Montes Purple Angel

Montes Purple Angel

            Montes Purple Angel นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงมากตัวหนึ่งของแบรนด์ Montes มีต้นกำเนิดมาจากหมู่บ้าน Colchagua ซึ่งเป็นแหล่งปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางใจกลางเมืองของประเทศชิลี โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นจากสองพันธุ์ชื่อดัง มาใช้ในกรรมวิธีการผลิต ไม่ว่าจะเป็นองุ่นพันธุ์ Carmenère 92% และองุ่นพันธุ์ Petit Verdot 8% ที่มีการหมักในถังโอ๊กฝรั่งเศสใบใหม่เป็นเวลา 18 เดือน มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14-15%

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีเป็นสีแดงโกเมนที่น่าค้นหาและดูลึกล้ำ มีความเข้มข้นของกลิ่นหอมที่มาพร้อมกับความโดดเด่นของกลิ่นผลไม้ จำพวกเบอร์รี่ผสมผสานกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศและขนมหวาน นอกจากนั้น ยังมีกลิ่นหอมที่ได้จากต้นโอ๊กฝรั่งเศสผสมผสานได้ดีมาก ให้รสสัมผัสช็อคโกแลตเข้มและวานิลลา สัมผัสได้ถึงรสฝาดๆ ของกรดแทนนิน ที่ช่วยเพิ่มความลึกลับซับซ้อนของรสชาติได้เป็นอย่างดี

             นี่คือไวน์ที่มีรสชาติที่สอดคล้องกับกลิ่นหอม มีรสสัมผัสติดปากที่ยาวนาน แนะนำอย่างยิ่งเมื่อดื่มคู่กับเนื้อแดง, เนื้อแกะสับกับโรสแมรี่, ซี่โครงหมูและ cannelloni ซึ่งเป็นอาหารจำพวกหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในประเภทของเส้นพาสต้าและลาซานญ่าผสมรวมกัน และควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิอยู่ที่ 17-19  องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 63-66 องศาฟาเรนไฮต์ โดยก่อนที่จะดื่มควรตั้งทิ้งไว้ก่อนประมาณชั่วโมง เพื่อช่วยให้ไวน์ชนิดนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

Montes Purple Angel

Montes Purple Angel

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Canti Piemonte Passito Rosso

Canti Piemonte Passito Rosso

            Canti Piemonte Passito Rosso เป็นไวน์ที่มีการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Canti ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเมือง Prosecco ซึ่งอยู่ใน Veneto ของประเทศอิตาลี โดยชื่อไวน์นี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อเมืองแหล่งผลิตและแหล่งการเพาะปลูกไวน์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่ใช้องุ่นพันธุ์ Barbera มาใช้ 100%

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ทำด้วยองุ่น Barbera แห้งตามธรรมชาติบนเถา ทำให้สุกเร็วขึ้นในตอนท้ายของกระบวนการเนื่องจากการสะสมของความอบอุ่นและการขาดน้ำ ลักษณะขององุ่นสภาพภูมิอากาศและดินช่วยให้องุ่นที่อยู่บนเถาองุ่นมีมากเกินไป โดยกระบวนการในการผลิตไวน์ชนิดนี้ได้เกิดขึ้นในเหล็กโดยมีการหลอมยาวเป็นเวลา 15-18 วันที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ตามด้วยการหมักmalolactic และหกเดือนใน barriques

            ไร่องุ่นตั้งอยู่บนสันเขาที่ไหลไปทางขวาของแม่น้ำ Belbo ทางใต้ของแม่น้ำ Tanaro ที่ระดับความสูงระหว่าง 200 และ 400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ดินทรายมาร์ลมีต้นกำเนิดจากตะกอนทะเลมีตะกอนละเอียดถึงหยาบและมีขีด จำกัด ในการกักเก็บน้ำ การทำให้สุกเร็วขึ้นในช่วงสุดท้ายเนื่องจากการสะสมความร้อนและการขาดน้ำ ลักษณะของความหลากหลายภูมิอากาศและดินทำให้องุ่นสุกงอมมากเกินไป

