Robert Mondavi Winery Reserve Cabernet Sauvignon

            Robert Mondavi Winery Reserve Cabernet Sauvignon เป็นไวน์ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Robert Mondavi ที่ต้องการเผยแพร่ความงดงามของไวน์ชนิดนี้ โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่บริเวณ Napa Valley ทางชายหาดฝั่งเหนือของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นจากไร่องุ่น Kalon Vineyard มาใช้เท่านั้น โดยองุ่นที่ใช้ในการผลิตนั้นก็ใช้ในปริมาณที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 92%, Cabernet France 6% และองุ่นพันธุ์ Petiti Verdot อีก 2% โดยองุ่นจะต้องถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้น และองุ่นจะถูกนำมาบ่มในถังโอ๊กพันธุ์ดีจากประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลายาวนานกว่า 20 เดือน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยสีที่แดงสด ผสานกันกับกลิ่นที่หอมหวานและเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นของดินและความงดงามของไวน์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านกลิ่นและรสชาติของชะเอมเทศ ผลแบล็กเบอร์รี่สุกและผลลูกพลัมสุก ผสานกับความเผ็ดร้อนและหอมอย่างเป็นเอกลักษณ์จากสมุนไพรแห้งนานาชนิด รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊กหวาน เมล็ดวานิลลาและเมล็ดอัลมอนด์คั่วอีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ทั้งความเผ็ดร้อน กลมกล่อมและเบาบาง ซึ่งนอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% เท่านั้น

Robert Mondavi Winery Reserve Cabernet Sauvignon

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chandon Brut Australia

            Chandon Brut Australia นับได้ว่าเป็นไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งที่ได้ถูกถ่ายทอดความงดงามลงมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Chandon Australia ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่ตั้งอยู่ทาง Yarra Valley ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐวิกตอเรียของประเทศออสเตรเลีย

            โดยไวน์ขาวชนิดนี้เป็นไวน์ที่เกิดจากการนำองุ่นทั้งสามพันธุ์มาใช้ในการผลิต ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Chardonnay, Pinot Noir และ Meunier มาใช้ในการผลิต โดยใช้กรรมวิธีการผลิตแบบฝรั่งเศสผสมกับการผลิตแบบดั้งเดิมขาวชาวบ้านในชุมชนออสเตรเลีย โดยองุ่นที่นำมาใช้นั้น ล้วนต้องเก็บเกี่ยวช่วงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธุ์จนถึงช่วงปลายเดือนมีนาคม

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีสี กลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง โดยสีของเนื้อสัมผัสนั้นนับได้ว่าเป็นไวน์ขาวชั้นเยี่ยมที่มีสีของเนื้อไวน์ที่ใส ขาวและออกไปทางสีเขียวสว่างจางๆ รวมทั้งยังมีฟองออกมาบนผิวระนาบทำให้ไวน์นี้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ก็ยังมีรสชาติและกลิ่นที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ทั้งความเบาบางและสดชื่นที่ได้มาจากแอปเปิ้ล กล้วยไม้ที่บานสะพรั่งและเปลือกเลม่อนฝานบางๆที่เข้ากันอย่างลงตัว

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ขาวชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นไวน์คุณภาพสูงที่ทางแบรนด์ภูมิใจนำเสนอ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่ได้รับรางวัลไวน์ดีเด่นจากงาน Best Australian sparkling Wine 2018 อีกด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5-13%

Chandon Brut Australia

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Grand Mayne Saint-Émilion Grand Cru

            Château Grand Mayne Saint-Émilion Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์อีกชนิดหนึ่งที่ได้มีการตั้งชื่อของไวน์ตามสถานที่แหล่งการผลิตใหญ่และแหล่งการเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งสถานที่ได้กล่าวไปนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศสในบริเวณเมือง Saint-million ของ Bordeaux

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ที่งดงามอย่างยิ่ง ทั้งกรรมวิธีและการผสมผสานกันระหว่างองุ่นทั้งสามพันธุ์ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Merlot 70%, Cabernet France 25% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 5% โดยจะมีการนำวัตถุดิบทั้งหมดไปรักษาอุณหภูมิในถังสแตนเลสและไปหมักในถังโอ๊กใหม่เป็นเวลายาวนานกว่า 18 เดือนด้วยกัน

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความสวยงามทั้งเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติ โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้ม รวมทั้งยังมีกลิ่นที่เต็มไปด้วยความหอมหวานทั้งกลิ่นและรสชาติ โดยไวน์ชนิดนี้มีความหวาน ความเบาบางจากกลิ่นและรสชชาติจากดอกไม้นานาชนิด ที่ผสานรวมกันกับกลิ่นและรสชาติของแบล็กเบอร์รี่สุก ผลเชอร์รี่ การแฟเอรสเปรสโซ่รมควัน และทิมที่ใช้เป็นเครื่องเทศกลิ่นฉุน

