Benjamin De Beauregard Pomerol

Benjamin De Beauregard Pomerol

            Benjamin De Beauregard Pomerol นับได้ว่าเป็นไวน์ชนิดที่สองที่ได้ถูกผลิตมาจาก Benjamin De Beauregard ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพอย่างยิ่งในช่วงต้นจากการผลิตของ Benjamin De Beauregard ซึ่งได้มีการตั้งถิ่นฐานอยู่ใน Pomerolเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้มีการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างดี ซึ่งทางผู้ผลิตได้เลือกองุ่นทั้งสองพันธุ์มาใช้ในกระบวนการผลิต ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Merlot 75% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Franc 25% โดยการเก็บเกี่ยวองุ่นนั้นจะเก็บในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น หลังจากนั้นทางผู้ผลิตจะนำองุ่นเหล่านั้นมาอบไอน้ำและนำไปหมักในถังไม้ทั้งสามถังสลับกันไปมาเป็นเวลานานกว่า 12  เดือน

            โดยไวน์ที่ได้นั้นมักจะมีลักษณะเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้ม รวมทั้งยังมีกลิ่นและรสชาติซึ่งเต็มไปด้วยผลไม้สีดำเข้มทั้งหลายและชะเอมเทศที่ผสมกลิ่นกับรสชาติรวมกันกับลูกพลัมและช็อกโกแลต ซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่พอดิบพอดี ลงตัวกันอย่างสมบูรณ์แบบ

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่แสดงถึงความนุ่มละมุนและความสดชื่นได้อย่างไม่น่าจะเข้ากันได้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะรสชาติและกลิ่นที่ค่อนข้างหวาน ซึ่งไวน์ชนิดนี้มีระดับปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.8% และควรเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 15.5 องสาเซลเซียส หรือประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์

Benjamin De Beauregard Pomerol

Benjamin De Beauregard Pomerol

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château La Verriere

Château La Verriere

            Château La Verriere เป็นไวน์ที่มีชื่อเดียวกับแบรนด์ผู้ผลิต ซึ่งมีประวัติอันยาวนานมากกว่าร้อยกว่าปี ตั้งแต่ 1900 ที่มีประวัติการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม รวมถึงใช้เวลาในการคิดสูตรไวน์มานานนับ 30 ปีกว่า ซึ่งนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งของ Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการเลือกสรรการผลิตและวัตถุดิบจากผู้ผลิต หรือ Andre Bessette เองโดยตรง โดยตัวเขาได้เลือกวัตถุดิบจากองุ่นทั้งสองพันธุ์ ได้แก่ Merlot 85% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 15% ซึ่งองุ่นทั้งสองพันธุ์ที่เลือกใช้นั้นเป็นองุ่นจากไร่องุ่นนี้โดยตรง หลังจากนั้นทางผู้ผลิตจึงนำองุ่นชนิดนี้ไปหมักลงในถังไม้ขนาดกลางสองใบ ได้แก่ถังจากต้นโอ๊กพันธุ์ฝรั่งเศสหนึ่งใบและถังไม้โอ๊กพันธุ์อเมริกันหนึ่งใบเป็นเวลายาวนานกว่าสามเดือนด้วยกัน

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสที่สวยงาม เริ่มต้นจากสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีม่วงเข้มที่งดงาม รวมทั้งยังมีกลิ่นของไวน์ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นเชอร์รี่อย่างชัดเจนและมีกลิ่นของแบล็กเบอร์รี่รวมกันมาด้วยเช่นกัน ซึ่งนับได้ว่ามีความละมุนและความทรงพลังอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของราสเบอร์รี่และกลิ่นของต้นโอ๊กจางๆด้วยเช่นกัน

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่หอมหวานแทบไม่ต่างจากกลิ่นที่ได้รับมากนัก แต่ว่าในส่วนของรสสัมผัสนั้นจะมีสารแทนนินที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานกับอาหารจำพวกเนื้อแกะ เนื้อกวางและชีส รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14% อีกด้วย

