Benrinnes 121Year Old
วิสกี้รุ่นอายุ 21 ปีจากโรงกลั่นที่ได้ใช้ระบบ “การกลั่นแบบสามส่วน” โดยเป็นการกลั่นไวน์ต่ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตในการกลั่นครั้งที่สองและจะถูกกลั่นอีกครั้งในครั้งที่สามซึ่งในกระบวนการนี้นั้นเป็นการกลั่นแบบใหม่ที่เรียกได้ว่าโรงกลั่น Benrinnes นั้นเป็นหนึ่งในโรงกลั่นไม่กี่แห่งในสกอตแลนด์ที่ยังคงใช้อ่างหนอนเพื่อทำให้วิสกี้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แบบสุดๆนั่นเอง
จุดเด่นอยู่ที่วิสกี้สีคอปเปอร์ที่มีกลิ่นหอมจากสตรอเบอร์รี่, คาราเมลปิ้ง, มัสค์แตงเล็กน้อย ให้รสชาติจากแคนตาลูป แตงกับลูกเกดและกากน้ำตาล ด้วยการเปิดรสชาติถูกนำด้วยรสของผลไม้ขนาดใหญ่พร้อมกับกลิ่นฉุนเล็กน้อยที่ผสมผสานกับมอลต์ได้ดี
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่ให้ความรู้สึกถึงรสชาติที่หลุดออกมา มีความเป็นน้ำเล็กน้อย จากนั้นมีส่วนของรสฝาดเข้ามาแทรกอย่างเร่งรีบ เป็นรสชาติซับซ้อนที่น่าอัศจรรย์ เหมาะสำหรับดื่มในวันสบายๆแบบสุดๆ
Penderyn Distillery Madeira Finish
สุดยอด ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองจากโรงกลั่นแห่งเวลส์ ซึ่งเป็นซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่มีการกลั่นอันเป็นเอกลักษณ์โดยถูกบ่มในถังเบอร์เบินและปรุงในถังมาเดราเพื่อมอบรสชาติที่กว้างขวางของความซับซ้อนที่ละเอียดอ่อน ซิงเกิลมอลต์เวลส์วิสกี้ที่ได้ถูกกลั่นในหม้อทองแดงและยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยการบ่มในถังเบอร์เบิน และเสร็จสิ้นในถังไวน์ Madeira ที่มีความเข้มข้น มีการบรรจุขวดในระดับพรีเมียม ซึ่งซิงเกิลมอลต์วิสกี้นี้มีความนุ่มนวล บางเบา และมีสีทองอ่อนๆ
จุดเด่นอยู่ที่วิสกี้สีทองอ่อนที่มีความสดแบบคลาสสิกพร้อมกลิ่นหอมของครีมทอฟฟี่ ผลไม้เข้มข้น และลูกเกด รสชาติบนเพดานปากที่มีความกรอบและกลมกล่อมอย่างประณีต พร้อมด้วยความหวานที่ช่วยปรับสมดุลความแห้งที่น่ารับประทาน กลิ่จากผลไม้เมืองร้อน ลูกเกด และวานิลลายังคงอยู่ในท้ายที่สุด
โดยรวมเรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพสดใส ร่าเริง สดชื่อและกะปรี้กะเปร่า เป็นรสชาติกลางๆที่เหมาะสำหรับนักดื่มวิสกี้ตัวยงแบบสุดๆ
Bowmore 31 Year Old Hart Brothers Dynasty Decanter
สำหรับรุ่นนี้คือวิสกี้ Bowmore บรรจุขวดที่หายากและน่าประทับใจมาก โดยเป็นขวดเหล้าหนึ่งใน 850 ขวดที่ผลิตโดย Atlantis ซึ่งเป็นผู้ผลิตแก้วคริสตัลชั้นนำของโลก ลักษณะของขวดวิสกี้ชั้นดีและเป็นเอกลักษณ์นี้อยู่ที่ทั้งหกด้านของขวดเหล้ามีลักษณะเป็นเหรียญเงินของสมาชิกแห่งราชวงศ์สจ๊วตนั่นเอง โดยอีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Bowmore นั้นเป็นหนึ่งในโรงกลั่นสก็อตที่เหลือไม่กี่แห่งที่ใช้มอลพื้นเมืองของตัวเองมาใช้ในกระบวนการผลิตทั้งหมด