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมลงตัว มีเนื้อสัมผัสที่เต็มน้ำเต็มเนื้อ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นอายของความร่วมสมัย นุ่มนวลและกลมกล่อมในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13-15.5%

Château Grand Mayne Saint-Émilion Grand Cru

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château La Clotte Saint-Émilion Grand Cru

         Château La Clotte Saint-Émilion Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการตั้งชื่อของไวน์ตามสถานที่ที่เป็นแหล่งฐานการผลิตและเป็นสถานที่เพาะปลูกองุ่นที่ใช้นการผลิต ซึ่งสถานที่แห่งนี้ได้ตั้งอยู่ทางเมือง Saint-Emillion ของเมือง Bordeaux ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้ได้มีการนำองุ่นทั้งสามพันธุ์มาใช้ในกระบวนการผลิตโดยนำมาใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Merlot 85%, Cabernet Sauvignon 10% และองุ่นพันธุ์ Cabernet France 5% โดยองุ่นทั้งหมดนั้นจะหมักลงในถังไม่โอ๊กเพื่อที่จะทำให้ไวน์สดใหม่และสามารถดื่มได้

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงที่ค่อนข้างเข้มราวกับสีของลูกเชอร์รี่ และมีฟองบางๆที่ชนกับขอบแก้วอย่างดี รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นอายและรสชาติของความหวานและความหอมอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นแบล็กเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่  ลูกพลัมและวานิลลา รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติของชะเอมเทศและดาร์กเชอร์รี่อีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติของความนุ่มละมุนและเข้ากันอย่างลงตัว มีรสชาติที่พอดี มีทั้งรสชาติและกลิ่นที่หวานและหอมกลมกล่อมในเวลาเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้เหมาะสำหรับรับประทานควบคูกับเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อกวาง เนื้อวัวและเนื้อแกะอีกด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13-14%

Château La Clotte Saint-Émilion Grand Cru

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Langoa Barton Saint Julien

            Château Langoa Barton Saint Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยไวน์ชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อเหมือนกับสถานที่ผลิตและสถานที่เพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการทำไวน์นี้ โดยพื้นที่แห่งนี้ได้ตั้งอยู่ทางตอนเมือง Saint-Julien ใน Merlot ของจังหวัด Bordeaux ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผสมรวมกันขององุ่นทั้งสามชนิดในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 54%, Merlot 38% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Franc 8% โดยองุ่นจะต้องมีการเก็บเกี่ยวในช่วงประมาณกลางเดือนกันยายนของทุกปีเท่านั้น เพื่อรสชาติและกลิ่นที่กลมกล่อมลงตัว โดยองุ่นทุกพันธุ์จะต้องมีการหมักลงในถังโอ๊กฝรั่งเศส โดยแบ่งใส่อย่างละครึ่งเป็นเวลายาวนานกว่า 20 เดือน

            โดยในส่วนของรสชาติ กลิ่นและเนื้อสัมผัสนั้น พบว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในส่วนของเนื้อสัมผัสที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีม่วงค่อนข้างเข้ม รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างมีราคา ดูหรูหราด้วยกลิ่นของราสเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่และดอกไวโอเล็ต นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่นับได้ว่ายอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ทั้งรสชาติที่หอมหวานและมีกลิ่นอายของความร่วมสมัยของไวน์อย่างดีเยี่ยม ทั้งความกลมกล่อมและความนุ่มละมุน โดยไวน์นี้จะมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์มาจากผลไม้สีแดงหลากหลายชนิด

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เป็นรสชาติที่มีการติดลิ้นอย่างยาวนานอย่างยิ่ง โดยไวน์ชนิดนี้เหมาะสมกับอาหารจำพกเนื้อสัตว์ทุกประเภท แล้วยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่ค่อยสูงมากนัก อยู่ประมาณ 13% เพียงเท่านั้น

Château Langoa Barton Saint Julien

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Torres Atrium Merlot

            Torres Atrium Merlot เป็นไวน์ที่มีการผลิตมาจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Torres ซึ่งผู้ผลิตไวน์ชนิดนี้มีแหล่งการผลิตและมีชื่อเสียงอยู่มากในบริเวณเมือง Catalunya ในประเทศสเปน ซึ่งทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำองุ่นเพียงชนิดเดียวมาใช้ในกระบวนการผลิต ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Merlot จากสวนของโรงกลั่น Torres เอง

