Tag Archives: ไวน์

Vin de Bourgogne Macon Axe

Vin de Bourgogne Macon Axe

            Vin de Bourgogne Macon Axe นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งและเป็นไวน์ขาวที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาหรือมีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Vin de Bourgogne ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นระดับแนวหน้าของทวีปยุโรป รวมทั้งยังมีถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ทางด้านตอนใต้ของเมือง Bourgogne ในประเทศฝรั่งเศส โดยหมู่บ้านที่เป็นแหล่งการผลิตนั้นมีชื่อหมู่บ้านว่า Macon Axe Village ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อุดมไปด้วยสูตรเก่าแก่มากมาย

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวมาใช้ในการผลิตอย่าง Chardonnay แท้ 100% โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรมาใช้นั้นจะต้องมีการเพาะปลูกอยู่ในแทบเนินเขาอย่าง Maconnais ซึ่งเป็นเนินเขาในประเทศฝรั่งเศสที่มีการตั้งแนวเขาตามแนวแกนและมีการถูกแบ่งแยกรอยต่อของภูเขา จึงทำให้เหล่าเถาวัลย์สามารถแทรกไปที่เนินเขาจึงทำให้ดินอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างดี รวมทั้งเนินเขานี้ยังมีองค์ประกอบของปูนขาวจึงทำให้องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay นั้นเติบโตได้ดี อีกทั้งสถานที่แห่งนี้จะมีดินที่เป็นดินทรายผสมกับดินเหนียวที่ละเอียดอย่างดีอีกด้วย

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีขาวสวยงามที่ผสานกันกับสีเหลืองทองใสสว่างสมกับเป็นไวน์ขาวชั้นเยี่ยม ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเคลือบขอบรอบผิวสัมผัสเป็นสีเหลืองเขียวอีกด้วย อีกทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ทั้งในส่วนของกลิ่นและรสชาติของผลไม้กับดอกไม้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบขาว ดอกอคาเซีย เฟิร์น สมุนไพรสายพันธุ์อเมริกันที่มีชื่อเรียกว่า Verbena ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มแมนดาริน องุ่น ผลส้มเขียวหวานและดอกไม้บานอีกหลายชนิด ซึ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความแห้งของเนื้อสัมผัสและความกลมกล่อมในตัวอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่มีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีความโดดเด่นทั้งดอกไม้และผลไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส้มแมนดาริน ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวาน องุ่น ดอกอคาเซีย และเฟิร์น ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการคู่กับอาหารทานเล่น เช่น ขนมปัง มะกอก ถั่ว หรือสามารถนำไปดื่มควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของปลาได้อีกด้วยเช่นกัน

Vin de Bourgogne Macon Axe

Vin de Bourgogne Macon Axe

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château La Couspaude Saint-Émilion

Château La Couspaude Saint-Émilion

            Château La Couspaude Saint-Émilion นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกผลิตและถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงในแถบทวีปยุโรปและมีตำนานการผลิตไวน์มาอย่างยาวนานนับกว่าศตวรรษและมีที่ดินในการเพาะปลูกองุ่นมากกว่า 7 เฮกตาร์หรือประมาณ 17 เอเคอร์อย่าง Château La Couspaude ซึ่งเป็นคฤหาสน์ที่มีความนิยมในการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากในทวีปยุโรป โดยบริษัทไวน์แห่งนี้ตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Saint-Emilion Grand Cru ที่สังกัดอยู่ในเมือง Saint-Emilion ของเมือง Libournais ของภูมิภาค Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นหนึ่งในไวน์ที่มีการใช้สูตรต้นตำรับของชาว Bordeaux และสถานที่เพาะปลูกไวน์ที่มีการสืบทอดมาเป็นเวลายาวนานกว่า 300 ปีด้วยกัน ซึ่งนับได้ว่าหาได้ยากมากในวงการการผลิตไวน์ โดยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำองุ่นมาใช้เป็นการใช้วัตถุดิบแบบผสมหรือ Bordeaux Blended Grapes ที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์การผลิตไวน์ที่มีมักจะนำองุ่นมากถึงห้าสายพันธุ์ด้วยกันมาใช้ในการผลิตไวน์ โดยองุ่นที่นำมาใช้นั้น ทางผู้ผลิตได้เลือกใช้องุ่นสายพันธุ์ดังต่อไปนี้ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Malbec, Merlot และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยทางผู้ผลิตจะเลือกสรรองุ่นพันธุ์ดีมาหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่แท้ 100% เป็นเวลายาวนานกว่า 18-20 เดือนด้วยกัน

