได้แค่เฉพาะพื้นที่ทางยุโรปตอนเหนือเท่านั้น

หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้จะมีความนุ่มที่มียิ่งขึ้นไปอีกและความซับซ้อนจากผิวของผลไม้ดำทั้งหลาย

และจบท้ายด้วยรสสัมผัสที่มีรูปแบบเฉพาะตัวจากรสสัมผัสที่เหมือนกับขนมปังปิ้ง กาแฟ

และรสของดอกไม้หอมต่างๆ ซึ่งรสชาติทั้งหมดนั้น ผสมรวมตัวกันได้อย่างพอเหมาะพอ

เจาะและมีความร่วมสมัย และความสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้นยังเป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อม

และมีพลังที่ถ่ายทอดความเป็นท้องถิ่นที่ผลิตไวน์นี้อีกด้วย

ปิดท้ายด้วยการทานคู่กับอกเป็ดอบซอสเครื่องเทศ และพริกไทยเสฉวน

รวมถึงเนื้อแกะ เค้กช็อคโกแลตกับชีส  และควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 16 – 17 องศาเซลเซียส

 

Escudo Rojo
Escudo Rojo

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon

Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon

ไวน์ชนิดนี้ผลิตจากนาป้า วัลเลย์  (Napa Valley) ซึ่งอยู่ที่รัฐซาน ฟราซิสโก ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งมีกระบวนการผลิตโดยทำมาจากองุ่น ที่มาจากการผสมจากหลากหลายพันธ์

คือ Cabernet Sauvignon 86%, Merlot 10%, Petit Verdot 2%,Cabernet Franc 1%,

Malbec 0.5% และ Syrah 0.5%โดยองุ่นนั้นได้ถูกเก็บเกี่ยวและ เรียงไว้อย่างรอบคอบในห้องใต้ดิน

โดยองุ่นทั้งหมดที่ใช้ในกรรมวิธีการผลิตไวน์นี้ จะต้องเกิดจากการคัดเลือกมาจากองุ่น

ที่มีคุณภาพมากที่สุดที่มาจากไร่องุ่น Oakville และไร่องุ่น  Wappo Hill เท่านั้น

โดย ก่อนที่จะมีเริ่มกระบวนการผลิตซึ่งจากการผสมผสานขององุ่นได้ผ่าน

การทดลองชิมมากกว่า 18  เดือนของอายุบาเรล โดยเป็นการนำลักษณะเฉพาะตัวของไวน์จากย่านชุมชน Napa Valley

ที่มืชื่อเสียงในการหมักไวน์มาหลายปี จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีความดั้งเดิมแบบคลาสสิกและมีกลิ่นอายของ

ความดั้งเดิมแฝงอยู่อย่างสมบูรณ์และน่ามหัศจรรย์ และไวน์ชนิดนี้ได้เกิดจากการสร้างสรรค์และปรุงแต่ง

โดย Robert Mondavi นักปรุงไวน์ชื่อดังที่สร้างสรรค์ผลไวน์ไว้หลากหลาย

โดยเฉพาะไวน์ที่มาจากถิ่น Napa Valley แห่งนี้

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์แดงเข้ม สีประหนึ่งกับสีที่เข้มและข้นเหมือนกับสีของหมึกก็ว่าได้

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่หอมเหมือนกันกับไวน์แคสซิสที่เป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักลูกเกดดำ

ผสมรวมกันกับกลิ่นของบลูเบอร์รี่ที่รุนแรงและลุ่มลึก นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์

ที่มีรสสัมผัสอันรุนแรงจากแบลกเบอร์รี่ ลูกพลัม และผลไม้สีเข้ม รวมทั้งกลิ่นที่ซับซ้อนของเครื่องเทศ

สมุนไพร และเต็มไปด้วยความแน่นฉ่ำของผลไม้  นอกจากรสชาติเหล่านั้นแล้ว

ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติของที่หวานมากๆจากผลไม้สุกต่างๆ รวมทั้งยังมีรสสัมผัสของช็อกโกแลตที่

รวมตัวกันได้เป็นอย่างดี และทำให้ไวน์นี้มีความอบอุ่นที่ตราตรึงใจแก่เหล่านักดื่มทั้งหลายอีกด้วย

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเปรี้ยวที่เหมือนกับความเปรี้ยวจากสารเทนนินที่มาตัดกับรสของไวน์

