Chateau Labegorce Margaux นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในแถบทวีปยุโรปอย่าง Chateau Labegorce ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่ย่านชุมชนที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์อย่าง Margaux ของเมือง Bordeaux ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการผลิตไวน์ที่สำคัญเป็นระดับแนวหน้าของโลกแล้ว ยังนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นคฤหาสน์ที่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วยเช่นกัน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนและพิถีพิถันอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนแรกที่มีการเลือกและคัดสรรองุ่นมากถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตนั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot, Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยปริมาณและอัตราส่วนที่นำมาใช้ในการผลิตในแต่ละปีจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งทางผู้ผลิตนั้นจะมีการนำองุ่นทั้งหมดมาใช้ในการผลิตไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบเยี่ยมที่ค่อนข้างใหม่เกือบ 50% ด้วยกัน ไปหมักเป็นเวลายาวนานกว่า 15 เดือนด้วยกัน
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างดียิ่ง โดยเริ่มแรกนั้น สีของเนื้อสัมผัสนั้นงดงามอย่างมาก เป็นไวน์ที่มีสีแดงเข้มสวยงามอย่างยิ่ง ซึ่งไวน์ชนิดนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่สีของเนื้อสัมผัสเท่านั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นอย่างมาก มีทั้งกลิ่นและรสชาติของดอกไม้นานาชนิด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อยู่มาก มีทั้งเบอร์รี่สีดำ บลูเบอร์รี่ ช็อกโกแลต ผลเชอร์รี่ เมล็ดกาแฟและลูกพลัมสุก ซึ่งนับได้ว่ามีความชัดเจนและมีความสดชื่น ความเปรี้ยวจากสารแทนนินและความเบาบางได้อย่างดีอีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง มีทั้งกลิ่นและรสชาติของดอกไม้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ช็อกโกแลต สารแทนนิน เชอร์รี่ ช็อกโกแลตและลูกพลัมสุก ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5-14.5% ซึ่งนับได้ว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับไวน์ทั่วไป
Chateau Labegorce Margaux
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Château Bahans Haut-Brion 1998 นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในแถบทวีปยุโรปอย่าง Château Bahans Haut-Brion ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Pessac-Léognan ที่อยู่ทางด้านตอนใต้ของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการผลิตไวน์ที่สำคัญเป็นระดับแนวหน้าของโลกแล้ว ยังนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นคฤหาสน์ที่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วยเช่นกัน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นมากถึงห้าชนิดด้วยกันมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตตามหลักการผลิตไวน์แดงของ Bordeaux ซึ่งองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้เลือกสรรมาใช้ก็คือ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Petit Verdot และองุ่นสายพันธุ์ Malbec ซึ่งปริมาณและอัตราส่วนขององุ่นที่นำมาใช้นั้นก็จะค่อนข้างแตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต โดยทางผู้ผลิตนั้นก็จะนำองุ่นทั้งหมดนั้นไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสตามสูตรต้นตำรับที่มีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นของชาวพื้นเมือง
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกและความประทับใจจากกลิ่นและรสชาติอย่างยอดเยี่ยม ด้วยตัวเนื้อสัมผัสของไวน์นี้เป็นไวน์แดงที่มีแดงเข้มราวกับสีของอิฐผสานกันกับสีของโกเมน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายและรสสัมผัสของครีมและผลบลูเบอร์รี่ที่ผสานกับกลิ่นและรสชาติของผลเบอร์รี่สีดำ ซึ่งนับได้ว่าสวยงามเป็นอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างดียิ่ง ไม่ว่าจะเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงสวยงาม มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมจากครีม บลูเบอร์รี่และผลเบอร์รี่สีดำ ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ13-14.5% อีกด้วยเช่นกัน
Château Bahans Haut-Brion 1998
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Ornellaia Bolgheri Superiore นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากที่สุดในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบบริเวณยุโรปอย่าง Ornellaia ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอย่างดินแดนที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์สัญชาติยุโรปอย่าง Bolgheri ในชายหาด Tuscan ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมือง Livorno ของประเทศอิตาลี