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้อีกว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง เริ่มแรกจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์นั้นเป็นสีแดงที่ค่อนข้างเข้มอย่างยิ่ง เนื่องด้วยกลิ่นและรสชาติของไวน์ชนิดนี้จะอุดมไปด้วยผลไม้สีดำเข้มที่ค่อนข้างมาก รวมทั้งยังมีองค์ประกอบอื่นๆผสมผสานกันมาอย่างดีอีกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ ผลราสเบอร์รี่ ดอกกุหลาบจางๆ ผลเชอร์รี่ ชะเอมเทศและโกโก้ ซึ่งนับได้ว่ามีความชัดเจนในแต่ละส่วนอย่างดี

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างชัดเจน กลมกล่อม รวมทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มปากเต็มคำได้อย่างดีมากอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-14% ซึ่งนับได้ว่าไม่สูงมากนักสำหรับไวน์ทั่วไป

Château La Couspaude Saint-Émilion

Château La Couspaude Saint-Émilion

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru

Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru

            Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีคะแนนการประเมินจากนักดื่มไวน์ทั่วโลกว่าเป็นไวน์ยอดเยี่ยมและมีการถูกสร้างสรรค์หรือการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงมานานนับหลายปีอย่าง Vignobles Capdemourlin ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไวน์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในทวีปยุโรป โดยบริษัทไวน์แห่งนี้ตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Saint-Emilion Grand Cru ที่สังกัดอยู่ในเมือง Saint-Emilion ของเมือง Libournais ของภูมิภาค Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นมากมายหลากหลายสายพันธุ์มาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ โดยอัตราส่วนการผลิตในแต่ละปีก็จะมีความแตกต่างอยู่ด้วยเช่นกัน โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตนั้นได้มีการเลือกสรรและนำมาใช้นั้นมีทั้งหมดห้าสายพันธุ์ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Malbec และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยองุ่นทั้งห้าสายพันธุ์มาหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่กว่า 50% เป็นเวลายาวนานกว่า 15-18 เดือนด้วยกัน ด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบสูตรดั้งเดิมต้นตำรับตามวิธีการผลิตของชาว Bordeaux

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่น่าดึงดูดตาและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะของสีของเนื้อสัมผัสของไวน์นี้ที่ค่อนข้างมีความเข้มข้นอย่างยอดเยี่ยม มีสีที่ค่อนข้างเป็นแดงเข้มอย่างชัดเจน รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างสดชื่น มีชีวิตชีวาและมีความเบาบางนุ่มนวลอย่างยิ่ง ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ที่ความหวานเฉพาะตัวที่มาจากผลไม้สีแดงหลากหลายชนิดที่ผสานกันกับความเข้มข้นของชะเอมเทศและผงโกโก้

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติทีค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง มีทั้งความหวานและความเข้มข้นในส่วนของกลิ่นและรสชาติกันได้อย่างลงตัว เป็นไวน์ที่มีครบรสทั้งความหวาน เข้มข้น สดชื่น มีชีวิตชีวาและความเบาบางนุ่มนวล ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์นี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดหรือเนื้อไก่ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14-15% เพียงเท่านั้น

Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru

Chateau Balestard La Tonnelle St. Emilion Grand Cru

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Rouget Pomerol

Chateau Rouget Pomerol

            Chateau Rouget Pomerol นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาจากแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงเป็นระดับแนวหน้าของทวีปยุโรปอย่าง  Chateau Rouget ที่มีความสามารถในการผลิตไวน์อย่างมากและมีพื้นที่ในการเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตไวน์มากถึง 17 เฮกตาร์หรือมากถึง 42 เอเคอร์ด้วยกัน นับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ครบวงจร โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Pomerol ซึ่งเป็นเมืองที่มีเครดิตความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากในการผลิตไวน์แดง ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ในเขตการปกตรอง Bordeaux ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร เนื่องจากมีการนำองุ่นเพียงแค่ชนิดเดียวมาใช้ในกระบวนการผลิต โดยองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกใช้นั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot แท้ 100% ซึ่งทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากไร่ของตนมาใช้ในการผลิตเท่านั้น เพื่อที่เขาจะควบคุมคุณภาพของผลองุ่นทุกลูกให้ดีที่สุด แล้วหลังจากนั้นทางผู้ผลิตจึงได้มีการเพิ่มลูกเล่นให้กับไวน์นี้ด้วยการนำองุ่นทั้งหมดไปหมัก โดยแบ่งเป็นทั้งหมดสองส่วนด้วยกัน โดยส่วนน้อยที่มีเพียงแค่ 35%. ทางผู้ผลิตจะนำไปหมักไวน์ด้วยการ Micro-Vinification Technique เพื่อทำให้ไวน์เพียงแค่จำนวนครั้งละน้อยๆ เพื่อให้รสชาติเกิดความพิเศษและเท่าเทียมกันแทนการหมักลงไปทั้งหมดภายในครั้งเดียว แล้วในส่วนของกลุ่มที่เหลือนั้น ทางผู้ผลิตได้มีการนำไปหมักลงในถังไม้บาร์เรลแบบถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่เป็นเวลาเฉลี่ยยาวนานกว่า 15-18 เดือน ก่อนที่จะนำทั้งสองส่วนมารวมกันและนำไปบรรจุลงในขวดไวน์