ที่หวานมากได้อย่างลงตัว ทำให้ไวน์ชนิดนี้ไม่ได้มีแค่เพียงความหวานแต่อย่างเดียว โดยรวมแล้ว

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความนุ่มนวลและความรู้สึกที่ดีมากกว่าไวน์ทั้งหลายก็ว่าได้สำหรับเหล่านักดื่ม

หลายๆท่านที่ได้มีประสบการณ์สัมผัสกับไวน์ชนิดนี้ เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่เต็มเปี่ยม

รวมทั้งยังมีรสและกลิ่นอายที่ทันสมัยมากขึ้น

สิ่งที่ขาดไม่ได้ เมื่อดื่มไวน์ตัวนี้ คือ การรับประทานคู่กับ เนื้อแกะ เนื้อซี่โครงย่าง เนยแข็ง

เนื้อลูกวัวสับ โดยเฉพาะอาหารจำพวกเนื้อ หมู เนื้อลูกแกะ เป็ด หรือเนื้อสัตว์ที่ได้มาจากการล่า

ต่างๆนั้นล้วนเป็นที่นิยมรับประทานควบคู่กับไวน์ชนิดนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้อาหาร

จำพวกแฮมเบอร์เกอร์ บาร์บีคิว สตูเนื้อ หรืออาหารจากวัฒนธรรมพื้นบ้านเอเชียก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ที่จะรับประทานควบคู่กับไวน์ชนิดนี้จากคำบอกเล่าของนักปรุงไวน์นี้ นอกจากนี้

ไวน์ชนิดนี้ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 16 – 18 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมในการดื่มมากที่สุด

อยู่ที่ประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์ โดยความเย็นระดับนี้

จะช่วยให้ไวน์มีความสดมากที่สุด นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ควรถูกรินอยู่ในแก้วได้แค่ประมาณ 1-3 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในระดับ 14.5% อีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon
Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon
สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

 

Mouton Cadet Bordeaux

Mouton Cadet Bordeaux

                Mouton Cadet Bordeaux เป็นไวน์บอร์กโดซ์ที่ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส

มีปริมาณแอกอฮอล์ประมาณ 12% ซึ่งมีกระบวนการผลิตโดยทำมาจากองุ่นหลากหลายพันธ์

คือ Merlot65% ,CarbanetSayvignon 20% และ Cabernet Franc 15% โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการหมักองุ่น

ทั้งสามพันธุ์ลงในถังไม้ ทำให้ไวน์ชนิดนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ช่วงประมาณ 12-13% นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้

ยังเกิดจากการรังสรรค์และการคิดค้นโดย Baron Philippe de Rothschild S.A.

มีชื่อเสียงในการออกแบบไวน์ระดับโลก

สีของไวน์จะเป็นสีแดงทับทิมไฮไลท์สีม่วงเงางาม ไวน์ตัวนี้เมื่อเปิดออกกลิ่นจะค่อนข้างแรง

และออกจะเผ็ดซักเล็กน้อย  อีกทั้งยังมีกลิ่นที่หอมและมีเสน่ห์มาจากผลเบอร์รี่สีแดงและสีดำ

ที่มาพร้อมกับกลิ่นของสะระแหน่และแยมสตรอว์เบอรร์รี่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ที่มิอาจลืมได้

ลงจากกลิ่นหอมของผลไม้ โดยเฉพาะกลิ่นของสตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ รวมทั้งยังมีกลิ่นเข้มนิดๆอย่างกลิ่นของไวน์

สาเกมาช่วยตัดความหวานที่มาจากผลไม้ที่มาจากไวน์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ไวน์ยังมีกลิ่นเปรี้ยวหน่อยๆของเลม่อน

มาช่วยชูกลิ่นของไวน์ให้ดีขึ้นอีกด้วย โดยกลิ่นทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้นเป็นกลิ่นที่ผสมรวมกันได้อย่างสมดุลและลงตัว

นอกจากนั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีการเพิ่มพริกไทยลงไปเพื่อเสริมความเผ็ดและฉุนให้แก่ตัวไวน์แทนที่

จะมีการใส่เครื่องเทศจำพวกอบเชยอย่างที่ไวน์ทั่วไปเป็น

ด้วยโครงสร้างที่ดีของไวน์ตัวนี้ ประกอบกับการสัมผัสรสที่มีเทกเจอร์ที่หลากหลาย

กลมกล่อม แต่กลับสมดุลอย่างน่าประหลาดใจ และยังอุดมไปด้วยผลไม้ที่เน้นรสสัมผัสของชะเอม