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นมากมายหลายชนิดมาใช้ในกระบวนการผลิตในครั้งนี้ โดยสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตในครั้งนี้จะมีอยู่ทั้งหมดสี่สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 53%, Merlot 23%, Cabernet Franc 17% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot 7% โดยทางผู้ผลิตจะมีการนำองุ่นทุกสายพันธุ์ที่ผ่านการเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้นมาหมักลงในถังไม้โอ๊กอย่างดี
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ค่อนข้างโดดเด่นและมีความยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเข้มข้นราวกับเป็นสีแดงทับทิม รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นของผลเบอร์รี่สีดำและบลูเบอร์รี่ที่เข้มข้นและผสานตัวกันกับกลิ่นของเครื่องเทศอีกด้วยเช่นกัน นอกแหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างยิ่ง โดยเฉพาะรสชาติของความเปรี้ยวจากสารแทนินที่ดีด้วยเช่นกัน
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของผลเบอร์รีสีดำและผลบลูเบอร์รี่อีกด้วย ซึ่งยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีคุณสมบัติอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เครื่องในสัตว์ เนื้อกวางและอาหารจานเดียวอย่างพาสต้า นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5-15% อีกด้วยเช่นกัน
Ornellaia Bolgheri Superiore
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Dominus Estate Napa Valley นับได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในแถบทวีปอเมริกาเหนือที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาและผลิตขึ้นด้วยฝีมือคุณภาพจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Dominus Estate ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนที่มีการกล่าวเลื่องลือในเรื่องความสามารถในการผลิตไวน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่าง Napa Valley ซึ่งสังกัดในเขตการปกครอง Napa ที่อยู่ทางด้านชายหาดตอนเหนือของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่เดียวกันกับคฤหาสน์ที่มีนามเดียวกันที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของอเมริกาด้วยเช่นเดียวกัน
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่ทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นที่แตกต่างกันมาใช้ในการผลิตที่เป็นชนิดเดียวกัน แต่จะมีการใช้อัตราส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อยตามแล้วแต่ปีที่ผลิต ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตหลักนั้นจะมีการใช้เพียงแค่สามสายพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot เท่านั้น ซึ่งองุ่นทุกสายพันธุ์จะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนตุลาคมเท่านั้น เพื่อที่จะได้องุ่นที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุด หลังจากที่ทางผู้ผลิตได้มีการคัดเลือกองุ่นแล้วนำไปบ่มในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นไวน์แดงที่มีความเข้มข้นและมีโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมอย่างดียิ่งอีกด้วย ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของไวน์ที่ความเข้มข้นอย่างยิ่ง เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่โดดเด่นของผลเบอร์รี่หลากหลายชนิด รวมทั้งยังมีกลิ่นที่คล้ายคลึงกับขนมทรัฟเฟิลอีกด้วย รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสสัมผัสของดอกลาเวนเดอร์ สารแทนนินที่ค่อนข้างเปรี้ยวและดาร์กช็อกโกแลต
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความเหมาะสมสำหรับทุกเพศทุกวัย อันเนื่องมาจากเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและรสชาติของผลเบอร์รี่หลากหลายชนิด ขนมทรัฟเฟิล ดาร์กช็อกโกแลต สารแทนนินหรือดอกลาเวนเดอร์อีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-15% อีกด้วย
Dominus Estate Napa Valley
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในแถบดินแดนของทวีปยุโรปอย่าง Domaine Leflaive ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Puligny-Montrachet ของเมือง Cote de Beaune ในภูมิภาค Burgundy ของประเทศฝรั่งเศส
โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้มีการใช้พื้นที่ขนาดเล็กอย่าง Bienvenues-Batard-Montrachet มาใช้ในการผลิต โดยพื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่ทางด้านปลายเขาฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขา Montrachet ซึ่งสถานที่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นที่มีสภาพอากาศสมบูรณ์และเหมาะสมกับการทำไวน์ขาวอย่างยิ่ง โดยทางผู้ผลิตได้มีการคัดสรรองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวเท่านั้นที่เอามาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay ที่นิยมระดับโลกในการทำไวน์ขาวและนำองุ่นทั้งหมดไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบเยี่ยม
