Beaune Du Chateau Premier Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาตั้งแต่สมัยยุคก่อตั้งในปี 1731 Bouchard Père et Fils ได้มีแนวคิดในการสร้างไวน์ที่ดีที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุดให้ออกมาในท้องตลาด ด้วยความเป็นมืออาชีพและใส่ใจในทุกขั้นตอนกระบวนการผลิต ทำให้ทางบริษัทเองไม่เคยหยุดที่จะเลือกหาเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่เหมาะสม มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต และยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ในระดับสูงด้วยแนวคิดที่ว่า การทำไวน์คืองานของยอดฝีมือที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์
ไวน์ Beauno Du Chateau Premier Cru เป็นไวน์แดงที่ถูกผลิตขึ้นในภูมิภาค Bourgogne ของประเทศฝรั่งเศส โดยบริษัท Bouchard Pere & Fils ไวน์ ตัวนี้เป็นไวน์ 1ใน 154 ชนิดที่ทางบริษัทได้ผลิตออกมาเพื่อวางจำหน่ายในท้องตลาด ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการชิมไวน์นี้อยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส บรรจุขวดปริมาตร 750 มิลลิลิตร ใช้องุ่นพันธุ์ Pinot Noir ในการผลิต เป็นไวน์สไตล์ Burgundy Cote de Beaune Red ใส่วัตถุกันเสียเพื่อรักษาสภาพของไวน์ สีไวแดงของตัวนี้จะเป็นสีแดงทับทิมเป็นรัศมีล้อมรอบ วนเข้ามาและมีการเคลือบเงาของผิวสัมผัสด้วยสีแดงเลือดหมู
รสชาติโดยรวมของไวน์ตัวนี้ ความรู้สึกเมื่อตัวไวน์สัมผัสกับเพดานปาก จะให้รสชาติที่ค่อนข้างนุ่มละมุนและมีความแห้งในเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างมาก ความเปรี้ยวจากกรดน้ำส้มก็ค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน โครงสร้างโดยรวมของตัวไวน์ค่อนข้างหนาแน่นไปด้วยมวลอณูของแอลกอฮอล์ มีรสชาติของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น เชอร์รี่ สตอเบอรี่ ตัวเบอร์รี่ที่มีสีแดง มากถึง 511 ชนิด รสชาติแบบเอิร์ธโทนที่ต่างกัน 374 ชนิด กลิ่งรถแบบเดียวกับไม้โอ๊ค 337 ชนิด กลิ่นหอมหวานของผลไม้ที่มีสีดำสีเข้มมากถึง 93 ชนิด กลิ่นของเครื่องเทศต่างๆ 89 ชนิด กลิ่นของผลไม้ตระกูลผลส้ม 48 ชนิด กลิ่นของชีสและครีม 38 ชนิด กลิ่นของผลไม้ยืนต้นตระกูแอปเปิล 31 ชนิด กลิ่นของการหมักที่อาศัยระยะเวลาของไวน์แบบเดียวกับขนมปัง ถั่วอัลมอนด์และถั่วอื่นๆมากถึง 28 ชนิด นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ 25 ชนิด กลิ่นของพืชพันธ์ใบเขียว 19 ชนิด กลิ่นแบบผลไม้แห้ง 13 ชนิด กลิ่นผลไม้เมืองร้อน 8 ชนิด
ไวน์ตัวนี้เหมาะกับการจับคู่กับเมนูอาหารต่างๆที่ทำจาก เนื้อวัว เนื้อลูกวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู เนื้อกวางและ สัตว์ปีก เมนูแบบพาสต้าหรือรีซ็อตโต้ ก็เข้ากัน ชีส Camemberts ก็เข้ากันดี ซึ่งการรับประทานอาหารเหล่านี้ควบคู่กับไวน์ชนิดนี้จะยิ่งทำให้รสชาติและกลิ่นสัมผัสของไวน์มีความหอมหวานและมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นกว่าการรับประทานเพียงแค่ตัวไวน์อย่างเดียว
Beaune Du Chateau Premier Cru
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความนิยมที่ค่อนข้างสูงมาก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และการถูกผลิตขึ้นมาภายใต้ชื่อแบรนด์อย่าง Chateau Haut-Bages Liberal ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนในการผลิตไวน์และส่งออกไวน์ชื่อดังอย่าง Pauillac ซึ่งเป็นบริเวณตรงกลางระหว่างบริเวณ Saint Estephe และบริเวณ Saint Julien ในเขตเมือง Medoc ของเขตการปกครอง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก โดยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการเลือกสรรสายพันธุ์องุ่นยอดนิยมเพียงแค่สองสายพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot 30% และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 70% ด้วยกัน ซึ่งองุ่นที่นำมาใช้นั้นจะต้องเป็นองุ่นที่ผ่านการเพาะปลูกในสวนและไร่องุ่นของตัวเองเท่านั้น