ด้วยสัมผัสที่นุ่มลึกยาวนานทำให้ได้รับรสที่รู้สึกถึงความแตกต่างของผลเบอร์รี่รสชาติต่างๆ

นอกจากความสมดุลของไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นความงดงามแล้ว ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเข้มแข็ง นุ่มนวล

และความตรงไปตรงมาของรสชาติเป็นอย่างดี โดยรสชาติและกลิ่นของไวน์ชนิดนี้มีความเหมือนกันเป็นอย่างมาก

ด้วยรสสัมผัสของผลไม้จำพวกเบอร์รี่ โดยเฉพาะผลไม้สีแดงต่างๆที่มีทำให้ไวน์ชนิดนี้มีเสน่ห์และมีความร่วมสมัย

นอกจากนี้ไวน์ยังมีกลิ่นอายของความคลาสสิกนิดๆจากการเติมเครื่องเทศลงไปเล็กน้อย

เพื่อเพิ่มให้ไวน์ชนิดนี้มีความสดใหม่ รวมทั้งยังมีรสของสมุนไพรมาตัดรสชาติหลักทำให้ไวน์ชนิดนี้

มีรสสัมผัสที่ติดลิ้นยาวนานมากยิ่งขึ้น และยังคงเอกลักษณ์ของไวน์ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี

เพื่อความสมบูรณ์แบบ ไวน์ตัวนี้ เมื่อดื่ม ควรเติมเต็มด้วยการรับประทานคู่กับ

เนื้อกวาง กระต่าย เป็ด และ เนื้อลูกวัว กับ ซอสเห็ด รวมถึง ปลาทูน่าในซอสไวน์และเนื้อแกะกับผัก

รวมทั้งอาหารญี่ปุ่นอย่างเช่นซูชิก็สามารถทานควบคู่ได้ด้วยเหมือนกัน นอกจากอาหารคาวที่เหมาะสม

ในการรับประทานคู่กับไวน์ชนิดนี้แล้ว ขนมหวานบางชนิดก็มีความเหมาะสมที่จะรับประทานควบคู่กับไวน์เช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นขนมทาร์ตรสราสเบอร์รี่หรือขนมญึ่ปุ่นบางชนิด อีกทั้งควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 17-19 องศาเซลเซียส

และไวน์นี้จะมีรสชาติและกลิ่นที่ดีมากยิ่งขึ้นเมื่อไวน์นี้อยู่ในอุณหภูมิที่ 8-10 องศาเซลเซียส

Mouton Cadet Bordeaux
Mouton Cadet Bordeaux

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Trapiche Medalla Cabernet Sauvignon

ไวน์ Trapiche Medalla Cabernet Sauvignon เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดจากเมือง Mendoza

ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในประเทศอาร์เจนติน่า โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตไวน์ระดับโลก

โดยไวน์ชนิดนี้ได้มีการใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 100% เท่านั้น

โดยองุ่นที่มีต้นกำเนิดจากไร่องุ่นในชุมชนย่าน Cruz de Piedra และ Luján de Cuyo

ซึ่งทั้งสองแห่งนั้นอยู่ในจังหวัด Mendoza ประเทศอาร์เจนติน่า

โดยไวน์ชนิดนี้มีกรรมวิธีในการผลิตที่นำองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon

เท่านั้นมาคัดเลือกโดยเอาพันธุ์และผลที่ดีเยี่ยมและมีคุณภาพสูงสุดมาใช้ในการหมักลงในถังโอ้ก

จากฝรั่งเศสอย่างดี โดยให้เวลาในการหมักยาวนานกว่า 18 เดือนเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติของไวน์ให้ดีเยี่ยมดีขึ้น

หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้จะเริ่มมีกลิ่นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยสีของไวน์ชนิดนี้จะมีสีที่แดงเข้มผสมรวมกัน

กับสีม่วงที่หลอมรวมกันอย่างดี เป็นเนื้อเดียวกัน รวมทั้งยังมีกลิ่นที่หอมมาก เป็นกลิ่นที่อุดมไปด้วยกลิ่นของแยมลูกพลัม