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โดยในส่วนของเนื้อสัมผัสนั้น ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีค่อนข้างเข้มกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ เป็นสีเดียวกับสีของผลเชอร์รี่ที่มีสีแดงเข้ม ซึ่งแตกต่างจากไวน์ชนิดอื่นที่ค่อนข้างมีสีแดงสด แต่ก็มีความน่าดึงดูดใจไม่แพ้กัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้น มีทั้งกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิด ที่หลอมรวมกับแยมผลไม้รสเยี่ยม มีทั้งลูกพลัมและบิลเบอร์รี่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของใบกระวานและทรัฟเฟิลด้วย

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสที่น่าสนใจ ทั้งรสชาติที่มีความหวานที่ยอดเยี่ยมจากผลไม้ที่ช่วยส่งให้ไวน์รสชาติดีขึ้นและมีรสชาติที่ขึ้นจมูกนิดๆหลอมรวมกับสารแทนนินที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยที่มาในช่วงแรกของการดื่มด่ำไวน์ชนิดนี้

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ดีเยี่ยมและมีกลิ่นที่น่าติดตรึงใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเอกลักษณ์ของผลไม้ที่แสดงออกมาทั้งในส่วนของกลิ่นและรสชาติ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14% นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กับเนื้อวัว เนื้อหมูและเนื้อเป็ด รวมทั้งยังเหมาะสมกับการรับประทานควบคู่กับอาหารรมควันทุกชนิดอีกด้วย

Torres Atrium Merlot

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Torres Atrium Cabernet Sauvignon

            Torres Atrium Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่เกิดจากการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Torres ซึ่งตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Penedes ใน Catalonia ของประเทศสเปน โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นเพียงชนิดเดียวมาใช้ในกรรมวิธีการผลิต โดยจะใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet sauvignon ซึ่งเป็นองุ่นพันธุ์เยี่ยมจากประเทศสเปน ที่ทางผู้ผลิตมีการเลือกและคัดสรรใช้เพียงแค่องุ่นที่มีการปลูกไว้ในพื้นที่ของ Torres เองโดยเฉพาะ

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากไวน์ชนิดอื่นๆ โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงที่ค่อนข้างเข้มราวกับสีของทับทิม แต่ก็มีความสว่าง ใส ไม่ขุ่นเข้มเหมือนกับเนื้อสัมผัสของไวน์ชนิดอื่นๆ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มติดจมูก ทั้งความเข้มข้นมาจากผลไม้สุก รวมทั้งยังมีกลิ่นของเครื่องเทศที่ผสมเพียงเล็กน้อยอีกด้วย

            ในส่วนของรสชาติของไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าดีเยี่ยมอย่างยิ่ง เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ให้กลิ่นอายของความเป็นสเปนอย่างชัดเจน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ดีเยี่ยมและมีรสชาติกลางๆ ไม่เข้มข้นหรือเจือจางจนเกินไป นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ก็ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติความเป็นกรดที่ยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยเนื้อผลไม้และสารแทนนินที่ให้รสชาติที่แตกต่างกับที่อื่น

            ซึ่งในส่วนของภาพรวมนั้น นับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติและกลิ่นที่ดีเยี่ยม มีทั้งกลิ่นของการรมควันจางๆ กลิ่นที่ทั้งนุ่มนวลและเข้มข้นภายในเวลาเดียวกัน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14% อีกด้วยเช่นกัน

Torres Atrium Cabernet Sauvignon

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

San Marzano Negroamaro

            San Marzano Negroamaro นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรใน Salento IGT ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นเพียงสายพันธุ์เดียวมาใช้ในการผลิตไวน์ชนิดนี้ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Negroamaro ซึ่งเป็นองุ่นที่เก็บเกี่ยวจาก San Marzano และ Francavilla Fontana เท่านั้น

            ซึ่งองุ่นที่ใช้ในการผลิตนั้น จะมีการเก็บเกี่ยวองุ่นลงในตะกร้าขนาดเล็กเพียงแค่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายนเพียงเท่านั้น โดยองุ่นที่ได้มาทั้งหมดนั้น จะมีการมาแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่าๆกัน โดยในส่วนแรกนั้นจะมีการแบ่งองุ่นออกมา 80% เพื่อที่จะนำมาหมักในช่วงแรกเป้นเวลา 18 วัน หลังจากนั้นจะนำส่วนที่เหลือมาหมักต่อเป็นเวลากว่า  25 วัน รวมทั้งยังมีการหมักลงในโอ๊กพันธุ์ฝรั่งเศสและถังโอ๊กพันธุ์คอเคซัสเป็นเวลายาวนานกว่า 12 เดือน

            โดยในส่วนของรสชาติและกลิ่นของไวน์ชนิดนี้นั้นเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีม่วงค่อนข้างเข้มผสมกับสีแดงจางๆ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นและรสชาติของไวน์ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ทั้งในความซับซ้อนของไวน์ที่ประกอบไปด้วยกลิ่นและรสชาติของเครื่องเทศ ผลไม้ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสของแยมเชอร์รี่ที่โดดเด่นออกมาอีกด้วย นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่มีความเต็มน้ำเต็มเนื้อ นุ่มนวลและสมดุล