ซึ่งองุ่นทั้งหมดนั้นจะถูกไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่ประมาณ 40% เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 15-18 เดือนด้วยกัน โดยอายุของไวน์นั้นจะมีอายุอย่างยาวนานมากถึง 35 ปีด้วยกัน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่น สีเนื้อสัมผัส และรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยเริ่มแรกจากไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่ค่อนข้างใสสว่าง เป็นสีแดงเข้มราวกับสีแดงทับทิมใส นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อ มีรสชาติที่ดี มีทั้งความเบาบาง นุ่มนวล และแห้งในเนื้อไวน์อย่างชัดเจน เป็นรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างหวานราวกับรสชาติของน้ำผลไม้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊กที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างดี รวมทั้งยังมีความเปรี้ยวราวกับกรดของสารแทนนินอีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอย่างดียิ่ง เป็นไวน์ที่ค่อนข้างมีความเต็มน้ำเต็มเนื้อ และมีเอกลักษณ์จากผลไม้สีแดงหลากหลายชนิดที่ผสานกันกับกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊กอย่างดี ซึ่งนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เหมาะกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5-14% อีกด้วยเช่นกัน
Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Chateau de Pez Saint Estephe นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์อีกขวดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยแบรนด์ไวน์ที่ได้มีการสร้างสรรค์และผลิตไวน์ชนิดนี้ขึ้นมา ได้แก่ แบรนด์ไวน์ Chateau de Pez ซึ่งนับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการสร้างแหล่งเพาะปลูกหรือไร่องุ่นของตัวเอง รวมทั้งยังมีพื้นที่ของคฤหาสน์เก่าแก่ที่นำมาใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์ยอดนิยมและเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ย่านชุมชนที่ถือว่ามีชื่อเสียงในระดับหนึ่งการผลิตไวน์อย่าง Saint Estephe ที่อยู่ในเมือง Medoc ที่อยู่บริเวณใกล้ใจกลางของเขตการปกครองดังอย่าง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร เนื่องด้วยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำองุ่นมาใช้มากถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกัน รวมทั้งอัตราส่วนและปริมาณในการใช้ผลิตในแต่ละปีก็มีความแตกต่างกันอีกด้วย โดยสายพันธุ์องุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรมาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Merlot, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยองุ่นทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ทางผู้ผลิตนั้นจะนำองุ่นทั้งหมดนั้นจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่ประมาณ 40% เป็นเวลายาวนานกว่า 15 เดือน และไวน์ชนิดนี้กลับมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือไวน์ชนิดนี้มีการผลิตเพียงแค่จำนวน 18,500 ขวดต่อปีเท่านั้น ซึ่งนับว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับไวน์ชนิดอื่นๆมาก
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะและรูปร่างภายนอกที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งและมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ เริ่มแรกจากไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นสีแดงเข้มสมกันกับเป็นไวน์แดงชั้นดี นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่ถือว่าได้ว่ามีความพิเศษ เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นจากดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้สีดำหลากหลายชนิดด้วยกัน ที่ผสานกันกับกลิ่นดิน กลิ่นซิการ์ และกลิ่นเครื่องเทศที่มีกลิ่นและรสชาติที่ไม่ค่อยรุนแรงมากเท่าไหร่นัก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อและมีความเข้มข้นของเครื่องเทศ ผลเคอร์แรนและกาแฟเอสเปรสโซ่อีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างดียิ่งอีกด้วย รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นด้วยหลากหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและรสชาติของดอกไม้ ผลไม้สีดำ ซิการ์ เครื่องเทศ กาแฟเอสเปรสโซ่และผลเคอร์แรน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์ชนิดนี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12-14.3% เพียงเท่านั้น