Château La Verriere

Château La Verriere

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

The Macallan Rare Cask

The Macallan Rare Cask

            The Macallan Rare Cask เป็นเหล้าวิสกี้ชั้นเยี่ยมจาก The Macallan ที่เกิดมาโดยการผสานความรู้และทักษะการผลิตสุราทั้ง 16 รูปแบบที่แตกต่างกันมาใช้ในการผลิตเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ให้อยู่ภายในขวดเดียว ซึ่งเหล้าวิสกี้ชั้นเยี่ยมนี้ได้รับการแนะนำครั้งแรกในสหราชอาณาจักรในช่วงกลางปี 2015 หลังจากที่ได้มีการปล่อยหรือจัดจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งหลังของปี 2014

            โดยการเลือกสรรวัตถุดิบและกรรมวิธีการผลิตนั้น ได้ถูกเลือกสรรโดย Bob Dalgarno. นักปรุงสุราและสร้างสรรค์สุราที่มีชื่อเสียงก้องโลกเป็นที่รู้ตักในวงการสุรา โดยกระบวนการที่ใช้นั้นมี การนำถังไม้โอ๊กชั้นเยี่ยมมาใช้ในการหมัก โดยเหล้าวิสกี้นี้มีการใช้วัตถุดิบจากข้าวบาร์เลย์แท้ 100% มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตในครั้งนี้

            นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงมะฮอกานี รวมทั้งยังมีกลิ่นของเหล้าวิสกี้ที่หอมหวานเป็นกลิ่นของวานิลลากับลูกเกดที่ผสมรวมกัน ทั้งสองกลิ่นนี้ช่วยชูโรงกลิ่นหวานของเหล้าวิสกี้นี้ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีกลิ่นที่เหมือนกับแอปเปิ้ล เลม่อนและส้ม รวมทั้งยังมีรสชาติของวานิลลา ช็อกโกแลต และส้มไซตรัสผสมรวมกันอย่างลงตัว

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความอบอุ่น ร้อนแรงแต่ก็เต็มน้ำเต็มเนื้อในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติและกลิ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิด ทั้งผลไม้รสหวานและผลไม้รสเปรี้ยว รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 43% ด้วยเช่นกัน

The Macallan Rare Cask

The Macallan Rare Cask

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

L’Esprit de Chevalier

L’Esprit de Chevalier

            L’Esprit de Chevalier เป็นไวน์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ช่วงปีคริสตศักราชที่ 1600ซึ่ง de Chevalier ได้เข้ามาในตระกูล Bernard จนถึงปี 1983 โดยการให้ความช่วยเหลือในการทำไวน์ โดยการถ่ายทอดสูตรไวน์นี้และคิดค้นสูตรไวน์ใหม่ๆจนกลายเป็นแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Domaine de Chevalier ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ค่อนข้างใช้วัตถุดิบที่หลากหลายอยู่พอสมควร โดยไวน์นี้ได้เลือกสรรใช้องุ่นถึงสามชนิดในกระบวนการผลิตในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ 45% Merlot, 45% Cabernet Sauvignon และ 10% Petit Verdot โดยองุ่นทั้งหลายนี้จะผ่านกระบวนการการหมักที่ค่อนข้างแตกต่างจากไวน์ชนิดอื่นๆ โดยจะนำไปหมักในถังไม้บาร์เรลใบใหม่เพียงแค่40% หลังจากนั้นจะนำไปวางไว้ข้างนอกอาคารเพื่อให้ความร้อนแก่ไวน์ชนิดนี้

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีลักษณะของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงสดค่อนไปทางสีดำเล็กน้อย รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นและเต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะผลไม้ที่ให้สีแดงและดำ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อผสานกับความนุ่มละมุนของเนื้อไวน์อย่างชัดเจน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติของผลไม้สดที่ช่วยให้ไวน์นี้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นประวัติที่มีมาอย่างยาวนานนับร้อยปี รวมทั้งกรรมวิธีที่แตกต่างที่ทำให้รสชาติยอดเยี่ยม กลิ่นหอมโดนใจใครหลายๆคน โดยน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์รมควันทุกชนิด และเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% เพียงเท่านั้น

