Tag Archives: ไวน์
Castillo de Liria Crianza
Castillo de Liria Crianza
Castillo de Liria Crianza เป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ซึ่งได้มีการผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Bodegas Vicente Gendia ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Valencia ซึ่งตั้งอยู่ทางบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทสสเปน
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากเมดิเตอร์เรเนียนอย่างมาก บวกกับไวน์ชนิดนี้ได้มีการคัดเลือกองุ่นเพียงแค่ชนิดเดียวเท่านั้นที่มาใช้ในการผลิตไวน์นี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Tempranillo ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกครึ่งระหว่างสายพันธุ์ Bobal กับสายพันธุ์ Monastrell ซึ่งองุ่นชนิดนี้จะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่จะต้องปลูกในบริเวณที่มีอากาศและอุณหภูมิที่เหมาะสมในแถบพื้นที่บริเวณเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้น
ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแปลกกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ โดยไวน์ชนิดนี้จะมีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงดำราวกับผลเชอร์รี่สุก ไม่ใช่เพียงแค่สีเท่านั้นที่มีความเป็นเชอร์รี่ แต่กลิ่นก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผลไม้มาก แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือกลิ่นของเชอร์รี่ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นขององค์ประกอบอื่นๆอีก ได้แก่ ราสเบอร์รี่ ผลส้มแคนซิส รวมทั้งยังมีกลิ่นของชะเอมเทสดำด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่ให้ความสดชื่น ความหวานหอม เต็มเปี่ยมไปด้วยผลไม้และเต็มปากเต็มคำอีกด้วย
ในภาพรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัสที่ชวนให้ลิ้มลองแทบทั้งสิ้น รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมกับการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของชีส เนื้อปลา อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อแกะนั้นจะมีรสชาติที่ส่งเสริมกับไวน์ได้ดีเป็นพิเศษ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 11.5% อีกด้วย
Castillo de Liria Crianza
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
EL PESCAITO BLANCO
EL PESCAITO BLANCO
EL PESCAITO BLANCO นับได้ว่าเป็นไวน์สีน้ำเงินชื่อดังที่ถูกผลิตโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังเจ้าของโลโก้ก้างปลาน้อยอย่าง EL PESCAITO ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงและมีการตั้งโรงกลั่นไวน์และแหล่งเพาะปลูกองุ่นทำไวน์ที่ประเทศสเปน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่การนำองุ่นที่ใช้ในการทำน้ำองุ่นมาใช้ในการผลิตไวน์นี้ ไม่ได้มีการเฉพาะเจาะจงสายพันธุ์ของไวน์ที่นำมาใช้อย่างชัดเจนมากนัก ซึ่งองุ่นเหล่านั้นล้วนเป็นองุ่นที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายน โดยองุ่นที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อนำมาใช้ในการผลิตไวน์นี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยสีของเนื้อสัมผัสไวน์นั้นเป็นสีน้ำเงินหรือสีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งนับได้ว่าหาได้ยากมากในหมู่ไวน์ ซึ่งกลิ่นที่ค่อนข้างโดดเด่นอีกอย่างนั้น ก็คือกลิ่นของผลเมล่อนที่หอมหวานอย่างยิ่ง รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติและสัมผัสที่ดื่มได้ง่ายมากด้วยเช่นกัน
ในภาพรวมนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง มีรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับหารที่มีส่วนผสมของชีส ปลา กุ้งและอาหารทะเล รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมกับนักดื่มสายหวานที่ชอบรสชาติที่ค่อนข้างหวาน สมกับเป็นไวน์สเปนชั้นเยี่ยมด้วยเช่นกัน
EL PESCAITO BLANCO
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
EL PESCAITO WHITE
EL PESCAITO WHITE
EL PESCAITO WHITE นับได้ว่าเป็นไวน์ขาวชื่อดังที่ถูกผลิตโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังเจ้าของโลโก้ก้างปลาน้อยอย่าง EL PESCAITO ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงและมีการตั้งโรงกลั่นไวน์และแหล่งเพาะปลูกองุ่นทำไวน์ที่ประเทศสเปน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่การนำองุ่นที่ใช้ในการทำน้ำองุ่นมาใช้ในการผลิตไวน์นี้ ไม่ได้มีการเฉพาะเจาะจงสายพันธุ์ของไวน์ที่นำมาใช้อย่างชัดเจนมากนัก ซึ่งองุ่นเหล่านั้นล้วนเป็นองุ่นที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายน โดยองุ่นที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อนำมาใช้ในการผลิตไวน์นี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นไวน์สี่ขาวออกไปทางสีเหลืองนวล ในส่วนของกลิ่นนั้นนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นของผลไม้เป็นหลัก แต่ไม่ใช่เพียงผลไม้เท่านั้นที่ช่วยทำให้ไวน์ชนิดนี้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น แต่กลิ่นของดอกไม้ที่เข้มข้นก็ช่วยให้ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่สดชื่นและสะดวกต่อการดื่มอย่างยิ่ง เหมาะสมสำหรับนักดื่มมือใหม่
ในภาพรวมนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง มีรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับหารที่มีส่วนผสมของชีส ปลา กุ้งและอาหารทะเล รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 10% เพียงเท่านั้น
EL PESCAITO WHITE
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Réserve Spéciale Saint-Emilion
Réserve Spéciale Saint-Emilion
Réserve Spéciale Saint-Emilion นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในระดับโลก โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส โดยผู้ผลิตที่ได้ผลิตไวน์ชนิดนี้ขึ้นมา คือ Baron de Rothschild หรือ Laffite ซึ่งได้มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่บริเวณชุมชน Saint-Emilion ของ Medoc ใน Bordeaux
ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการหมักโดยการนำองุ่นทั้งสองชนิดมาใช้ในกระบวนการผลิตในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน แต่ว่ามีความเหมือนกันในการใช้สูตรการปรุงไวน์ในแต่ละปี ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยองุ่นที่เลือกใช้ประกอบไปด้วยองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Franc 20% และองุ่นสายพันธุ์ Merlot 80% ซึ่งองุ่นที่นำมาใช้นั้นจะต้องผ่านการคัดเลือกและเก็บเกี่ยวด้วยมือแทบทั้งสิ้น
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ที่สีของเนื้อสัมผัส ด้วยความที่ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีผสมกันระหว่างสีม่วงเข้มและสีแดงเข้ม ทำให้ไวน์ชนิดนี้มีเงาและความแวววาวอย่างเด่นชัด บวกกับรสชาติและกลิ่นที่ค่อนข้างโดดเด่น ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบอย่างผลไม้สีดำ เช่น ลูกพลัม เบอร์รี่ดำ เคอร์แรนดำ รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติของชะเอมเทศอีกด้วย
นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสัมผัสที่เต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างยิ่ง ไม่ว่าสัมผัสที่ติดลิ้นอย่างยาวนาน ความแห้งของเนื้อไวน์ หรือแม้กระทั่งความสดใหม่และความเต็มเปี่ยมไปด้วยผลไม้ก็ช่วยชุรสของไวน์ให้น่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น ซึ่งไวน์นี้เป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เครื่องในสัตว์ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีกทุกชนิด นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12% อีกด้วย
Réserve Spéciale Saint-Emilion
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Réserve Spéciale Médoc
Réserve Spéciale Médoc
Réserve Spéciale Médoc นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในระดับโลก โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส โดยผู้ผลิตที่ได้ผลิตไวน์ชนิดนี้ขึ้นมา คือ Baron de Rothschild หรือ Laffite ซึ่งได้มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่บริเวณเมือง Medoc ใน Bordeaux
ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการหมักโดยการนำองุ่นทั้งสามชนิดมาใช้ในกระบวนการผลิตในอัตราส่วนที่แตกต่างกันไปตามปีที่มีการผลิตขึ้นมา โดยองุ่นที่เลือกใช้ประกอบไปด้วยองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Merlot ซึ่งองุ่นที่นำมาใช้นั้นจะต้องผ่านการคัดเลือกและเก็บเกี่ยวด้วยมือแทบทั้งสิ้น
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงสวยงาม รวมทั้งกลิ่นและรสชาติที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นต้นโอ๊ก วานิลลา ใบยาสูบ เบอร์รี่ดำและเคอร์แรนสีดำ ไม่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของการรมควันอย่างเจือจางและมีกลิ่นดินเล็กน้อยอีกด้วย
ในภาพรวมนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแน่น เข้มข้น แต่ก็ยังมีความแห้งและมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง เป็นไวน์ที่เปรี้ยว ไม่หวานมาก เหมาะอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีกชนิดต่างๆ
Réserve Spéciale Médoc
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM
CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM
CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการสร้างขึ้นมา โดยเจ้าของผืนแผ่นดินบริเวณคฤหาสน์ CHATEAU DE BEAUCASTEL ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการปรับปรุงมาเป็นแห่งเพาะปลูกองุ่นและโรงกลั่นไวน์เช่นเดียวกันกับในปัจจุบัน
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมา โดยการใช้องุ่นทั้งสามสายพันธุ์ด้วยกันมาเป็นวัตถุดิบหลัก ได้แก่องุ่นสายพันธุ์ Grenache, Shiraz และองุ่นพันธุ์ Mourvèdre ซึ่งองุ่นทั้งสามสายพันธุ์นั้นจะมีการใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันตามรุ่นและปีที่ผลิต
ไวน์ชนิดนี้นอกเหนือจะมีวิธีกรรมการผลิตที่น่าสนใจแล้ว รสชาติและกลิ่นที่ยอดเยี่ยมก็นับได้ว่าเป็นความประทับใจด้วยเช่นเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีที่ค่อนข้างเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งมีความเข้มมาจากเนื้อผลไม้ที่ใช้นั่นเอง บวกกับรสชาติที่ค่อนข้างดีและไม่มีความเข้มข้นที่ทรงพลังอย่างที่คาดคิดไว้ จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างร่วมสมัย หอมหวานแลนและเอร็ดอร่อย โดยกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นนั่น ได้แก่ ผลไม้สีแดง ผลมะกอก เครื่องเทศและกลิ่นข้าวจางๆ
โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสัมผัสที่ติดลิ้นที่ค่อนข้างยาวนาน โดยเฉพาะยาวนานกว่าไวน์หลากหลายชนิด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่จะมีรสชาติที่เหมาะสมเมื่อมีอายุยาวนานประมาณ 15 ปีและควรคู่กับการรับประทาน กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเนื้อแกะ ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14-15%
CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Chateau La Dominique
Chateau La Dominique
Chateau La Dominique เป็นไวน์ที่มีแหล่งการผลิตอยู่บริเวณ Chateau La Dominique ใน Saint-Emilion Grand Cru ของ Saint-Emilion เมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส โดยชื่อไวน์ที่ใช้ในการผลิตนั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อโรงกลั่นไวน์ที่ใช้ในการผลิตไวน์นี้และยังเป็นแหล่งเดียวกันกับสวนที่ใช้ในการเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตอีกด้วย
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการใช้ส่วนผสมขององุ่นทั้งสามสายพันธุ์เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไวน์ชนิดนี้ ได้แก่องุ่นพันธุ์ Merlot 85%, Cabernet Franc 13% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon อีก 2% (โดยอัตราส่วนนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการปรับปรุงไวน์ในแต่ละรุ่น) โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่การหมักเป็นจำนวนสองครั้งด้วยกัน โดยการหมักครั้งแรกจะเกิดขึ้นในถังหมักสแตนเลสเป็นเวลาประมาณ 25-37 วัน หลังจากนั้นจะนำไปหมักในถังโอ๊กใบใหม่ต่ออีกเป็นเวลายาวนานกว่า 16 เดือน
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่นิยมใช้ในการเฉลิมฉลองงานสำคัญหรือเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะในงานวันเกิดต่างๆ โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้ม รวมทั้งยังมีส่วนของกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นที่แสดงออกมานั้น จะมีความคล้ายคลึงกันกับดอกกุหลาบ ดาร์กช็อกโกแลต กาแฟเอสเปรสโซ่ สมุนไพร ลูกพลัมและลูกเชอร์รี่สีดำ ซึ่งกลิ่นและรสชาติที่แสดงออกมานั้นแสดงได้ถึงความเข้มข้นและความเปรี้ยวจี๊ดที่แสดงออกมา โดยค่า Ph ของไวน์ชนิดนี้มีค่าที่ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ประมาณ 3.7 เลยทีเดียว
สำหรับข้อแนะนำในการรับประทานไวน์ชนิดนี้ ไวน์ชนิดนี้จะมีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้นเมื่อมีอายุไวน์ที่ประมาณ 9-12 ปี รวมทั้งยังควรที่จะวางทิ้งไวน์ก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็ช่วยส่งเสริมให้กลิ่นและรสชาติของไวน์ดียิ่งขึ้นอีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์ รวมทั้งยังเหมาะสมกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ เนื้อไก่ โดยเฉพาะไก่ย่างรมควัน หรืออาหารที่ย่างหรือรมควันก็เหมาะสมอยู่เช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนี้อาหารที่เต็มไปด้วยเนื้อปลาเช่นปลาทูน่า ปลาแซลม่อน เห็ด หรืออาหารเอเชียและพาสต้าก็สามารถกินควบคู่กับไวน์เพื่อเสริมรสชาติได้เช่นเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 15%
Chateau La Dominique
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé
Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé
Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé เป็นไวน์ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีแหล่งการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Pessac-Leognan ในเมือง Bordeaux ของแดนน้ำหอมนั่นเอง
ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยแบรนด์ไวน์ในประเทศฝรั่งเศสอย่าง Haut-Brion ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Jean de Pontec ในปี ค.ศ. 1553 หรือราวปี พ.ศ. 2096 โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ชนิดแรกในประวัติศาสตร์ไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาในดินแดนแห่งไวน์อย่าง Bordeaux รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เคยถูกนำเสนอให้แก่พระเจ้าชาร์ลที่สองแห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1660 หรือช่วงประมาณปีพ.ศ. 2203 อีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีส่วนผสมที่น่าสนใจ โดยการนำองุ่นทั้งสามสายพันธุ์มาใช้ในกรรมวิธีการผลิตนี้ ได้แก่ 45% Merlot, 44% Cabernet Sauvignon และ 9% Cabernet Franc ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่นั้น ถึงว่าไวน์นี้จะไม่มีองุ่นพันธุ์ Petit Verdot แต่กลับกลายว่ามีกลิ่นและรสชาติขององุ่นสายพันธุ์นี้อยู่จางๆ
เนื่องด้วยเป็นไวน์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีกรรมวิธีการผลิตที่ค่อนข้างนานและซับซ้อนกว่าไวน์ทั่วไป โดยไวน์ชนิดนี้จะต้องคัดสรรและเก็บเกี่ยวองุ่นที่ใช้ด้วยมือเท่านั้น และจะต้องผ่านการเลือกสรรหลายขั้นตอนเพื่อหาองุ่นที่ดีที่สุด โดยองุ่นที่ใช้นั้นต้องใช้ในสวนของตนเองเท่านั้น และมีระยะเวลาในการหมักยาวนานมากถึง 22 เดือนด้วยกัน
ในส่วนของรสชาติและกลิ่นนั้นนับได้ว่ามีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งทั้งความเข้มข้นของเนื้อสัมผัส ความแห้งของเนื้อไวน์และความเปรี้ยวของรสชาติและกลิ่นที่มีความคล้ายคลึงกับในยาสูบ ต้นสนและต้นโอ๊กผสมรวมกัน นอกเหนือจากนี้ยังมีส่วนผสมของกลิ่นและรสชาติที่คล้ายคลึงกับผลไม้สีดำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบล็กเคอร์แรนหรือผลเชอร์รี่สีดำก็ตาม นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างเหมาะสม อยู่ในระดับประมาณ 13% และเหมาะสมกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีกอย่างไก่และเป็ด
Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Chateau Marquis de Terme Margaux
Chateau Marquis de Terme Margaux
Chateau Marquis de Terme Margaux นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้ชื่อแบรนด์ไวน์ดังอย่าง Chateau Marquis de Terme ซึ่งเป็นโรงผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงอยู่บริเวณ Margaux ใน Medoc, Bordeaux ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยบริเวณแห่งนี้นอกจากจะมีแหล่งผลิตไวน์หรือโรงกลั่นไวน์เป็นของตัวเองแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีบริเวณเพาะปลูกองุ่นที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไวน์เป็นของตัวเองอีกด้วย
โดยองุ่นที่มีชื่อเสียงที่ถูกผลิตขึ้นมาจากบริเวณนี้ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ที่มีความนิยมในการผลิตไวน์อย่างสูง โดยไวน์ชนิดนี้ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในไวน์ที่มีการนำองุ่นพันธุ์นี้มาใช้มากถึง 60% ของสัดส่วนวัตถุดิบทั้งหมด นอกเหนือจากองุ่นพันธุ์นี้แล้ว ทางผู้ผลิตก็มีการใช้องุ่นพันธุ์ Merlot และ Petit Verdot มาใช้ด้วยในอัตราส่วน 33% และ 7% ตามลำดับ โดยไวน์นี้จะต้องผ่านการผลิตโดบการหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่เป็นเวลายาวนานถึง 18 เดือน ถึงได้รสชาติที่ลงตัว
โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่สวยงาม มีสีของเนื้อไวน์เป็นสีแดงเข้มแกมม่วงที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความสมดุลทั้งในเรื่องของกลิ่นและรสชาติของไวน์อย่างดี ด้วยความนุ่มนวลของความสดใหม่ของผลไม้นานาชนิดที่ผสานกันกับความเข้มข้นของรสชาติและกลิ่นราวกับกาแฟเอสเปรสโซ่ชั้นดี ที่ผสานกับช็อกโกแลตขม ทำให้ไวน์นี้มีเสน่ห์อย่างหาตัวจับได้ยากยิ่ง
โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างโดดเด่น ทั้งกลิ่น เนื้อสีและรสชาติก็ผสานความแตกต่างเข้ากันได้อย่างละมุนและลงตัว ตัวเนื้อสัมผัสก็มีความพอดี เป็นเนื้อเดียวกันอย่างยอดเยี่ยม โดยไวน์นี้มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5-14% และเหมาะกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อวัวและเนื้อกวาง
Chateau Marquis de Terme Margaux