Chateau de Pez Saint Estephe
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Secret De Grand Bateau Bordeaux นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีความสามารถในการผลิตไวน์คุณภาพชั้นเยี่ยมอย่าง Grand Bateauซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ในเมือง Bordeaux ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งการผลิตและส่งออกไวน์ในระดับแถวหน้าของโลก โดยเมืองนี้ได้มีการตั้งอยู่ที่บริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อนอยู่พอสมควร อันเนื่องมาจากทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นมากมายหลากหลายชนิดมาใช้ในการผลิตไวน์ในครั้งนี้ โดยสายพันธุ์องุ่นที่มีการนำมาใช้ในการผลิตนั้น ผู้ผลิตได้เลือกองุ่นทั้งหมดห้าสายพันธุ์มาใช้ด้วยกัน โดยการใช้ในแต่ละครั้งนั้นจะมีอัตราส่วนที่ใช้ค่อนข้างแตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต โดยองุ่นที่นำมาใช้นั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Semillon, Sauvignon Blanc และองุ่นสายพันธุ์ Muscadelle โดยองุ่นทั้งหมดนั้นจะถูกนำมาผสมรวมกันจนกลายเป็นไวน์ขาวผสมชั้นเยี่ยม
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ที่ลักษณะของไวน์ที่ค่อนข้างมีความหนาแน่นในเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างชัดเจน อีกทั้งยังมีสีของเนื้อสัมผัสที่ออกเป็นสีขาวปนเขียวใสสวยงามอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความที่ไวน์ชนิดนี้มีลักษณะขององค์ประกอบของผลไม้สุกหลากหลายชนิดที่โดดเด่นมาเหนือกว่าองค์ประกอบอื่นในเนื้อสัมผัส แล้วมีการผสมผสานกันกับผลไม้สีดำ เครื่องเทศ และต้นโอ๊กเผาอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชวนให้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สุกและผลไม้สีดำหลากหลายชนิดที่ผสานตัวกับกลิ่นและรสสัมผัสของต้นโอ๊กเผาและเครื่องเทศ ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เครื่องในสัตว์ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% ด้วยเช่นกัน
Secret De Grand Bateau Bordeaux
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Pavillon Blanc du Chateau Margaux Bordeaux นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาด้วยความตั้งใจจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงและได้รับการการันตีด้วยรางวัลมากมายถึงความสามารถในการผลิตไวน์อย่าง Chateau Margaux ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมืองMargaux ซึ่งเป็นสถานที่ชื่อดังที่มีความสามารถในการผลิตและการส่งออกไวน์เป็นระดับแถวหน้าของโลกที่อยู่ในเมือง Medoc ของเขตการปกครอง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ได้มีการใช้อาคารที่มีความเกี่ยวข้องกับการผลิตไวน์ในอดีตมาสืบทอดต่อในการผลิตไวน์มาจนถึงช่วงเวลาปัจจุบันอีกด้วยเช่นกัน
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นที่มีการเพาะปลูกในไร่องุ่นของแบรนด์ไวน์นี้มาใช้เท่านั้น โดยพื้นที่ในการเพาะปลูกไวน์นี้มีความกว้างขวางมากถึง 11 เฮกตาร์ด้วยกัน ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่ทางผู้ผลิตนั้นเลือกมาใช้และเป็นสายพันธุ์องุ่นเพียงหนึ่งเดียวที่มีการเพาะปลูกในไร่องุ่นนั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Sauvignon Blanc ซึ่งเป็นสายพันธุ์องุ่นที่นิยมเป็นอย่างยิ่งที่ใช้ผลิตไวน์ทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว โดยทางผู้ผลิตยังมีการอาศัยความรู้และเทคนิคเชิงลึกในการแยกองุ่นที่ใช้สำหรับทำไวน์แดงและไวน์ขาวในช่วงระหว่างการผลิตได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่มีมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1920