            นอกจากนี้ ในส่วนของรสชาติของไวน์ชนิดนี้นั้นเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงราวกับสีของอัญมณีทับทิมที่มีสีแดงลึก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเปิดพอสมควร มีกลิ่นอายของความร่วมสมัยที่ผสานมากับกลิ่นของผลไม้สุก โดยเฉพาะกลิ่นที่มาแทรกจางๆอย่างแยมลูกพลัมและแยมจากผลแบล็กเคอรแรนอีกด้วย

           ซึ่งรสชาติของไวน์นี้ก็ไม่ค่อยจะแตกต่างกับกลิ่นซักเท่าไหร่ ทั้งบรรยากาศของไวน์ที่นุ่มนวล มีความอบอุ่นและมีความเข้มข้นอยู่ในปาก แต่ก็ยังมีความสมดุลอย่างยิ่งในไวน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15% และเหมาะกับการรับทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ทุกชนิดด้วยเช่นกัน

Canti Piemonte Passito Rosso

Canti Piemonte Passito Rosso

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Canti Prosecco DOC

Canti Prosecco DOC

            Canti Prosecco DOC เป็นไวน์ที่มีการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Canti ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเมือง Prosecco ซึ่งอยู่ใน Veneto ของประเทศอิตาลี โดยชื่อไวน์นี้ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อเมืองแหล่งผลิตและแหล่งการเพาะปลูกไวน์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่ใช้องุ่นพันธุ์ Glera มาใช้ 100%

            Prosecco ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นทางเลือกราคาถูกสำหรับแชมเปญ เราจะไปไกลกว่าที่จะบอกว่าสิ่งนี้ดีกว่าฟองอากาศทั่วไปที่มักถูกส่งผ่านเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าสำหรับแชมเปญ

Canti เป็นเจ้าของและดำเนินงานโดยตระกูล Martini ในอิตาลีและพวกเขากำลังเต็มแรงก่อนที่จะได้รับชื่อ Canti ที่นั่น คุณจะพบบาร์ Canti Prosecco ใน Harrod’s of London, GUM ในมอสโกและ David Jones ในซิดนีย์ คุณจะพบว่าชื่อของพวกเขาถูกฉาบอยู่บนรถแท็กซี่สีดำกว่า 6,000 คันในกรุงลอนดอนเพื่อโฆษณาชื่อ!

            Canti Prosecco เป็นไวน์ที่มีราชาติและกลิ่นที่เบา เพรียวบางและคงอยู่ยาวนาน เป็นไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายและรสสัมผัสจากช่อมะนาว, มะนาว, ส้ม, แอปเปิ้ลและผลไม้เนื้อหินสีขาว เพดานปากสะท้อนกลิ่นหอมของส้มและลูกพีชที่จบลงด้วยความสดชื่นความเป็นกรดที่คมชัด ไวน์สดชื่นที่ไม่ได้เป็นเพียงไวน์ที่ไว้จิบเพื่อช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร หรือไวน์ที่ไว้กินเพียงแค่ช่วงก่อนมื้ออาหารเท่านั้น

            โดยไวน์นี้นับได้ว่าไม่ได้เป็นประกายอย่างแชมเปญ แต่นุ่มนวลเบาและแห้งสดชื่น ยอดเยี่ยมด้วยตัวมันเองและสมบูรณ์แบบที่จะนำขวดไปงานปาร์ตี้ถัดไปที่คุณชนกัน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 11%  ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับไวน์รุ่นอื่น ๆ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่ควรเสิร์ฟอยู่ที่ประมาณอุณหภูมิประมาณ 7-8 องศาเซลเซียสเท่านั้น

Canti Prosecco DOC

Canti Prosecco DOC

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Durfort-Vivens Margaux

Château Durfort-Vivens Margaux

            Château Durfort-Vivens Margaux เป็นไวน์ที่เกิดจากการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Château Durfort-Vivens ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์รุ่นนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นหลากหลายสายพันธุ์มาใช้ ได้แก่ การผสมผสานของ Cabernet Sauvignon 70%, Merlot 25% และ Franc Cabernet 5%