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่งดงามน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้ที่มีความเข้มข้นและซับซ้อนในเนื้อสัมผัส รวมทั้งมีความมันของเนยเล็กน้อยก็ยิ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้มีมนต์เสน่ห์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความทรงพลังในส่วนของกลิ่นและรสชาติเป็นอย่างยิ่ง เป็นกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยผลไม้สุกมากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน โดยเฉพาะกลิ่นของต้นโอ๊กที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นและรสสัมผัสของสมุนไพรที่ค่อนข้างเจือจางอีกด้วยเช่นกัน จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างเบาบางขึ้น ไม่เข้มข้นมากเหมือนเดิมอีกต่อไป
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อมและน่าลิ้มลองอย่างยิ่ง ทั้งส่วนของรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากผลไม้สุกหลากหลายชนิดที่ผสานตัวกันกับกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊ก สมุนไพร และเครื่องเทศบางชนิดอีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อไก่ โดยเฉพาะกับไก่งวงจะมีรสชาติยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-14% เพียงเท่านั้น
Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Decoy Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Decoy ที่เป็นแบรนด์ชื่อดังและก่อตั้งมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้เป็นแบรนด์ไวน์แหล่งที่สอง รวมทั้งยังเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ของประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อนที่ค่อนข้างสูงมากอย่างยิ่ง ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นกระบวนการผลิตที่มีการใช้สายพันธุ์องุ่นจำนวนมากถึง 6 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 78% Merlot 13% Zinfandel 4% Petite Syrah 2% Syrah 2% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot 1% โดยทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นทั้งหมดนั้นมาใช้ในการหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์อเมริกันชั้นเยี่ยมอย่างยิ่งอีกด้วย
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกและรูปร่างที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของสีเนื้อสัมผัสที่เป็นสีค่อนข้างเข้ม เป็นสีของไวน์แดงที่สวยราวกับสีของโกเมนอย่างยิ่ง และความพิเศษของไวน์ชนิดนี้คือเป็นไวน์ที่มีประกายความสว่างสดใสบนพื้นผิวสัมผัสอยู่เล็กน้อยอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นและมีมนต์เสน่ห์ในกลิ่นของผลไม้สีแดงหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผลเคอร์แรนสีแดงที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกเหนือจากนี้ ในส่วนของรสชาติของไวน์นั้นนับได้ว่าเป็นไวน์ที่รสสัมผัสที่ผสมผสานกันอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสที่ร้อนแรงที่มาจากสารแทนนินที่ให้ความเปรี้ยวเป็นกรดแก่ไวน์อย่างชัดเจน รวมไปถึงรสสัมผัสที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลตและเครื่องเทศที่ถูกบ่มในถังไม้โอ๊กอีกด้วย
ในภพารวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง นับได้ว่าเป็นไวน์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยผลไม้มากมาย โดยเฉพาะผลไม้ที่เป็นสีแดง เช่น ผลเคอร์แรนสีแดงที่ผสานกันกับกลิ่นและรสชาติของช็อกโกแลต ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% เพียงเท่านั้น
Decoy Cabernet Sauvignon
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Bottega Soave Classico นับได้ว่าเป็นไวน์หนึ่งในประเภทไวน์ขาวยอดนิยมที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์ไวน์ชั้นเยี่ยมอย่าง Bottega ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของยุโรปที่มีถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Soave ที่ตั้งอยู่ในเมือง Veneto ของประเทศอิตาลี
ไวน์ Soave ได้รับการตั้งชื่อตามเมืองที่คล้ายคลึงกันซึ่งก่อตั้งโดย Lombards หรือที่เรียกว่า Suaves เป็นไวน์อิตาลีชนิดแรกที่พื้นที่การผลิตถูก จำกัด โดยพระราชกฤษฎีกาในปี 1931 และยังเป็น DOC แห่งแรกที่ได้รับการยอมรับใน Veneto เมื่อ DOC“ Soave Superiore” ได้รับการยอมรับ การบ่งชี้ “Classico” เป็นสิทธิพิเศษของ Soave ที่ผลิตในพื้นที่ “คลาสสิก” ดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดเช่นเนินเขา Soave และ Monteforte รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่มีราคาที่แพงที่สุดในกลุ่มไวน์ Soave Classico อีกด้วย