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้อีกว่าเป็นไวน์ที่มีไวน์ขาวที่มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่สีของเนื้อสัมผัสเป็นสีใสปนเขียวอ่อนงดงามอย่างมาก อีกทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ขาวที่มีองค์ประกอบของเนื้อสัมผัสที่เหนียวแน่นพอดี จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีความงดงามอย่างหาตัวได้จับได้ยาก อีกทั้งไวน์ชนิดนี้ยังมีลักษณะที่โดดเด่นจากกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊กและวานิลลาจางๆเป็นหลัก รวมทั้งยังมีการผสานกันกับองค์ประกอบอื่นจนทำให้ไวน์นี้มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้ง เนย ผลส้มเขียวหวาน เลม่อนและมะนาว
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและเนื้อสัมผัสที่ยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดอย่างมาก เป็นไวน์ขาวที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีเขียวใสผสานกันกับสีขาวสวยงาม อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเข้มข้น มีความสมดุลและมีความแห้งอย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อหมู อาหารมังสวิรัติ เนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่หรือเนื้อเป็ด เนื้อปลาไขมันต่ำ และอาหารเรียกน้ำย่อยและขนมขบเคี้ยวต่างๆ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-15.5% อีกด้วย
Pavillon Blanc du Chateau Margaux Bordeaux
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Clémentin de Pape Clément Pessac-Leognan นับได้ว่าเป็นไวน์แดงยอดนิยมที่มีการถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 13 อย่าง Clémentin de Pape Clément ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์แดงอย่าง Pessac-Leognan ซึ่งสามารถใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีก็จะสามารถเดินทางมายังใจกลางเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อน อันเนื่องจากทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำองุ่นมากถึงสองสายพันธุ์มาใช้ในการผลิตไวน์ชนิดนี้ โดยสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้นั้นทางผู้ผลิตได้มีการเลือกนำเอาองุ่นสายพันธุ์ Merlot 70% และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 30% มาใช้ในการผลิต โดยองุ่นทั้งหมดนั้นจะต้องผ่านการเลือกสรรเอาเพียงแค่องุ่นที่มีคุณภาพที่สุดมาใช้ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างแตกต่างจากไวน์ชนิดอื่น ด้วยการนำเทคนิค Gravity Flow หรือการอาศัยแรงโน้มถ่วงมาใช้ในการผลิตไวน์นี้ด้วย ซึ่งจะใช้เทคนิคนี้เพื่อให้ไวน์นั้นกระจายตัวทุกองค์ประกอบกันได้อย่างดี นอกเหนือจากนี้ก็ได้มีการเพิ่มกระบวนการผลิตด้วยการปรับลดอุณหภูมิลงให้เหลือเพียงแค่ประมาณ 8 องศาเซลเซียสพร้อมทั้งบ่มองุ่นให้เนื้อผิวยุ่ยเป็นเวลายาวนานกว่า 30-35 วันก่อนที่จะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กเป็นเวลายาวนานกว่า 16 เดือนและนำไปบรรจุลงในขวดไวน์ต่อไป