กลิ่นของพริกเขียว ลูกเกด กลิ่นของใบยาสูบ และกลิ่นของต้นโอ้ก

ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นรวมกันอย่างสมดุลและทำให้รสชาติของไวน์ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสมีทั้งความหวานและความเผ็ดฉุนจางๆของกานพูและพริกไทยดำเล็กน้อย

มีรสชาติที่หอมหวานมาจากรสสัมผัสของผลไม้สีดำต่างๆ ทั้งไวน์ที่หมักจากลูกเกดดำ

รสชาติของพริกไทย รสของลูกพลัม กาแฟและช็อกโกแลตอีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้มีความหวาน เผ็ดฉุน และขมที่ผสมรวมกันได้อย่างลงตัวทั้งรสชาติและกลิ่น

ทำให้ไวน์ชนิดนี้มัสัมผัสที่น่าดึงดูด มีเสน่ห์ มีความสดใหม่และมีความสมบูรณ์แบบได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

โดยไวน์ชนิดนี้มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง

ที่จะดื่มควบคู่กับการรับประทานคู่กับเนื้อสเต๊กต่างๆ ชีส และพาสต้าที่ใส่เครื่องเทศต่างๆ

 

Trapiche
Trapiche

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Robert Mondavi Cabernet-Sauvignon Private Selection

Robert Mondavi Cabernet-Sauvignon Private Selection

ไวน์ Robert Mondavi Cabernet-Sauvignon Private Selection

เป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดในการผลิตมาจากเมือง Monterey County ซึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยไวน์ที่มีการนำองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักเพียงชนิดเดียว

โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการรังสรรค์มาจากนักปรุงไวน์ชื่อดังนามว่า Robert Mondavi

ผู้ที่กำเนิดมาจากชุมชน Oakville ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยนักปรุงไวน์คนนี้เป็นคนเดียวกันกับที่ออกแบบไวน์หลายชนิดที่มาจาก Napa Valley

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีมีอายุของไวน์ยาวนานเพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้น

โดยการหมักครั้งนี้จะต้องใช้การหมักในอัตราส่วนที่เหมาะสม โดยใช้อัตราส่วนขององุ่นในปริมาณมาก

และวัตถุดิบอื่นๆใส่ในถังหมักในปริมาณน้อย โดยในการหมักไวน์นี้

จะใช้การหมักลงในถังโอ้กจากอเมริกาชั้นดีที่ใช้ในการหมักไวน์เบอร์บอน

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีแดงเข้มเหมือนกันกับสีของทับทิม และเมื่อเปิดขวดไวน์ออกมาก็จะพบว่ากลิ่นไวน์

นี้จะเป็นกลิ่นที่เหมือนกันกับกลิ่นของไวน์วิสกี้เบอร์บอนแบบดั้งเดม เนื่องมาจากกรรมวิธีในการผลิตไวน์นี้คล้ายคลึง

กับกรรมวิธีในการผลิตไวน์เบอร์บอน โดยกลิ่นที่นักดื่มจะได้คือกลิ่นของขนมหวานที่ทำมาจากแบล็กเบอร์รี่

รวมทั้งกลิ่นดาร์กเบอร์รี่ กลิ่นของแป้งที่ใช้ทำขนมแคร็กเกอร์ กลิ่นของน้พตาลทราย วานิลลา นมช็อกโกแลต

กลิ่นโอ้กย่าง กลิ่นกาแฟและกลิ่นรมควันจางๆ

นอกจากกลิ่นแล้ว รสชาติของไวน์นี้ก็นับได้ว่าเป็นรสชาติที่เหมือนกันกับกลิ่นอย่างมาก

เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสของแบล็กเบอร์รี่ พายบลูเบอร์รี่ ขนมถั่วเคลือบคาราเมล

รสหวานจากน้ำตาลทรายแดง คาราเมล กาแฟโมคาและรสของควันจากการรมควัน

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่ดีเยี่ยม

มีทั้งกลิ่นอายและรสชาติเหมือนกันกับไวน์เบอร์บอน และเป็นไวน์ที่เหมาะมากที่ดื่มควบคู่ไปกับการรับประทาน

กับซี่โครงย่างรมควัน ขนมปังกับแฮม พาสต้าและการรับประทานอาหารนอกบ้าน

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ 14.5%

Robert Mondavi
Robert Mondavi

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