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ในทุกด้าน ไม่ใช่เพียงแค่กรรมวิธีการผลิตเท่านั้น แต่ว่าลักษณะกับรูปร่างภายนอกก็น่าดึงดูดไม่แพ้กัน โดยเริ่มแรกจากสีของเนื้อสัมผัสของไวน์นั้นจะออกไปทางสีแดงเข้มที่แสดงถึงความเข้มข้นขององค์ประกอบของไวน์ บวกกันกับกลิ่นและรสชาติของไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ป่าสีดำหลากหลายชนิด รวมทั้งชะเอมเทศที่แตะจมูกและถ่ายทอดรสสัมผัสแก่ผู้ดื่มได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้นับได้ว่ามีความเข้มข้น บางเบา นุ่มนวล สดชื่น มีชีวิตชีวาและมีความสมดุลกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความเหมาะสมเป้นอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ13.5%

Chateau Rouget Pomerol

Chateau Rouget Pomerol

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Labegorce Margaux

Chateau Labegorce Margaux

            Chateau Labegorce Margaux นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในแถบทวีปยุโรปอย่าง Chateau Labegorce ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่ย่านชุมชนที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์อย่าง Margaux ของเมือง Bordeaux ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการผลิตไวน์ที่สำคัญเป็นระดับแนวหน้าของโลกแล้ว ยังนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นคฤหาสน์ที่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วยเช่นกัน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนและพิถีพิถันอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนแรกที่มีการเลือกและคัดสรรองุ่นมากถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตนั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot, Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยปริมาณและอัตราส่วนที่นำมาใช้ในการผลิตในแต่ละปีจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งทางผู้ผลิตนั้นจะมีการนำองุ่นทั้งหมดมาใช้ในการผลิตไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบเยี่ยมที่ค่อนข้างใหม่เกือบ 50% ด้วยกัน ไปหมักเป็นเวลายาวนานกว่า 15 เดือนด้วยกัน

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างดียิ่ง โดยเริ่มแรกนั้น สีของเนื้อสัมผัสนั้นงดงามอย่างมาก เป็นไวน์ที่มีสีแดงเข้มสวยงามอย่างยิ่ง ซึ่งไวน์ชนิดนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่สีของเนื้อสัมผัสเท่านั้น ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นอย่างมาก มีทั้งกลิ่นและรสชาติของดอกไม้นานาชนิด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อยู่มาก มีทั้งเบอร์รี่สีดำ บลูเบอร์รี่ ช็อกโกแลต ผลเชอร์รี่ เมล็ดกาแฟและลูกพลัมสุก ซึ่งนับได้ว่ามีความชัดเจนและมีความสดชื่น ความเปรี้ยวจากสารแทนนินและความเบาบางได้อย่างดีอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง มีทั้งกลิ่นและรสชาติของดอกไม้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ช็อกโกแลต สารแทนนิน เชอร์รี่ ช็อกโกแลตและลูกพลัมสุก ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5-14.5% ซึ่งนับได้ว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับไวน์ทั่วไป

Chateau Labegorce Margaux

Chateau Labegorce Margaux

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Bahans Haut-Brion 1998

Château Bahans Haut-Brion 1998

            Château Bahans Haut-Brion 1998 นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในแถบทวีปยุโรปอย่าง Château Bahans Haut-Brion ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Pessac-Léognan ที่อยู่ทางด้านตอนใต้ของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการผลิตไวน์ที่สำคัญเป็นระดับแนวหน้าของโลกแล้ว ยังนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นคฤหาสน์ที่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วยเช่นกัน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นมากถึงห้าชนิดด้วยกันมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตตามหลักการผลิตไวน์แดงของ Bordeaux ซึ่งองุ่นที่ทางผู้ผลิตได้เลือกสรรมาใช้ก็คือ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Petit Verdot และองุ่นสายพันธุ์ Malbec ซึ่งปริมาณและอัตราส่วนขององุ่นที่นำมาใช้นั้นก็จะค่อนข้างแตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต โดยทางผู้ผลิตนั้นก็จะนำองุ่นทั้งหมดนั้นไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสตามสูตรต้นตำรับที่มีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นของชาวพื้นเมือง