จุดเด่นของวิสกี้ตัวนี้เรียกได้ว่านอกจากรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อมและหายากแล้วนั้นยังอยู่ที่ขวดเหล้าคริสตัลจาก Bowmore ซึ่งได้ออกแบบและผลิตโดย Atlantis หนึ่งในผู้ผลิตแก้วคริสตัลชั้นนำของโลก ขวดเหล้าตั้งอยู่ภายในตะกร้าเงินสเตอร์ลิงแข็งหกด้าน โดยมีน้ำหนักรวม 14.5 ทรอยออนซ์ แต่ละด้านมีเหรียญกษาปณ์เงินซึ่งแสดงถึงสมาชิกผู้มีชื่อเสียงของราชวงศ์สจ๊วต
โดยรวมแล้วเป็นอีกหนึ่งของหายากราคาแพงที่น่าสะสมสำหรับนักดื่มวิสกี้แบบสุดๆ โดยทั้งขวดและดีไซน์ที่หาไม่ได้ในโลกนี้แล้ว ยังมีรสชาติที่มีความดิบ ความกลมกล่อม และเข้มข้น แบบสุดๆอีกด้วย
Ledaig 10 Year Old
วิสกี้จากโรงกลั่น Tobermory แห่ง Isle of Mull อันงดงาม โดยมีการผลิตจากซิงเกิลมอลต์ชนิดมีควันอย่างยอดเยี่ยมภายใต้ชื่อ Ledaig ซึ่งผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบคลาสสิกและมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก โดยเพียงแค่ใช้ข้าวบาร์เลย์พีทก็ทำให้วิสกี้มีความพวยพุ่งของควันที่เข้มข้นพร้อมด้วยกลิ่นหอมจากผลไม้สดและกลิ่นเครื่องเทศที่บดแล้ว ซึ่งวิสกี้ตัวนี้เป็นรุ่นอายุ 10 ปีก่อนบรรจุขวดที่ระดับความเข้มข้นเฉพาะที่ 46.3% นั่นเอง
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมที่ค่อนข้างเบาและมีความสมดุล มีพีทที่นุ่มมากพร้อมกับควันที่อ่อนโยน กลิ่นของสารสกัดจากข้าวบาร์เลย์และมอลต์ พร้อมด้วยวอลนัท น้ำมันสนและไอโอดีน ผลไม้แห้งและถั่ว เนื้อสัมผัสปานกลางและค่อนข้างสมบูรณ์แบบ มีกลิ่นของเครื่องเทศและควันที่รวมตัวกันอยู่ผสานกับกลิ่นหอมของต้นโอ๊กที่ไหม้เกรียม มีความเป็นเอกลักษณ์แบบสุดๆ
โดยรวมเป็นวิสกี้อายุน้อยรสชาติดีมีความเป็นเอกลักษณ์ มีเนื้อสัมผัสที่ปานกลางและให้กลิ่นพร้อมรสชาติที่มีความสมดุล เป็นวิสกี้ที่เหมาะสำหรับนักดื่มที่หลงใหลในรสชาติของวิสกี้ชั้นดีอย่างแท้จริง
Brora 1978 – 40 Year Old – 200th Anniversary
Broraนั้น เป็นวิสกี้รุ่นอายุ 40 ปีซึ่งเป็นวิสกี้ซิงเกิลมอลต์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีการบรรจุขวดเพื่อรำลึกถึงสองศตวรรษในช่วงอายุของโรงกลั่นนั่นเอง โดยรุ่นนี้ได้มีการกลั่นจากสต็อกเหล้าองุ่นจำนวนหนึ่งโหลจากปี 1978 โดยได้ผลิตมาเพียงแค่ 1,819 ขวดเท่านั้น
จุดเด่นของวิสกี้สีทองเข้มรุ่นนี้นั้นอยู่ที่กลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้หวาน ผลมะเดื่อสุก กลิ่นควันไฟและกลิ่นกำมะถันอ่อนๆอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมรสสัมผัสี่มีความเรียบเนียนนุ่มคล้ายขี้ผึ้ง รสชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์จากผลไม้สีเข้ม มีรสหวานจาก อินทผลัมและมะเดื่อแห้ง รวมถึงความเผ็ดร้อนที่แทรกมาจากพริกไทยขาวเล็กน้อย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่ได้กลิ่นแห้งของควัน Peat และความเป็นเอกลักษณ์ซับซ้อนจากรุ่น Limited Edition ของวิสกี้รุ่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นของขวัญอันแสนพิเศษสำหรับนักดื่มวิสกี้ที่หลงใหลในรสชาติอันแสนเนียนนุ่มและเข้มข้นของวิสกี้หายากรุ่นนี้แบบสุดๆ