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะทั้งภายในและภายนอกที่โดดเด่นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีเหลืองขาวที่ให้ความรู้สึกราวกับสีของฟางข้าวสวยงาม บวกกันกับกลิ่นของไวน์ที่มีความเป็นผลไม้อย่างชัดเจนและมีความละเอียดอ่อนในตัวเนื้อกลิ่นด้วยเช่นกัน โดยผลไม้ที่มีความโดดเด่นออกมา ได้แก่ ผลแอปเปิลและผลส้มเขียวหวานที่ผสานกันกับกลิ่นของดอกไม้และเหล้าสาเกชั้นดี นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ให้บรรยากาศความร่วมสมัยในเนื้อสัมผัสได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในส่วนขององค์ประกอบไวน์ที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นทั้งจากความเปรี้ยวและเนื้อของถั่วอัลมอนด์อีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความเป็นกรดที่ให้กลิ่นและรสชาติที่เปรี้ยวแก่ไวน์ชนิดนี้ที่ผสานกันกับกลิ่นและรสชาติความหวานจากผลแอปเปิล ผลส้มเขียวหวาน ดอกไม้สีขาวและเหล้าสาเกที่ผสานกันกับถั่วอัลมอนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ทะเลที่มีเปลือกแข็ง อาหารมังสวิรัติ อาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารว่างและเนื้อปลาไขมันต่ำ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5% และควรที่จะรับประทานไวน์นี้เมื่อไวน์มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10-12 องศาเซลเซียส เพื่อรสชาติไวน์ที่ดีเยี่ยมเท่านั้น
Bottega Soave Classico
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Bottega Pinot Grigio delle Venezie นับได้ว่าเป็นไวน์หนึ่งในประเภทไวน์ขาวยอดนิยมที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์ไวน์ชั้นเยี่ยมอย่าง Bottega ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของยุโรปที่มีถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง delle Venezie ที่ตั้งอยู่ในเมือง Veneto ของประเทศอิตาลี
DOC Venezia เป็นนิกายล่าสุดที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 เพื่อส่งเสริมไวน์ในดินแดนที่มีประเพณีการผลิตไวน์นับพันปี ตั้งอยู่ในที่ราบ Padan ตะวันออกและรวมถึงจังหวัด Treviso และ Venice ที่นี่สภาพอากาศและสภาพแวดล้อมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกเถาวัลย์ต่าง ๆ รวมทั้ง Pinot Grigioเถาวัลย์นี้เป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ของ Pinot Nero ซึ่งทำให้ได้รับความสง่างามและความประณีต
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะของเนื้อสัมผัสรวมทั้งสีของเนื้อไวน์ที่โดดเด่นตามสภาพไวน์ขาวชั้นเยี่ยม โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของไวน์เป็นสีเหลืองขาวราวกับสีขาวฟางข้าวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีทองแดงเล็กน้อย บวกกันกับไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความร่วมสมัยที่ชัดเจนอย่างยิ่ง รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนด้วยกลิ่นของดอกเอลเดอร์และดอกอคาเซีย อีกทั้งยังมีกลิ่นของผลไม้ โดยเฮพาะลูกแพรและลูกพีชกับกลิ่นของถั่วอัลมอนด์อีกด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่มีความแห้งอย่างชัดเจน แต่ไวน์นี้ไม่ได้แห้งจนจืดชืด แต่กลับเป็นความแห้งที่มีความสดชื่นและความเปรี้ยวที่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบและลงตัวอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความโดดเด่นและลักษณะเฉพาะที่เนื้อสัมผัสที่มีความแหง้ในเนื้อสัมผัสที่ดีแต่ก็มีความสดชื่นของเนื้อไวน์ด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างหวานและเปรี้ยวผสานกัน โดยความหวานที่โดดเด่นอย่างยิ่งจากดอกเอลเดอร์และดอกอคาเซียที่ผสานกันกับลูกพีชและลูกแพรกับถั่วอัลมอนด์ได้ยอ่างพอดิบพอดี ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคูกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ทะเลเปลือกแข็ง อาหารมังสวิรัติ เห็ดและเหมาะกับการเป็นไวน์ที่รับประทานก่อนการรับประทาน เพื่อทำให้มีความอยากอาหารหรือเจริญอาหารมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5% และควรที่จะรับประทานไวน์นี้เมื่อไวน์มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10-12 องศาเซลเซียส เพื่อรสชาติไวน์ที่ดีเยี่ยมเท่านั้น
Bottega Pinot Grigio delle Venezie
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Bottega Amarone della Valpolicella นับได้ว่าเป็นไวน์หนึ่งในประเภทไวน์แดงยอดนิยมที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์ไวน์ชั้นเยี่ยมอย่าง Bottega ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของยุโรปที่มีถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Amarone della Valpolicella ที่ตั้งอยู่ในเมือง Valpollcella ซึ่งอยู่ใน Veneto ของประเทศอิตาลี
Valpolicella เป็นดินแดนที่อุทิศให้กับการปลูกเถาวัลย์มาตั้งแต่สมัยโบราณชื่อ “vallis polis cellae” หมายถึง “หุบเขาแห่งห้องใต้ดินจำนวนมาก” ที่นี่ปลูกองุ่นพื้นเมืองเช่น Corvina Veronese, Corvinone, Rondinella และ Molinara ซึ่งใช้ในการผลิตไวน์แดงที่สำคัญและไม่เหมือนใคร Amarone DOCG ไวน์แดงชั้นเลิศของ Valpolicella และไวน์อิตาลีที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งได้ดึงดูดรสชาติที่ดีที่สุดทั่วโลกด้วยบุคลิกที่เลียนแบบไม่ได้เสน่ห์และลักษณะของไวน์แบบดั้งเดิม แต่ทันสมัยเป็นอย่างยิ่ง