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ควรเก็บรักษาอุณภูมิไว้ที่ประมาณ 18 องศาเซลเซียส มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมกับการรับประมานควบคู่กันกับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อกวาง รวมทั้งยังเหมาะกับอาหารจำพวกชีสด้วยเช่นกัน

San Marzano Negroamaro

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Sessantanni Primitivo di Manduria

            Sessantanni Primitivo di Manduria นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมานับหลายพันปีและนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีอายุมากที่สุด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่ผลิตมาจากแหล่งผลิตไวน์และแหล่งปลูกองุ่นทำไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมายที่สวยงามในไวน์ชนิดนี้ด้วย

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างมีเสน่ห์อยู่พอสมควร โดยไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์ที่เลือกใช้เฉพาะองุ่นพันธุ์ Primitivo ชั้นเยี่ยมที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงกลางเดือนหรือประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน โดยองุ่นที่เลือกใช้นั้นจะต้องมีลักษณะผลที่ค่อนข้างสุกงอม หลังจากนั้นก็จะนำผลผลิตนี้ไปหมักโดยแบ่งระยะการหมักออกเป็นสองรอบ รอบแรกใส่องุ่นไปเพียง 80% แล้วหมักเป็นเวลา 18 วัน หลังจากนั้นจึงนำส่วน 20% ที่เหลือนั้นมาหมักต่อเป็นเวลา 25 วัน ลงในถังไม้โอ๊กพันธุ์อเมริกันและพันธุ์ฝรั่งเศสต่ออีกเป็นเวลายาวนานกว่า 12 เดือน

            ในส่วนของรสชาติ สีและกลิ่นนั้นนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอยู่พอสมควร ด้วยความที่ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความเข้มข้นอย่างสูง และมีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้มราวกับสีของทับทิม ทำให้ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ซับซ้อนไปด้วยความเป็นผลไม้อย่างมาก เป็นไวน์ที่ประกอบด้วยรสชาติและกลิ่นของลูกพลัม แยมรสเชอร์รี่และใบยาสูบเล็กน้อย รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีความนุ่มนวลอยู่พอสมควรอันเนื่องมาจากสารแทนนินที่ยอดเยี่ยม

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างดีเยี่ยมอยู่พอสมควร ทั้งความนุ่มนวล เรียบง่ายและมีความซับซ้อนทั้งในส่วนของรสชาติและกลิ่นของเนื้อสัมผัสอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่ควรเก็บรักษาไว้ที่อุณภูมิประมาณ 18 องศาเซลเซียส

Sessantanni Primitivo di Manduria

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château La Verriere

            Château La Verriere เป็นไวน์ที่มีชื่อเดียวกับแบรนด์ผู้ผลิต ซึ่งมีประวัติอันยาวนานมากกว่าร้อยกว่าปี ตั้งแต่ 1900 ที่มีประวัติการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม รวมถึงใช้เวลาในการคิดสูตรไวน์มานานนับ 30 ปีกว่า ซึ่งนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งของ Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการเลือกสรรการผลิตและวัตถุดิบจากผู้ผลิต หรือ Andre Bessette เองโดยตรง โดยตัวเขาได้เลือกวัตถุดิบจากองุ่นทั้งสองพันธุ์ ได้แก่ Merlot 85% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 15% ซึ่งองุ่นทั้งสองพันธุ์ที่เลือกใช้นั้นเป็นองุ่นจากไร่องุ่นนี้โดยตรง หลังจากนั้นทางผู้ผลิตจึงนำองุ่นชนิดนี้ไปหมักลงในถังไม้ขนาดกลางสองใบ ได้แก่ถังจากต้นโอ๊กพันธุ์ฝรั่งเศสหนึ่งใบและถังไม้โอ๊กพันธุ์อเมริกันหนึ่งใบเป็นเวลายาวนานกว่าสามเดือนด้วยกัน

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสที่สวยงาม เริ่มต้นจากสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีม่วงเข้มที่งดงาม รวมทั้งยังมีกลิ่นของไวน์ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นเชอร์รี่อย่างชัดเจนและมีกลิ่นของแบล็กเบอร์รี่รวมกันมาด้วยเช่นกัน ซึ่งนับได้ว่ามีความละมุนและความทรงพลังอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของราสเบอร์รี่และกลิ่นของต้นโอ๊กจางๆด้วยเช่นกัน

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่หอมหวานแทบไม่ต่างจากกลิ่นที่ได้รับมากนัก แต่ว่าในส่วนของรสสัมผัสนั้นจะมีสารแทนนินที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานกับอาหารจำพวกเนื้อแกะ เนื้อกวางและชีส รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14% อีกด้วย

Château La Verriere

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com