            ในการผลิตไวน์นั้นได้รับการรับรองด้วยการผสมผสานระหว่างไม้และคอนกรีต, ถังควบคุมอุณหภูมิและโถ การหมักแบบ Malolactic เกิดขึ้นในถัง ไวน์ของ Durfort Vivens มีอายุการผสมผสานระหว่างถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสใหม่และถังดินเหนียวประมาณ 40% เป็นเวลาประมาณ 18 เดือนขึ้นอยู่กับคุณภาพและลักษณะของเหล้าองุ่น Chateau Durfort Vivens ให้บริการที่ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ อุณหภูมิห้องเย็นที่เกือบจะทำให้ไวน์สดชื่นและยกขึ้น

            ไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์ที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีการรับประทานควบคู่กันกับอาหารเนื้อสัตว์คลาสสิก, เนื้อลูกวัว, เนื้อหมู, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, เป็ด, เกม, ไก่ย่าง, ย่าง, ตุ๋นและย่าง นอกจากนี้ยังเป็นไวน์ที่เหมาะกับอาหารเอเชียที่มีส่วนประกอบหรือวัตถุดิบหลักจากปลามากมายหลากหลายชนิด เช่น ปลาทูน่า เห็ด และพาสต้า รวมถึงชีส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่แสดงสีที่ลึกด้วยเขียวชอุ่มพื้นผิวอ่อนนุ่มเนื้อและกลเม็ดเด็ดพรายไวน์ถูกสร้างขึ้นด้วยผลเบอร์รี่หวานขัดเงาพร้อมความสดใหม่ความยาวความซับซ้อนและความลึก นี่คือไวน์ที่ดีที่สุดที่เคยลิ้มลองจาก Durfort Vivens นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12-14%

Château Durfort-Vivens Margaux

Château Durfort-Vivens Margaux

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

            Wolf Blass Platinum Label Shiraz โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นพันธุ์ Shiraz มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแท้ 100% โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตและการคัดเลือกองุ่นมาจากไร่องุ่นบริเวณ Barosssa Valley ซึ่งอยู่ทางบริเวณตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการรวมตัวกันของความเป็นเลิศที่ไม่เหมือนใครและไร่องุ่นยังเสริมด้วยประสบการณ์และทักษะของผู้ผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมระดับโลก ผลไม้ที่เข้มข้นและแสดงออกอย่างหลากหลายได้รับการคัดเลือกจากไร่องุ่น Medlands ใน Barossa Valley เพื่อสร้างไวน์แดงที่ทรงพลังอย่างหรูหราสง่างามความบริสุทธิ์ของผลไม้และการปรากฏตัวที่ไม่ธรรมดา

             ไร่องุ่น Medlands ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษที่ Dorrien บนพื้นเหนือกลางของ Barossa Valley ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในด้านการเติบโตของ Shiraz ค่อย ๆ ลาดลงไปทางแม่น้ำนอร์ ธ พาราเอลประโยชน์จากการทำความเย็นของสายลมที่ไหลลงมาจากเชิงเขาและรับแสงแดดที่เหมาะสมปริมาณน้ำฝนต่ำและความชื้นต่ำ

             ไร่องุ่นประกอบด้วยดินโบราณตั้งแต่ทรายดินร่วนเหนือดินเหนียวอ่อนไปจนถึงดินร่วนปนทรายวางบนดินเหนียวปานกลางวางลงเมื่อ 5 ล้านปีก่อนเมื่อการยกตัวของแนวตะวันออกและการจมของพื้นหุบเขาทำให้หุบเขากลางเต็มไปด้วยตะกอน terroir ที่ไม่ซ้ำกันนี้ส่งผลให้ชีราซของความบริสุทธิ์ความสง่างามโครงสร้างที่แน่นและความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ

             โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นของผลไม้ ไม่ว่จะเป็นกลิ่นผลไม้ อย่างเช่นบลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ บอยเบอร์รี่ และพลัม แสดงให้เห็นถึงไร่องุ่น Medlands Terroir ที่มีกลิ่นหอมของช็อคโกแลต บิตเทอร์เวตต์กาแฟบดสด และเครื่องเทศจำพวกไม้โอ๊ค

             โดยไวน์ชนิดนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการรับประทานควบคู่กันกับเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อเป็ด อาหารปิ้งย่างและพิซซ่า นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% อีกด้วยเช่นกัน

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

Wolf Blass Platinum Label Shiraz

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

            Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นภายใต้แบรนด์ไวน์อย่าง Wolf Blass ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่ตั้งอยู่บริเวณ South Australia ซึ่งอยุ่ในประเทศออสเตรเลีย โดยประเทศนี้ก็ยังนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านการผลิตไวน์ในระดับโลกด้วยเช่นกัน

            โดยไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ทาง Wolf Blass ส่งเสริมขึ้นมาได้อย่างมั่นคง ซึ่งไวน์นี้ไม่ได้เป็นไวน์ที่มีรูปแบบเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์เพียงเท่านั้น แต่ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดและรสชาติยอดเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับไวน์รุ่นอื่นๆของ Wolf Blass

            โดยไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงค้อนไปทางเกือบสีดำ มีกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างเข้มข้นและมีกลิ่นของเหล้าที่หมักมาจากลูกเกดดำ ลูกสน ลูกพลัม ขิง พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆอีกมากมาย  นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของชะเอมเทศและกลิ่นของวานิลลาแทรกตัวมาจางๆอีกด้วยเช่นกัน

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสที่ชวนให้นักดื่มทั้งหลายได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่นุ่มนวลจากผลไม้ และมีรสชาติของเครื่องเทศที่ให้รสชาติที่ค่อนข้างฉุน พร้อมกับรสาติของต้นโอ๊กที่ให้ไวน์นี้มีความขมแทรกเข้ามาจางๆอีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติและกลิ่นที่งดงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15% เพียงเท่านั้น

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

Wolf Blass Black Label Shiraz Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Laphroaig Select

Laphroaig Select

Laphroaig Select เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการกลั่นโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ดังอย่าง Laphroaigรวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประมาณหมู่เกาะ Islay ซึ่งเป็นหมู่เกาะชื่อดังย่านบริเวณประเทศโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงและจุดเด่นในด้านการผลิตเหล้าวิสกี้

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการผสมรวมกันระหว่างผลเชอร์รี่พันธุ์ Oloroso และถังโอ๊กพันธุ์อเมริกัน ซึ่งนักผลิตเหล้าภายนอกส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นว่าโอ๊กที่ใช้นั้นเป็นต้นโอ๊กบริสุทธิ์เท่านั้น นอกจากนี้เหล้าวิสกี้นี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการใช้ถังเหล้าเบอร์บอนด้วยเท่านั้น

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นหวานและมีความสมดุลของกลิ่นเป็นอย่างยิ่ง โดยกลิ่นอายที่แสดงออกมามีความเป็นทะเลและมหาสมุทร รวมทั้งยังมีกลิ่นที่หวานมาจากข้าวบาร์เลย์ ผลไม้แห้งและกลิ่นของแยมผลไม้ โดยเฉพาะกลิ่นของสตรอเบอรืรี่อีกด้วย

เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติค่อนข้างปานกลาง ไม่หวานและไม่ขมจนเกินไป มีลักษณะเด่นที่ความชมและรสชาติที่หนักไปทางรสสัมผัสของผลไม้แห้งและแยมผลไม้ ซึ่งไม่ค่อยแตกต่างมากจากกลิ่นที่ได้รับมา รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่เต็มไปด้วยเชอร์รี่อีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรสสัมผัสที่ติดลิ้นอย่างยาวนาน รสชาติและกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้ การผสานระหว่างความหวานและความขมที่ผสมกันอย่างลงตัวและกลมกลืน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40%

Laphroaig Select

Laphroaig Select

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Laphroaig Triple Wood

Laphroaig Triple Wood

            Laphroaig Triple Wood เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการกลั่นโดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ดังอย่าง Laphroaig รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประมาณหมู่เกาะ Islay ซึ่งเป็นหมู่เกาะชื่อดังย่านบริเวณประเทศโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงและจุดเด่นในด้านการผลิตเหล้าวิสกี้

            ตามชื่อของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีส่วนผสมของข้าวบาร์เลย์แท้ 100% จากโรงกลั่นเหล้าวิสกี้ย่านหมู่เกาะ Islay รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการหมักในถังจำนวนสามถังด้วยกัน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการเริ่มหมักเหล้าที่ถังเหล้าเบอร์บอนเก่า หลังจากนั้นจึงจะเปลี่ยนถ่ายไปใส่ถังที่เล็กกว่าประมาณ 125 ลิตรในระยะเวลาค่อนข้างสั้น หลังจากนั้นจึงนำไปใส่ในถังเชอร์รี่แทน

            โดยกลิ่นของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นในช่วงแรกหรือกลิ่นเปิดที่เป็นกลิ่นของลูกเกดและกลิ่นของถั่ว หลังจากนั้นจึงมีกลิ่นของถ่านหินเลนรมควันจางๆที่ผสมรวมกันกับกลิ่นของแก่นไม้ที่คุณไม่สามารถพบเจอได้ในเหล้ารุ่น Quarter Cask

            หลังจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างแห้งและคล้ายกับรสชาติของยา รวมทั้งยังมีรสชาติของเครื่องเทศจากต่างประเทศมากมาย รวมทั้งตอนแรกรสชาติของเหล้าวิสกี้จะเป็นบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ยังมีรสชาติของเชอร์รี่เป็นส่วนใหญ่ บรรยากาศจะคล้ายคลึงกับช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติและกลิ่นที่เต็มไปด้วยลูกเกดและถั่วในช่วงแรก หลังจากนั้นจึงมีกลิ่นอายและรสสัมผัสของความแห้งและเชอร์รี่ ซึ่งเป็นรสชาติที่น่ายินดียิ่ง โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 48% ซึ่งนับได้ว่าสูงกว่าเหล้าวิสกี้ทั่วไปมาก

Laphroaig Triple Wood

Laphroaig Triple Wood

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Beringer Knights Valley

Beringer Knights Valley

Beringer Knights Valley คือการเลือกบาร์เรลผสมผสานของไร่องุ่นที่ดีที่สุดในเหล้าองุ่นที่กำหนด เพื่อรักษาลักษณะเฉพาะของล็อตที่แตกต่างกันจากพื้นที่ที่แตกต่างกันของไร่องุ่นพวกเขาจะถูกเก็บไว้แยกจากกันโดยการทำลายล้างและการแก่ชราและมีการเลือกเฉพาะสิ่งที่แสดงออกที่สุดสำหรับการบรรจุขวดในเขตสงวนนี้ maceration ที่ขยายสร้างแทนนินที่โดดเด่นมากขึ้นเพิ่มความรู้สึกสดชื่นของการผสมผสานในขณะที่สกัดสีกลิ่นและรสชาติสูงสุด ไวน์มีอายุในถังไม้โอเน่ฝรั่งเศสขนาดเล็ก (ใหม่ 56% เปอร์เซ็นต์) เป็นเวลาสิบเก้าเดือนเพื่อเพิ่มความรู้สึกอิ่มท้องและโครงสร้าง ส่วนเล็ก ๆ ของ Malbec และ Petit Verdot ก็ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มความซับซ้อนให้กับไวน์ที่น่าจดจำนี้

Beringer Vineyards เป็นเจ้าของและทำไร่องุ่นของ Knights Valley ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1960 เมื่อครอบครัว Beringer ยอมรับว่าดินที่มีหินกรวดหินกรวดเป็นสถานที่ที่ดีในการปลูกองุ่นไวน์คุณภาพสูง ชื่ออัศวินแห่งหุบเขาถูกใช้ครั้งแรกบนฉลากเบริงเกอร์ในปี 1974 และแบริงเกอร์เป็นเครื่องมือในการรวบรวมการรับรู้อย่างเป็นทางการสำหรับพื้นที่ในปี 1983 ในฐานะการกำหนดพื้นที่ปลูกองุ่นอเมริกัน (AVA)

Knights Valley ได้รับมาเป็นครั้งแรกโดย Beringer ในปี 1961 และจนถึงวันนี้เป็นสถานที่แห่งความงามแบบชนบทและยังคงความเป็นธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเขตโซโนมาเพียง 17 ไมล์ทางเหนือของโรงกลั่นไวน์เบริเชอร์นาปายังคงให้ความรู้สึกเกี่ยวกับคนบ้านนอก – เนินเขาที่ทอดยาวเป็นไมล์ ๆ ทอดตัวลงสู่พื้นหุบเขาหินที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ทุกอย่างเกี่ยวกับอัศวินแวลลีย์ให้ความรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวรวมถึงไวน์ที่ให้ผลผลิต ภูมิประเทศที่เป็นหินของ Knights Valley การเจริญเติบโตและวิวัฒนาการของไร่องุ่นและบล็อกมากมายภายในพื้นที่ 600 เอเคอร์ที่ Beringer ทำไร่ไถนามานานหลายทศวรรษทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่กำลังเติบโตไม่เหมือนใคร

การเก็บเกี่ยวโซโนมาปี 2559 เร็วกว่าปกติผลผลิตส่วนใหญ่เป็นผลไม้คุณภาพเยี่ยม ฤดูที่ค่อนข้างจะเติบโตขึ้นตามฤดูฝนต้อนรับฤดูหนาวที่ช่วยบรรเทาความแห้งแล้ง อุณหภูมิเย็นลงในช่วงกลางเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงพักต้อนรับที่อนุญาตให้มีการพัฒนารสชาติเพิ่มเติม โดยรวมแล้วผลผลิตลดลงจากค่าเฉลี่ยระยะยาว แต่การลดลงของขนาดถูกชดเชยด้วยคุณภาพที่เป็นแบบอย่าง

Beringer Knights Valley

Beringer Knights Valley

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Trapiche Malbec

Trapiche Malbec

                Trapiche Malbec เป็นไวน์ที่ไม่เหมือนใคร ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งของการปลูกองุ่นในอาร์เจนตินาและมีความเชี่ยวชาญในการได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากทุกเอเคอร์เพื่อสร้างไวน์ที่มีเอกลักษณ์และพรีเมี่ยม ไร่องุ่นครอบคลุมมากกว่า 2,470 เอเคอร์ของ Terroir ในอาร์เจนตินาและได้รับองุ่นจากผู้ผลิตอิสระกว่า 200 รายในพื้นที่ปลูกองุ่นที่ดีที่สุดของอาร์เจนตินา

                Trapiche เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในอาร์เจนตินา มันเป็นเจ้าของไร่องุ่น 1,555 เฮกตาร์ (3100 เอเคอร์) และร่วมมือกับผู้ปลูก 300 รายทั่วเมืองเมนโดซาและมีผลงานไวน์ที่หลากหลาย Trapiche ทำรายได้ปีละ 133 ล้านคดีและกระจายไปทั่วโลก ไลน์อัพครอบคลุมพันธุ์องุ่นสำคัญ ๆ ทั้งหมดที่ปลูกในอาร์เจนตินา การผลิตส่วนใหญ่อุทิศให้กับ Malbec และ Cabernet Sauvignon ทางด้านสีแดงและ Chardonnay, Sauvignon Blanc และTorrontésบนพื้นสีขาว Trapiche มีไวน์ประมาณยี่สิบประเภทที่แตกต่างกันออกไปรวมถึงไร่องุ่นเดี่ยวภายใต้ฉลาก Finca Las Palmas, Gran Medalla และ Terroir Series ช่วง Zaphy ได้รับการรับรองอินทรีย์

                 ประวัติศาสตร์ของ บริษัท เริ่มต้นขึ้นในปี 1883 ในไร่องุ่นเล็ก ๆ ชื่อว่า el Trapiche ใน Godoy Cruz, Mendoza ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Trapiche เป็นผู้บุกเบิกในการนำองุ่นฝรั่งเศสการผลิตไวน์หลากชนิดการนำเข้าถังไม้โอ๊คฝรั่งเศสและการใช้ถังสแตนเลส นอกจากนี้ยังเป็นผู้บุกเบิกตลาดต่างประเทศชนะรางวัลครั้งแรกในกรุงปารีสในปี 1889 ตั้งแต่ปี 1971 Trapiche ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Grupo Peñaflor

Trapiche Malbec

Trapiche Malbec

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!