โดยไวน์ชนิดนี้ที่มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดแก่นักดื่มหลากหลายท่านอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะภายนอกทั้งรสชาติ รูปร่าง กลิ่นและเนื้อสัมผัสของไวน์ก็ดูดีอย่างมาก โดยเริ่มแรกจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์ที่เป็นไวน์แดงที่มีสีแดงเข้มสมกันกับเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยม บวกกันกับกลิ่นและรสชาติของไวน์ก็มีเอกลักษณ์จากใบยาสูบ และลูกพีทขาวที่มาในช่วงแรกด้วยความเข้มข้นอย่างดี หลังจากนั้นกลิ่นและรสชาติของผลส้ม รังผึ้งและผลไม้เมืองร้อนหลากหลายชนิดก็ได้เข้ามาแทรก ทำให้ไวน์ชนิดนี้มีมนต์เสน่ห์มากยิ่งขึ้นไปอีก นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความสมดุลในเนื้อสัมผัสเป็นอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและชวนให้น่าลิ้มลองไวน์นี้เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นของไวน์ที่เกิดมาจากผลไม้เมืองร้อน ผลส้ม และใบยาสูบ ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์นี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12-14% อีกทั้งยังเป็นไวน์ที่มีอายุของไวน์นั้นที่ประมาณ10-15 ปีและควรเก็บรักษาไวน์ชนิดนี้ที่อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์ และข้อแนะนำที่สำคัญคือก่อนรับประทานไวน์ชนิดนี้ นักดื่มควรที่จะนำไวน์ชนิดนี้ออกมาจากที่แช่ก่อนประมาณ 2-4 ชั่วโมงเพื่อทำให้เนื้อสัมผัสของไวน์มีความนุ่มนวล บางเบา และมีกลิ่นของไวน์ที่หอมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
Clémentin de Pape Clément Pessac-Leognan
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Vin de Bourgogne Macon Axe นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งและเป็นไวน์ขาวที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาหรือมีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Vin de Bourgogne ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นระดับแนวหน้าของทวีปยุโรป รวมทั้งยังมีถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ทางด้านตอนใต้ของเมือง Bourgogne ในประเทศฝรั่งเศส โดยหมู่บ้านที่เป็นแหล่งการผลิตนั้นมีชื่อหมู่บ้านว่า Macon Axe Village ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อุดมไปด้วยสูตรเก่าแก่มากมาย
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวมาใช้ในการผลิตอย่าง Chardonnay แท้ 100% โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรมาใช้นั้นจะต้องมีการเพาะปลูกอยู่ในแทบเนินเขาอย่าง Maconnais ซึ่งเป็นเนินเขาในประเทศฝรั่งเศสที่มีการตั้งแนวเขาตามแนวแกนและมีการถูกแบ่งแยกรอยต่อของภูเขา จึงทำให้เหล่าเถาวัลย์สามารถแทรกไปที่เนินเขาจึงทำให้ดินอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างดี รวมทั้งเนินเขานี้ยังมีองค์ประกอบของปูนขาวจึงทำให้องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay นั้นเติบโตได้ดี อีกทั้งสถานที่แห่งนี้จะมีดินที่เป็นดินทรายผสมกับดินเหนียวที่ละเอียดอย่างดีอีกด้วย
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีขาวสวยงามที่ผสานกันกับสีเหลืองทองใสสว่างสมกับเป็นไวน์ขาวชั้นเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเคลือบขอบรอบผิวสัมผัสเป็นสีเหลืองเขียวอีกด้วย อีกทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ทั้งในส่วนของกลิ่นและรสชาติของผลไม้กับดอกไม้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบขาว ดอกอคาเซีย เฟิร์น สมุนไพรสายพันธุ์อเมริกันที่มีชื่อเรียกว่า Verbena ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มแมนดาริน องุ่น ผลส้มเขียวหวานและดอกไม้บานอีกหลายชนิด ซึ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความแห้งของเนื้อสัมผัสและความกลมกล่อมในตัวอีกด้วย
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่มีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีความโดดเด่นทั้งดอกไม้และผลไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส้มแมนดาริน ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวาน องุ่น ดอกอคาเซีย และเฟิร์น ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการคู่กับอาหารทานเล่น เช่น ขนมปัง มะกอก ถั่ว หรือสามารถนำไปดื่มควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของปลาได้อีกด้วยเช่นกัน
Vin de Bourgogne Macon Axe
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Château La Couspaude Saint-Émilion นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกผลิตและถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงในแถบทวีปยุโรปและมีตำนานการผลิตไวน์มาอย่างยาวนานนับกว่าศตวรรษและมีที่ดินในการเพาะปลูกองุ่นมากกว่า 7 เฮกตาร์หรือประมาณ 17 เอเคอร์อย่าง Château La Couspaude ซึ่งเป็นคฤหาสน์ที่มีความนิยมในการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากในทวีปยุโรป โดยบริษัทไวน์แห่งนี้ตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Saint-Emilion Grand Cru ที่สังกัดอยู่ในเมือง Saint-Emilion ของเมือง Libournais ของภูมิภาค Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นหนึ่งในไวน์ที่มีการใช้สูตรต้นตำรับของชาว Bordeaux และสถานที่เพาะปลูกไวน์ที่มีการสืบทอดมาเป็นเวลายาวนานกว่า 300 ปีด้วยกัน ซึ่งนับได้ว่าหาได้ยากมากในวงการการผลิตไวน์ โดยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำองุ่นมาใช้เป็นการใช้วัตถุดิบแบบผสมหรือ Bordeaux Blended Grapes ที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์การผลิตไวน์ที่มีมักจะนำองุ่นมากถึงห้าสายพันธุ์ด้วยกันมาใช้ในการผลิตไวน์ โดยองุ่นที่นำมาใช้นั้น ทางผู้ผลิตได้เลือกใช้องุ่นสายพันธุ์ดังต่อไปนี้ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Malbec, Merlot และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยทางผู้ผลิตจะเลือกสรรองุ่นพันธุ์ดีมาหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่แท้ 100% เป็นเวลายาวนานกว่า 18-20 เดือนด้วยกัน
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้อีกว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง เริ่มแรกจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์นั้นเป็นสีแดงที่ค่อนข้างเข้มอย่างยิ่ง เนื่องด้วยกลิ่นและรสชาติของไวน์ชนิดนี้จะอุดมไปด้วยผลไม้สีดำเข้มที่ค่อนข้างมาก รวมทั้งยังมีองค์ประกอบอื่นๆผสมผสานกันมาอย่างดีอีกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ ผลราสเบอร์รี่ ดอกกุหลาบจางๆ ผลเชอร์รี่ ชะเอมเทศและโกโก้ ซึ่งนับได้ว่ามีความชัดเจนในแต่ละส่วนอย่างดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างชัดเจน กลมกล่อม รวมทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มปากเต็มคำได้อย่างดีมากอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-14% ซึ่งนับได้ว่าไม่สูงมากนักสำหรับไวน์ทั่วไป
Château La Couspaude Saint-Émilion
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีคะแนนการประเมินจากนักดื่มไวน์ทั่วโลกว่าเป็นไวน์ยอดเยี่ยมและมีการถูกสร้างสรรค์หรือการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงมานานนับหลายปีอย่าง Vignobles Capdemourlin ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไวน์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในทวีปยุโรป โดยบริษัทไวน์แห่งนี้ตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Saint-Emilion Grand Cru ที่สังกัดอยู่ในเมือง Saint-Emilion ของเมือง Libournais ของภูมิภาค Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นมากมายหลากหลายสายพันธุ์มาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ โดยอัตราส่วนการผลิตในแต่ละปีก็จะมีความแตกต่างอยู่ด้วยเช่นกัน โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตนั้นได้มีการเลือกสรรและนำมาใช้นั้นมีทั้งหมดห้าสายพันธุ์ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Malbec และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยองุ่นทั้งห้าสายพันธุ์มาหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่กว่า 50% เป็นเวลายาวนานกว่า 15-18 เดือนด้วยกัน ด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบสูตรดั้งเดิมต้นตำรับตามวิธีการผลิตของชาว Bordeaux
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่น่าดึงดูดตาและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะของสีของเนื้อสัมผัสของไวน์นี้ที่ค่อนข้างมีความเข้มข้นอย่างยอดเยี่ยม มีสีที่ค่อนข้างเป็นแดงเข้มอย่างชัดเจน รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างสดชื่น มีชีวิตชีวาและมีความเบาบางนุ่มนวลอย่างยิ่ง ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ที่ความหวานเฉพาะตัวที่มาจากผลไม้สีแดงหลากหลายชนิดที่ผสานกันกับความเข้มข้นของชะเอมเทศและผงโกโก้
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติทีค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง มีทั้งความหวานและความเข้มข้นในส่วนของกลิ่นและรสชาติกันได้อย่างลงตัว เป็นไวน์ที่มีครบรสทั้งความหวาน เข้มข้น สดชื่น มีชีวิตชีวาและความเบาบางนุ่มนวล ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์นี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดหรือเนื้อไก่ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14-15% เพียงเท่านั้น
Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Chateau Rouget Pomerol นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาจากแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นระดับแนวหน้าของทวีปยุโรปอย่าง Chateau Rouget ที่มีความสามารถในการผลิตไวน์อย่างมากและมีพื้นที่ในการเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตไวน์มากถึง 17 เฮกตาร์หรือมากถึง 42 เอเคอร์ด้วยกัน นับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ครบวงจร โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Pomerol ซึ่งเป็นเมืองที่มีเครดิตความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากในการผลิตไวน์แดง ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ในเขตการปกตรอง Bordeaux ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร เนื่องจากมีการนำองุ่นเพียงแค่ชนิดเดียวมาใช้ในกระบวนการผลิต โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกใช้นั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot แท้ 100% ซึ่งทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากไร่ของตนมาใช้ในการผลิตเท่านั้น เพื่อที่เขาจะควบคุมคุณภาพของผลองุ่นทุกลูกให้ดีที่สุด แล้วหลังจากนั้นทางผู้ผลิตจึงได้มีการเพิ่มลูกเล่นให้กับไวน์นี้ด้วยการนำองุ่นทั้งหมดไปหมัก โดยแบ่งเป็นทั้งหมดสองส่วนด้วยกัน โดยส่วนน้อยที่มีเพียงแค่ 35%. ทางผู้ผลิตจะนำไปหมักไวน์ด้วยการ Micro-Vinification Technique เพื่อทำให้ไวน์เพียงแค่จำนวนครั้งละน้อยๆ เพื่อให้รสชาติเกิดความพิเศษและเท่าเทียมกันแทนการหมักลงไปทั้งหมดภายในครั้งเดียว แล้วในส่วนของกลุ่มที่เหลือนั้น ทางผู้ผลิตได้มีการนำไปหมักลงในถังไม้บาร์เรลแบบถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่เป็นเวลาเฉลี่ยยาวนานกว่า 15-18 เดือน ก่อนที่จะนำทั้งสองส่วนมารวมกันและนำไปบรรจุลงในขวดไวน์
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ในทุกด้าน ไม่ใช่เพียงแค่กรรมวิธีการผลิตเท่านั้น แต่ว่าลักษณะกับรูปร่างภายนอกก็น่าดึงดูดไม่แพ้กัน โดยเริ่มแรกจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์นั้นจะออกไปทางสีแดงเข้มที่แสดงถึงความเข้มข้นขององค์ประกอบของไวน์ บวกกันกับกลิ่นและรสชาติของไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ป่าสีดำหลากหลายชนิด รวมทั้งชะเอมเทศที่แตะจมูกและถ่ายทอดรสสัมผัสแก่ผู้ดื่มได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้นับได้ว่ามีความเข้มข้น บางเบา นุ่มนวล สดชื่น มีชีวิตชีวาและมีความสมดุลกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความเหมาะสมเป้นอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ13.5%
Chateau Rouget Pomerol
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Posts navigation
แนะนำเหล้านอก
error: Content is protected !!