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์ทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกและความประทับใจจากกลิ่นและรสชาติอย่างยอดเยี่ยม ด้วยตัวเนื้อสัมผัสของไวน์นี้เป็นไวน์แดงที่มีแดงเข้มราวกับสีของอิฐผสานกันกับสีของโกเมน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายและรสสัมผัสของครีมและผลบลูเบอร์รี่ที่ผสานกับกลิ่นและรสชาติของผลเบอร์รี่สีดำ ซึ่งนับได้ว่าสวยงามเป็นอย่างดี

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างดียิ่ง ไม่ว่าจะเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงสวยงาม มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมจากครีม บลูเบอร์รี่และผลเบอร์รี่สีดำ ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ13-14.5% อีกด้วยเช่นกัน

Château Bahans Haut-Brion 1998

Château Bahans Haut-Brion 1998

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Ornellaia Bolgheri Superiore

Ornellaia Bolgheri Superiore

            Ornellaia Bolgheri Superiore นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากที่สุดในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบบริเวณยุโรปอย่าง Ornellaia ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอย่างดินแดนที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์สัญชาติยุโรปอย่าง Bolgheri ในชายหาด Tuscan ที่อยู่ทางตอนใต้ของเมือง Livorno ของประเทศอิตาลี

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นมากมายหลายชนิดมาใช้ในกระบวนการผลิตในครั้งนี้ โดยสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตในครั้งนี้จะมีอยู่ทั้งหมดสี่สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 53%, Merlot 23%, Cabernet Franc 17% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot 7% โดยทางผู้ผลิตจะมีการนำองุ่นทุกสายพันธุ์ที่ผ่านการเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้นมาหมักลงในถังไม้โอ๊กอย่างดี

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ค่อนข้างโดดเด่นและมีความยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเข้มข้นราวกับเป็นสีแดงทับทิม รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นของผลเบอร์รี่สีดำและบลูเบอร์รี่ที่เข้มข้นและผสานตัวกันกับกลิ่นของเครื่องเทศอีกด้วยเช่นกัน นอกแหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างยิ่ง โดยเฉพาะรสชาติของความเปรี้ยวจากสารแทนินที่ดีด้วยเช่นกัน

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยกลิ่นและรสสัมผัสของผลเบอร์รีสีดำและผลบลูเบอร์รี่อีกด้วย ซึ่งยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีคุณสมบัติอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เครื่องในสัตว์ เนื้อกวางและอาหารจานเดียวอย่างพาสต้า นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.5-15% อีกด้วยเช่นกัน

Ornellaia Bolgheri Superiore

Ornellaia Bolgheri Superiore

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Dominus Estate Napa Valley

Dominus Estate Napa Valley

            Dominus Estate Napa Valley นับได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในแถบทวีปอเมริกาเหนือที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาและผลิตขึ้นด้วยฝีมือคุณภาพจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Dominus Estate ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนที่มีการกล่าวเลื่องลือในเรื่องความสามารถในการผลิตไวน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่าง Napa Valley ซึ่งสังกัดในเขตการปกครอง Napa ที่อยู่ทางด้านชายหาดตอนเหนือของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่เดียวกันกับคฤหาสน์ที่มีนามเดียวกันที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของอเมริกาด้วยเช่นเดียวกัน

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่ทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นที่แตกต่างกันมาใช้ในการผลิตที่เป็นชนิดเดียวกัน แต่จะมีการใช้อัตราส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อยตามแล้วแต่ปีที่ผลิต ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตหลักนั้นจะมีการใช้เพียงแค่สามสายพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot เท่านั้น ซึ่งองุ่นทุกสายพันธุ์จะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนตุลาคมเท่านั้น เพื่อที่จะได้องุ่นที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุด หลังจากที่ทางผู้ผลิตได้มีการคัดเลือกองุ่นแล้วนำไปบ่มในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นไวน์แดงที่มีความเข้มข้นและมีโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมอย่างดียิ่งอีกด้วย ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของไวน์ที่ความเข้มข้นอย่างยิ่ง เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่โดดเด่นของผลเบอร์รี่หลากหลายชนิด รวมทั้งยังมีกลิ่นที่คล้ายคลึงกับขนมทรัฟเฟิลอีกด้วย รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสสัมผัสของดอกลาเวนเดอร์ สารแทนนินที่ค่อนข้างเปรี้ยวและดาร์กช็อกโกแลต