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีและลักษณะที่ปรากฏค่อนข้างจะโดดเด่นเหนือไวน์ชนิดอื่นๆ ซึ่งไวน์ชนิดนี้จะเป้นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีทับทิมสีแดงเข้มข้นแต่งแต้มด้วยสีโกเมน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่โดดเด่นด้วยช่อผลไม้สีแดงเข้มข้น เช่น ผลเชอร์รี่สายพันธุ์มาราสค่า ลูกพลัมและผลเคอร์แรนสีดำ แยมเชอร์รี่สีดำ และราสเบอร์รี่ที่ผสานกันกับลูกจันทน์เทศและช็อคโกแลต ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ในส่วนของเนื้อสัมผัสและโครงสร้างของไวน์ชนิดนี้ก็ล้วนเต็มไปด้วยความสมบูรณ์ กลมกล่อม ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอและเข้มข้นอย่างยิ่งต่อเพดานปากเมื่อได้ลิ้มลองและสัมผัสเนื้อไวน์เข้าไปแล้ว โดยไวน์ชนิดนี้จะยังมีสารแทนนินและความเป็นกรดที่ให้ความเปรี้ยวกันอย่างลงตัวและมีความสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบกับไวน์ ซึ่งส่งผลต่อความกลมกลืนและความรื่นรมย์ของไวน์นี้เป้นที่ประทับใจไม่รู้ลืมอีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป้นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติของเนื้อสัมผัสไวน์ที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งอย่างหาตัวจับได้ยากในไวน์ทั่วไป นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อม ลงตัวและสมดุลทั้งเนื้อสัมผัสที่ให้ความหวานจากผลไม้สีแดงหลากหลายชนิด รวมทั้งยังมีความเปรี้ยวจากสารแทนนินที่ให้ความเป็นกรดในปริมาณที่พอเหมาะพอดีอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์ชนิดนี้ควบคู่กับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ และชีสสีน้ำเงินอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 16.5% และควรที่จะรับประทานไวน์นี้เมื่อไวน์มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 18-20 องศาเซลเซียส เพื่อรสชาติไวน์ที่ดีเยี่ยมเท่านั้น
Bottega Amarone della Valpolicella
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Bottega Brunello di Montalcino นับได้ว่าเป็นไวน์หนึ่งในประเภทไวน์แดงยอดนิยมที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์ไวน์ชั้นเยี่ยมอย่าง Bottega ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของยุโรปที่มีถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Brunello di Montalcino ที่ตั้งอยู่ในเมือง Toscana ของประเทศอิตาลี
Brunello di Montalcino เป็นหนึ่งในไวน์อิตาลีที่มีชื่อเสียงที่สุดซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไวน์แดงที่รับประกันอายุยืนยาวได้ดีที่สุด Montalcino ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Siena ไปทางทิศใต้ประมาณ 40 กม. ในพื้นที่ที่เป็นเนินเขาที่สวยงาม ภูมิทัศน์ทางการเกษตรที่ปราศจากการปนเปื้อนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และความงดงามซึ่งตั้งแต่ปี 2004 ได้รับการขึ้นทะเบียนในรายชื่อมรดกโลกขององค์การยูเนสโก
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะทั้งภายในและภายนอกที่ค่อนข้างโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป้นส่วนของสีของเนื้อสัมผัสที่มีสีที่ค่อนข้างเข้มราวกับสีแดงเข้มของทับทิมและโกเมนผสมผสานกันได้อย่างดีและลงตัว บวกกันกับกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจนอย่างยิ่งในองค์ประกอบ ไม่มีความซับซ้อนมากจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นกลิ่นไวน์ที่มีความโดดเด่นจากกลิ่นของผลเบอร์รี่และดอกไวโอเลตที่รวมตัวกันกับกลิ่นของเครื่องเทศ น้ำส้มสายชู และแก่นไม้ที่เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแห้ง มีความอบอุ่น ความซับซ้อนและกลิ่นอายกับบรรยากาศของของความร่วมสมัยได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่ลงตัวและสมดุลอย่างดีมากอีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกลิ่นของไวน์ที่มีความชัดเจนในเอกลักษณ์ขององค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เครื่องเทศ วานิลลา แก่นไม้และน้ำส้มสายชู รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างสมดุล ลงตัว กลมกล่อมและสมบูรณ์แบบได้อย่างดีอย่างยิ่งอีกด้วย ซึ่งไวน์ชนิดนี้ก็เหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อกวาง สัตว์เนื้อแดงที่มีความดิบเล็กน้อย เห็ด ทรัฟเฟิลหรือลีสผสมอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% และควรที่จะรับประทานไวน์นี้เมื่อไวน์มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส เพื่อรสชาติไวน์ที่ดีเยี่ยมเท่านั้น
Bottega Brunello di Montalcino
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
แนะนำเหล้านอก
error: Content is protected !!