Caol Ila 13 Year Old
วิสกี้ที่มีการบรรจุขวดจาก Caol Ila รุ่น 13 ปี ด้วยจิตวิญญาณของซิงเกิลมอลต์สก็อตวิสกี้นี้จากโรงกลั่น Caol Ila ซึ่งผลิตโดยกรรมาวิธีการบ่มในถังสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Discovery ซึ่งกลั่นโดยใช้เวลาทั้งหมด 13 ปีก่อนจะถูกบรรจุขวดที่ 43% แอลกอฮอล์
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นของวนิลาหวาน แอปเปิ้ลเนื้อ และแอปริคอทตะกั่วท่ามกลางเนื้อหมักแห้งและควันพรุ มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จาก ผลไม้สีขาว เค้กสปันจ์ มะนาว ข้าวโอ๊ต และชีสรมควัน เสร็จสิ้นได้รสสัมผัสที่ยาวนานและมีความแห้งจากควันอย่างเป็นเอกลักษณ์
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้ที่มีเสน่ห์ ออกแห้ง มีกลิ่นและรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติที่น่าสนใจเหมาะสำหรับนักดื่มวิสกี้ที่หลงใหลในรสชาติของวิสกี้ที่น่าสนใจอย่างแท้จริง
Caol Ila Aged 30 Years
สำหรับวิสกี้อย่าง Caol Ila นั้น เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้สไตล์วินเทจอันน่าทึ่งแห่งปี 1983 โดยออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 30 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัววิสกี้รุ่นพิเศษปี 2014 ของ Diageo โดยกระบวนการผลิตมาจากการบ่มโดยการผสมผสานกันระหว่างไม้โอ๊คอเมริกันแบบเติมของอเมริกาและแบบเติมของยุโรป ทำให้ชวนให้นึกถึงการผสมผสานระหว่าง Brora และ Port Ellen ซึ่งมีการผสมผสานความแว็กซ์ของรุ่นก่อนเข้ากับกลิ่นของหนังชามัวร์ของรุ่นหลังนั่นเอง
จุดเด่นอยู่ที่ วิสกี้สีทองเข้มที่มีกลิ่นจากควันไอโอดีนและหญ้า ได้รสชาติกลมกล่อมของพีทที่อุดมสมบูรณ์และเป็นข้าวเหนียวซึ่งได้หายไปในตอนแรกจากนั้นจึงค่อย ๆ สร้างกลิ่นของบุหรี่เมนทอลและหนังชามัวร์ขึ้นในตอนท้าย ทำให้เมื่อเสร็จสิ้นได้รสสัมผัสและกลิ่นยาวๆด้วยเมนทอลและพีท นั่นเอง
โดยรวมเป็นวิสกี้รสชาติดี มีความนุ่มนวล ดุดัน แข็งแกร่ง คุ้มค่า เหมาะสำหรับนักดื่มวิสกี้และพร้อมสร้างบรรยากาศท่ามกลางคืนวันอันแสนพิเศษให้คุณได้แล้ววันนี้
Tomatin Cu Bocan
เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ที่มี Concept ที่น่าสนใจจากการตั้งชื่ออย่าง Cu Bocan ซึ่งชื่อนี้มีความหมายว่า “สุนัขผี” โดยผู้ผลิตอ้างถึงสุนัขที่หลอกหลอนผู้คนในหมู่บ้านใกล้เคียงในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานั่นเอง วิธีการผลิตคือเป็นวิสกี้แบบไม่ผสมพรุตลอดทั้งปี จากนั้นจะมีการปรุงรสด้วยมอลต์พีทสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง มีการบ่มด้วยส่วนผสมของถังไม้โอ๊คดิบ บูร์บอง และเชอร์รี่ ฟีนอลรวมกัน