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความเหมาะสมสำหรับทุกเพศทุกวัย อันเนื่องมาจากเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและรสชาติของผลเบอร์รี่หลากหลายชนิด ขนมทรัฟเฟิล ดาร์กช็อกโกแลต สารแทนนินหรือดอกลาเวนเดอร์อีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ  13-15% อีกด้วย

Dominus Estate Napa Valley

Dominus Estate Napa Valley

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru

Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru

            Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในแถบดินแดนของทวีปยุโรปอย่าง Domaine Leflaive ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่เมือง Puligny-Montrachet ของเมือง Cote de Beaune ในภูมิภาค Burgundy ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้มีการใช้พื้นที่ขนาดเล็กอย่าง Bienvenues-Batard-Montrachet มาใช้ในการผลิต โดยพื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่ทางด้านปลายเขาฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขา Montrachet ซึ่งสถานที่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นที่มีสภาพอากาศสมบูรณ์และเหมาะสมกับการทำไวน์ขาวอย่างยิ่ง โดยทางผู้ผลิตได้มีการคัดสรรองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวเท่านั้นที่เอามาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay ที่นิยมระดับโลกในการทำไวน์ขาวและนำองุ่นทั้งหมดไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบเยี่ยม

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่งดงามน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้ที่มีความเข้มข้นและซับซ้อนในเนื้อสัมผัส รวมทั้งมีความมันของเนยเล็กน้อยก็ยิ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้มีมนต์เสน่ห์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความทรงพลังในส่วนของกลิ่นและรสชาติเป็นอย่างยิ่ง เป็นกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยผลไม้สุกมากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน โดยเฉพาะกลิ่นของต้นโอ๊กที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นและรสสัมผัสของสมุนไพรที่ค่อนข้างเจือจางอีกด้วยเช่นกัน จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างเบาบางขึ้น ไม่เข้มข้นมากเหมือนเดิมอีกต่อไป

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อมและน่าลิ้มลองอย่างยิ่ง ทั้งส่วนของรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากผลไม้สุกหลากหลายชนิดที่ผสานตัวกันกับกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊ก สมุนไพร และเครื่องเทศบางชนิดอีกด้วย ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อไก่ โดยเฉพาะกับไก่งวงจะมีรสชาติยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-14% เพียงเท่านั้น

Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru

Domaine Leflaive Bienvenues-Batard-Montrachet Grand Cru

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Decoy Cabernet Sauvignon

Decoy Cabernet Sauvignon

            Decoy Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Decoy ที่เป็นแบรนด์ชื่อดังและก่อตั้งมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้เป็นแบรนด์ไวน์แหล่งที่สอง รวมทั้งยังเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตหลักอยู่ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ของประเทศสหรัฐอเมริกา

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อนที่ค่อนข้างสูงมากอย่างยิ่ง ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นกระบวนการผลิตที่มีการใช้สายพันธุ์องุ่นจำนวนมากถึง 6 สายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 78% Merlot 13% Zinfandel 4% Petite Syrah 2% Syrah 2% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot 1% โดยทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นทั้งหมดนั้นมาใช้ในการหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์อเมริกันชั้นเยี่ยมอย่างยิ่งอีกด้วย

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกและรูปร่างที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของสีเนื้อสัมผัสที่เป็นสีค่อนข้างเข้ม เป็นสีของไวน์แดงที่สวยราวกับสีของโกเมนอย่างยิ่ง และความพิเศษของไวน์ชนิดนี้คือเป็นไวน์ที่มีประกายความสว่างสดใสบนพื้นผิวสัมผัสอยู่เล็กน้อยอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นและมีมนต์เสน่ห์ในกลิ่นของผลไม้สีแดงหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผลเคอร์แรนสีแดงที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกเหนือจากนี้ ในส่วนของรสชาติของไวน์นั้นนับได้ว่าเป็นไวน์ที่รสสัมผัสที่ผสมผสานกันอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสที่ร้อนแรงที่มาจากสารแทนนินที่ให้ความเปรี้ยวเป็นกรดแก่ไวน์อย่างชัดเจน รวมไปถึงรสสัมผัสที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลตและเครื่องเทศที่ถูกบ่มในถังไม้โอ๊กอีกด้วย

            ในภพารวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง นับได้ว่าเป็นไวน์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยผลไม้มากมาย โดยเฉพาะผลไม้ที่เป็นสีแดง เช่น ผลเคอร์แรนสีแดงที่ผสานกันกับกลิ่นและรสชาติของช็อกโกแลต ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% เพียงเท่านั้น

Decoy Cabernet Sauvignon

Decoy Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com