L'Esprit de Chevalier

L’Esprit de Chevalier

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Casillero del Diablo Shiraz Rose

Casillero del Diablo Shiraz Rose

            Casillero del Diablo Shiraz Rose เป็นไวน์สีชมพูที่ถูกผลิตมาโดย Concha y Toro ซึ่งมี Marcelo Papa นักปรุงไวน์และสร้างสรรค์ไวน์ชื่อดังระดับโลกที่มีประสบการณ์มายาวนานเป็นหัวเรือใหญ่ในการนำการผลิตไวน์ในครั้งนี้ โดยไวน์ชนิดนี้มีแหล่งกำเนิดมาจาก Central Valley ที่อยู่ในประเทศชิลี

            ดังนั้น วัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งได้แก่ องุ่นพันธุ์ Shiraz จึงเป็นองุ่นที่สามารถหาได้จากในประเทศชิลี โดยทางผู้ผลิตได้มีการคัดเลือกพันธุ์องุ่นมาจากแม่น้ำ Riverbench เท่านั้น โดยองุ่นทั้งหลายที่ผ่านการคัดเลือกและเก็บเกี่ยวมาอย่างดีแล้วนั้น จะนำมาผ่านกระบวนการผลิตโดยการหมักและบ่มลงในถังสแตนเลสอย่างดีเท่านั้น

            นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้จะมีลักษณะของสี กลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างจากไวน์ในคอลเล็กชั่นเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้จะมีสีออกไปทางชมพูราวกับสีของดอกกุหลาบในยามแรกเริ่ม หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้จะเริ่มส่งกลิ่นที่หอมหวนหลังจากที่ผู้ดื่มได้เริ่มเปิดขขวดออกมา โดยกลิ่นที่ได้รับนั้นจะมีกลิ่นและรสชาติของแบล็กเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ที่ผสมรวมกันอย่างลงตัว รวมทั้งยังมีรสชาติของเครื่องเทศที่แทรกมาจางๆ ทำให้ไวน์ชนิดนี้ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไปอีกด้วย

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ทั้งความเป็นเบอร์รี่ที่เด่นชัด แต่ก็ไม่ได้หวานเลี่ยนมากจนเกินไปเพราะมีเครื่องเทศช่วยดึงรั้นไว้อยู่ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับอาหารจำพวกสลัดและเนื้อย่างชั้นเยี่ยม รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5% อีกด้วย

Casillero del Diablo Shiraz Rose

Casillero del Diablo Shiraz Rose

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Casillero del Diablo Merlot

Casillero del Diablo Merlot

            Casillero del Diablo Merlot นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตมาจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังในประเทศชิลีอย่าง Vina Concha y Toro SA ที่มี Marcelo Papa เป็นหัวเรือใหญ่นำการผลิตไวน์นี้ทุกขั้นตอน โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีประวัติของไวน์มายาวนานตั้งแต่ 120 ปีก่อน

            โดยไวน์ชนิดนี้มีกระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งการคัดเลือกองุ่นพันธุ์  Merlot จาก Limari Valley ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศชิลีและ Maule Valley ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศชิลี รวมทั้งมีการหมักองุ่นชนิดนี้ลงในถังไม้โอ๊กพันธุ์อเมริกันชั้นเยี่ยมเท่านั้น

            โดยในส่วนของเนื้อสัมผัส สี รสชาติและกลิ่นนั้นก็มีลักษณะที่โดดเด่น ทั้งสีของไวน์ที่ค่อนข้างออกไปทางสีม่วงที่เข้มพอสมควร รวมทั้งกลิ่นของไวน์ที่คล้ายคลึงกับกลิ่นของช็อกโกแลต ผสมกันกับลูกพลัมสีเข้ม ที่แทรกความเป็นเรดเบอร์รี่และเครื่องเทศกันอย่างลงตัว รวมทั้งยังมีกลิ่นของวานิลลารมควันจางๆอีกด้วยเช่นกัน

            ไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นเท่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์ขององุ่นพันธุ์ Merlot รสชาติของไวน์นี้ก็แทบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ทั้งทางด้านเนื้อสัมผัสที่ลงตัว ไม่จ่างหรือเข้มข้นมากจนเกินไป รวมทั้งยังมีความเปรี้ยวเล็กน้อยจากสารแทนนินที่เข้ากันได้ย่างลงตัวกับเนื้อสัมผัสของไวน์ นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับการรับประทานกับอาหารจำพวกรีศอสโต เนื้อผักพริกไทย ชีส หรืออาหารสไตล์อเมริกัน รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.5% เพียงเท่านั้น

Casillero del Diablo Merlot

Casillero del Diablo Merlot

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Casillero del Diablo Cabernet Sauvignon

Casillero del Diablo Cabernet Sauvignon

            Casillero del Diablo Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีต้นกำเนิดมาจากการผลิตโดยแบรนด์ไวน์ดังอย่าง Concha y Toro ซึ่งตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศชิลี ซึ่งไวน์ชนิดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดย Marcelo Papa ซึ่งเป็นนักสร้างสรรค์ไวน์ชื่อดัง

            ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งทางการคัดเลือกพันธุ์องุ่น โดยใช้แค่องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon มาเพียงแค่เท่านั้น นอกจากนี้องุ่นที่ใช้ในการผลิตไวน์นี้ล้วนเป็นองุ่นพันธุ์ชิลีที่มาจาก Limari Valley ที่อยู่ทางตอนแหนือของประเทศชิลีและ Maule Valley ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศชิลี นอกจากนี้ยังเป็นไวน์ที่มีการหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่เท่านั้น

            นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัส รสชาติและกลิ่นที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกัน ทั้งสีของเนื้อสัมผัสของไวน์ที่เป็นสีแดงสด มีความเข้มข้นราวกับเป็นสีของทับทิม นอกจากนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเฉพาะตัวที่มาจาดเหล้าลูกเกดดำแคสซิส รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีกลิ่นของเชอร์รี่จางๆ ราวกับกลิ่นของขนมปังปิ้งกับกาแฟยามเช้า

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ค่อนข้างลึกลับ น่าค้นหา รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ขององุ่นเฉพาะสายพันธุ์ โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.5%. เพียงเท่านั้น

Casillero del Diablo Cabernet Sauvignon

Casillero del Diablo Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Wild Turkey Rare Breed

Wild Turkey Rare Breed

            Wild Turkey Rare Breed นับได้ว่าเป็นเหล้าที่เกิดจากการผลิตโดยแบรนด์เหล้าเบอร์บอนดังอย่าง Wild Turkey ซึ่งตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ทางเมืองเคนตักกี้ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการเผยแพร่และการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2017

            เหล้าเบอร์บอนชนิดนี้เป็นเหล้าเบอร์บอนที่มีการนำวัตถุดิบอย่างข้าวโพดมาใช้อย่างน้อย 75% ข้าวไรย์ 13% และข้าววบาร์เลย์ 12% นอกจากนี้ยังมีการหมักเหล้าเบอร์บอนนี้ในถังหมักจากต้นโอ๊กใบใหม่เป็นเวลายาวนานกว่าจะได้ออกมาเป็นเหล้าชนิดนี้

            โดยรสชาติ สีและกลิ่นของเหล้าเบอร์บอนชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าเบอร์บอนที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีเหลืองทองคล้ายกับสีของอำพันผสมกับสีของทองแดง นอกจากนี้กลิ่นของเหล้าเบอร์บอนชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่เข้มข้นและเผ็ดร้อน เนื่องจากมีส่วนผสมของข้าว ธัญพืชและพริกไทยที่เผาไหมกับเนื้อไม้ นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีส่วนประกอบของข้าวไรย์ที่คอยเพิ่มกลิ่นที่ร้อนแรงให้กับเหล้าเบอร์บอนนี้อีกด้วย

            นอกจากนี้เหล้าเบอร์บอนนี้ยังมีรสชาติที่ค่อนข้างมาก คำว่ามากนี้มีความหมายในทางแผ่กว่างทั่วไปทั้งปาก ไม่ว่าจะเป็นความเผ็ดที่นำมารสสัมผัสแรก ตามมาด้วยความเข้มข้นของต้นข้าวไรย์ พริกไทยและความเผ็ดจางๆจากต้นโอ๊กตามฤดูกาลที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้เหล้าเบอร์บอนชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่  56.4% ซึ่งนับว่าค่อนข้างแรงมากในวงเหล้าอีกด้วย

Wild Turkey Rare Breed

Wild Turkey Rare Breed

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

The Singleton 18 Year Old

The Singleton 18 Year Old

            The Singleton 18 Year Old เป็นเหล้าวิสกี้ภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ดังอย่าง The Singletonซึ่งเป็นเครือข่ายโรงกลั่นเหล้าวิสกี้หนึ่งในสามแห่งที่มีชื่อเสียงของประเทศสก็อตแลนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง รวมทั้งยังเป็นแหล่งผลิตเหล้าวิสกี้ที่ตั้งอยู่บริเวณ Dufftown อีกด้วย

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงในเรื่องกระบวนการผลิตที่มีการพัฒนามาจากบริเวณย่าน Speyside ของประเทศสก็อตแลนด์ที่มีเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในการผลิตเหล้าวิสกี้ชื่อก้องโลก ด้วยวิธีการหมักในถังเหล้าจากต้นโอ๊กพันธุ์อเมริกาและถังโอ๊กเก่าที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนอีกด้วย

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติ เนื้อสัมผัสและกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความเป็นกลิ่นที่เต็มไปด้วยลูกแพร ผลกล้วย และน้ำเชื่อมเมเปิ้ลที่ให้ความหวานกับเหล้าวิสกี้ แต่ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังได้ความเผ็ดฉุนมาจากใบยาสูบและเครื่องเทศนานาชนิดด้วยเช่นกัน

            ทั้งนี้ เหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติและกลิ่นที่แสดงออกถึงความซับซ้อนและความเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการวิธีการผลิต หรือลักษณะของเหล้าวิสกี้ที่โดดเด่นนี้ นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40%

The Singleton 18 Year Old

The Singleton 18 Year Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

The Singleton of Glendullan Classic

The Singleton of Glendullan Classic

            The Singleton of Glendullan Classic เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการออกแบบรูปทรงและขวดภาชนะจากแรงบันดาลใจจากตลากนักท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ที่ความคลาสสิกและความเก๋าในกระบวนการคัดสรรและการผลิตเหล้าวิสกี้ชนิดนี้

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% มาใช้ในการผลิต รวมทั้งยังมีการนำข้าวบาร์เลย์เหล่านี้มาหมักลงในถังไม้โอ๊กอย่างดี โดยถังที่ใช้ในการหมักเหล้าวิสกี้นี้จะแบ่งออกเป็นสองชนิด ได้แก่ ถังเหล้าไม้โอ๊กสไตล์ยุโรปที่มีไม้เชอร์รี่เป็นส่วนประกอบกับถังหมักเหล้าเบอร์บอน รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับเหล่าวิสกี้ชนิดอื่นๆ

            นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่น เนื้อสัมผัสและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเนื้อสัมผัสของเหล้าวิสกี้เป็นเนื้อสัมผัสที่งดงามเป็นสีเหลืองทองอำพัน สีค่อนข้างสว่างสดใสงดงามอย่างยิ่ง นอกจากนั้นกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้จะมีความเผ็ดฉุนในช่วงแรก หลังจากนั้นก็จะมีความหวานจากผลไม้มาในช่วงหลัง รวมทั้งยังมีครีมที่ช่วยให้เหล้าวิสกี้มีความละมุนเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีเอกลักษณ์อย่างยิ่ง เป็นเหล้าวิสกี้ที่เป็นตัวแทนของความอบอุ่น ความทรงพลัง ความแห้งและความชัดเจน เป็นกลิ่นและรสชาติที่คล้ายขนมทาร์ต รวมทั้งยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ด้วยเช่นกัน

The Singleton of Glendullan Classic

The Singleton of Glendullan Classic

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!