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นที่มีความบอบบางและบางเบา มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดใจ เป็นเพียงควันบางๆ ที่มีกลิ่นของตังเมและกลิ่นของเชอร์รี่ที่ชัดเจน รสชาติเข้มข้นขึ้นด้วยเครื่องหอมและเครื่องเทศอบ เมล็ดพืชที่คั่วอย่างนุ่มนวล และกลิ่นผลไม้ที่มีลูกพีชและแอปริคอต
โดยรวมเรียกได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นวิสกี้ตัวแทนของสไตล์ไฮแลนด์ที่มีควันจางๆ และจิตวิญญาณที่กลมกล่อมและสมดุลในทุกด้าน เหมาะสำหรับการดื่มเพื่อละเลียดรสชาติสำหรับนักดื่มวิสกี้ที่รักในรสชาติอันน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง
สำหรับวิสกี้รุ่นนี้นั้น คือ ซิงเกิลมอลต์สก๊อตวิสกี้ที่กลั่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยถูกกลั่นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2511 และเติมลงในถังไม้โอ๊คหมายเลข 2525-2527 เพื่อให้สุกในถัง โดยถังเหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่โกดังจากโรงกลั่นจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2528 และได้รับเลือกให้บรรจุขวดแบบพิเศษแบบ The Stillman’s Dram ซึ่งมีการจัดทำขึ้นเพียง 996 ขวด เท่านั้น
จุดเด่นอยู่ที่เป็นซิงเกิลมอลต์ Speyside อายุ 17 ปีที่หายากมาก เพราะในปัจจุบันนี้เป็นวิสกี้ที่ถูกรังสรรค์มาในถังไม้โอ๊คแท้ที่ได้เลิกผลิตไปแล้ว จากกระบวนการผลิตที่มีความปราณีตพิถีพิถันมากจึงได้เป็นรสชาติที่มีความซับซ้อน เข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ เป็นสีทองเข้มที่สวยสดงดงามมาก
โดยรวมวิสกี้หายากรุ่นนี้เหมาะแก่นักสะสมที่ชอบเสาะแสวงหาวิสกี้หายากในราคาที่จับต้องได้ มีความเป็นเอกลักษณ์ ลิ้มละเลียดรสชาติในวันพิเศษและโอกาสพิเศษเพียงไม่กี่ครั้ง เหมาะสำหรับเป็นของขวัญแสนวิเศษให้แก่คนพิเศษของคุณแบบสุดๆ
วิสกี้ตัวดังจากBladnoch ผู้ซึ่งกลั่น Lowland Single Malt Scotch Whisky มาเป็นเวลาถึง 200 ปี โดยรุ่น Talia นั้นมีอายุถึง 26 ปี ซึ่งมีความโดดเด่น ได้มีการเปิดตัวในปี 2020 ถูกบ่มในถังไวน์แดงโอ๊คอเมริกันตลอดอายุ 26 ปี ให้รสชาติที่เข้มข้นและทรงพลัง ด้วยผลเบอร์รี่และดอกไม้แสนหวาน การยกย่องซิงเกิลมอลต์ที่หายากนี้เป็นการเปิดตัวครั้งแรกจาก Dr Nick Savage ซึ่งเป็นผู้กลั่นระดับมาสเตอร์ของ Bladnoch เลยทีเดียว
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นของ ต้นโอ๊คแก่ เบอร์รี่เข้มข้น แต่งแต้มด้วยดอกไม้สีครีมเล็กน้อย มีรสชาติของไม้โอ๊คขัดเงาพร้อมผลเบอร์รี่สีแดงเข้ม ชะเอมเทศ และกลิ่นลูกจันทน์เทศ รสสัมผัสที่เสร็จสิ้นประกอบด้วยรสชาติที่คงค้างยาวนาน มีความแห้งเล็กน้อยจากไม้โอ๊คและหนังที่มีอายุมาก มีความซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์ในรสชาติ
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพทรงพลัง โดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ ซับซ้อน เหมาะสำหัรบนักดื่มที่หลงใหลในรสชาติอันซับซ้อนของวิสกี้ ซึ่งเรียกได้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน