Baileys Chocolate Luxe

Baileys Chocolate Luxe

            Baileys Chocolate Luxe นับได้ว่าเป็นเหล้าสำหรับของคนที่รักช็อกโกแลตเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีกลิ่นอายของความเป็นไอริชอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีการทำขึ้นมา โดยการใช้วัตถุดิบจำเพาะอย่างข้าวบาร์เลย์พันธุ์ดีจากแถบไอริชอีกด้วยเช่นกัน

            โดยเหล้าชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีการผสมกันระหว่าตัวเนื้อเหล้า นมบางๆและช็อกโกแลตอย่างลงตัว ซึ่งหาได้ยากยิ่งมากสำหรับเหล้าที่มีรสชาติและกลิ่นที่หลากหลายอย่างยิ่ง โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการท่องเที่ยวข้ามทวีปมามากมาย จนทำให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของช็อกโกแลตมากกว่า 200 ทั่วโลก รวมทั้งยังมีสูตรที่แตกต่างกันมากกว่า 800 สูตรด้วยกัน

            เหล้าชนิดนี้มีรสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น และจดจำได้ง่ายดังกับชื่อที่มีการตั้งขึ้นมา โดยรสชาติและกลิ่นของเหล้าชนิดนี้เป็นกลิ่นและรสสัมผัสที่มีการปรุงแต่งขึ้นมา เพื่อเอาใจสายช็อกโกแลตอย่างแท้จริง รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่นับได้ว่าเป็นเหล้าชนิดแรกที่มีการนำช็อกโกแลตของบัลแกเรียมาใช้ ซึ่งจะทำให้การสัมผัสอาจจะมีความแตกต่างหลากหลาย นอกเหนือจากช็อกโกแลตของชาวบัลแกเรียแล้ว ข้าวบาร์เลย์ก็นับว่าจะต้องถูกคัดเลือกพันธุ์ดีมาเท่านั้น ไม่งั้นรสชาติอาจจะเสียได้

            ในภาพรวมแล้วนับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตและข้าวบาร์เลย์ที่คัดเลือกมาจากประเทศบัลแกเรียเท่านั้น ได้ส่งกลิ่นอายและรสชาติแห่งความหรูหรา ดูแพงอย่างยิ่ง รวมทั้งยังมีครีมจากไอริซมาช่วยเสริมความดูดีของเหล้านี้ให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15.7%

Baileys Chocolate Luxe

Baileys Chocolate Luxe

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Auchentoshan American Oak

Auchentoshan American Oak

            Auchentoshan American Oak เป็นเหล้าวิสกี้ที่เกิดจากการผลิตขึ้นมาโดย Auchentoshan ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเหล้าบริเวณทางตอนเหนือของ Glasgow ใกล้กับลุ่มแม่น้ำ Clyde ในประเทศสกอตแลนด์ เป็นโรงกลั่นเหล้าที่ผลิตขึ้นมาในปี ค.ศ.1817 ภายใต้ชื่อบริษัทอย่างโรงกลั่นเหล้าอย่าง Morrison Bowmore

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นอายของความคลาสสิก รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกรรมวิธีการผลิตเช่นเดียวกับเหล้าเบอร์บอน โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการหมักลงในถังเหล้าเบอร์บอนแรกเริ่ม โดยถังที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนนั้นจะต้องเป็นถังที่ทำจากไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากอเมริกันเท่านั้น

            ในส่วนของรสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่นของเหล้าชนิดนี้นับได้ว่ายอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน โดยเมื่อเริ่มดมกลิ่นของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็จะพบว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีกลิ่นที่คล้ายกับกลิ่นลูกกวาดหรือกลิ่นของครีมบางละมุน ที่ผสานกันกับกลิ่นของเลม่อนอย่างเข้ากันอย่างลงตัว รวมทั้งยังมีกลิ่นของสมุนไพรหวาน ในอีกด้านนั้น เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติที่มีกลิ่นของครีมบางโดดออกมาอย่างโดดเด่น แล้วจึงตามมาด้วยรสชาติของผลไม้และพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเปลือกองุ่น วานิลลา ข้าวธัญพืช มะพร้าว อบเชย แอปเปิ้ลเขียว ต้นโอ๊กและเครื่องเทศอีกด้วย

            ในภาพรวมแล้วนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติและกลิ่นที่น่าดึงดูด มีทั้งความยอดเยี่ยมที่น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่น่าจับตาอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% ซึ่งนับได้ว่าไม่เยอะมากสำหรับเหล้าวิสกี้ทั่วไป

Auchentoshan American Oak

Auchentoshan American Oak

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Armand de Brignac Gold

Armand de Brignac Gold

            Armand de Brignac Gold เป็นหนึ่งในเหล้าแชมเปญที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัว รวมทั้งยังเป็นเหล้าแชมเปญที่มีการผลิตขึ้นมาโดย Armand de Brignac  ซึ่งนับได้ว่าเป็นชื่อเดียวกันกับเหล้าแชมเปญชนิดนี้ ซึ่งผู้ผลิตเหล้าแชมเปญนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตและจำหน่ายอย่างแพร่หลายในเมือง Reims ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมา โดยใช้องุ่นเป็นวัตถุดิบหลักเช่นเดียวกับไวน์หลากหลายชนิด โดยสายพันธุ์องุ่นที่นำมาใช้ในการผลิตครั้งนี้มีทั้งหมดสามสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Pinot Noir 40%, Chardonnay 40% และองุ่นสายพันธุ์ Pinot Meunier 20% ซึ่งองุ่นที่ถูกคัดเลือกมาทั้งหมดล้วนเป็นองุ่นสายพันธุ์เยี่ยมแทบทั้งสิ้น

            โดยเหล้าแชมเปญนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติ กลิ่นและเนื้อสัมผัสที่งดงามอย่างยิ่ง เริ่มแรกนั้นเหล้าแชมเปญชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีทองสว่าง แต่ก็มีความเข้มเล็กน้อยที่เหมือนหยดน้ำรอบๆอีกด้วย นอกเหนือจากนี้เหล้าแชมเปญชนิดนี้ก็ยังมีรสชาติและกลิ่นที่หอมหวาน เต็มเปี่ยมไปด้วยลูกพีช ผลแอพริคอท เบอร์รี่สีแดง โดยจะแสดงออกในรูปแบบของกลิ่นเป็นหลัก ในส่วนของรสชาตินั้นจะมีรสชาติที่โดดเด่นของส้มเป็นหลัก ทั้งผลส้มไซตรัสและดอกส้ม รวมทั้งยังมีรสชาติของผลเชอร์รี่ วานิลลา เลม่อนและน้ำผึ้ง

            ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งยังมีรสสัมผัสที่ติดลิ้นอย่างยาวนานอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับอาหารจำพวกอาหารย่างรมควันต่างๆ หรืออาหารที่ส่วนผสมของปลาสดทุกชนิด และยังเป็นเหล้าแชมเปญที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5% เพียงเท่านั้น

Armand de Brignac Gold

Armand de Brignac Gold

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

 

Aperol

Aperol

            Aperol นับได้ว่าเป็นเหล้าอีกชนิดหนึ่ง ที่ช่วยเสริมสีสันของความเป็นฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี บวกกับความนิยมของเหล้านี้ที่มีมากขึ้นในทุกวัน อันเนื่องมาจากการที่เหล้าชนิดนี้ถูกนำไปรังสรรค์ให้เกิดค็อกเทลสูตรต่างๆมากมายและกระจัดกระจายไปทั่วทุกแห่งของโลก

            โดยเหล้าชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่ถูกให้กำเนิดขึ้นมาในปี 1919 บริเวณแถบเมืองพาโดว่า ในประเทศอิตาลี ซึ่งเหล้าชนิดนี้ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากสูตรเคล็ดลับที่แทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก รวมถึงเป็นเหล้าที่มีความขมอมหวานอย่างแท้จริง

            เหล้าชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีส่วนผสมที่ลงตัว มีเอกลักษณ์อยู่สองประการ อย่างแรกคือเป็นเหล้าที่มีกลิ่นอายและรสชาติที่ออกขมปนหวานอย่างละมุน และอย่างที่สองคือเป็นเหล้าที่มักจะมีรสชาติและกลิ่นของผลส้ม รากไม้และสมุนไพร โดยเนื้อสัมผัสยังเป็นเหล้าที่มีเนื้อสัมผัสเป็นสีส้มสวยงาม รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีความสว่างสดใสเป็นสีส้มแดงจางๆด้วยเช่นกัน

            ในภาพรวมนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีลักษณะที่สวยงาม มีความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสเพียงเล็กน้อย รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีสมบัติเป็นกรดที่ค่อนข้างสูงด้วย นอกเหนือจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับของแอลกอฮอล์อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 11% เพียงเท่านั้น

Aperol

Aperol

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Pimm’s Number 1 Cup

Pimm’s Number 1 Cup

            Pimm’s Number 1 Cup นับได้ว่าเป็นเหล้ายอดนิยมของโลกที่มีการนำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มหลากหลายชนิด โดยเฉพาะค็อกเทลชนิดต่างๆที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยการใช้เหล้าจินมาเป็นพื้นฐานของการผลิตเหล้าชนิดนี้ โดยเหล้าชนิดนี้ยังไม่ได้มีดีแค่ความยอดนิยม แต่รสชาติ กลิ่นและเนื้อสัมผัสก็มีความน่าพิศวงเช่นเดียวกัน

            โดยเหล้าชนิดนี้นับได้ว่ามีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อเหล้าที่เป็นสีเหลืองอำพัน หรือสำหรับบางคนอาจจะมองเห็นเป็นสีเหลืองปนน้ำตาลเข้ม รวมทั้งยังมีกลิ่นที่หอมหวาน แต่ก็มีความซับซ้อนพอสมควร สมกับคำเล่าลือและมีกลิ่นอายหรือสไตล์แบบผู้ดีอังกฤษ รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่เคยมีความนิยมสำหรับผู้ดีหรือเหล่าคนในราชวงศ์มาก่อน

            นอกเหนือจากนี้ รสชาติของเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีความซับซ้อนไม่แตกต่างจากกลิ่นเท่าไหร่นัก โดยรสชาติที่ยอดเยี่ยมนั้นมีความโดดเด่นมาจากเหล้าจินเป็นหลัก รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีรสชาติของคาราเมล ผลส้มและรสชาติของเครื่องเทศเป็นหลัก โดยเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีรสชาติที่ค่อนข้างเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเหล้าใส่ในน้ำแข็ง รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีรสชาติของผลสตรอเบอร์รี่และกลิ่นส้มที่โดดเด่นมากขึ้นอีกด้วย

            ในภาพรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีมนต์ขลังและเสน่ห์อย่างล้นเหลือ และนับได้ว่ายังความนิยมในระดับโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่มีความนิยมมากเป็นพิเศษ รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 25%

Pimm’s Number 1 Cup

Pimm’s Number 1 Cup

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM

CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM

            CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการสร้างขึ้นมา โดยเจ้าของผืนแผ่นดินบริเวณคฤหาสน์ CHATEAU DE BEAUCASTEL ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการปรับปรุงมาเป็นแห่งเพาะปลูกองุ่นและโรงกลั่นไวน์เช่นเดียวกันกับในปัจจุบัน

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมา โดยการใช้องุ่นทั้งสามสายพันธุ์ด้วยกันมาเป็นวัตถุดิบหลัก ได้แก่องุ่นสายพันธุ์ Grenache, Shiraz และองุ่นพันธุ์ Mourvèdre ซึ่งองุ่นทั้งสามสายพันธุ์นั้นจะมีการใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันตามรุ่นและปีที่ผลิต

            ไวน์ชนิดนี้นอกเหนือจะมีวิธีกรรมการผลิตที่น่าสนใจแล้ว รสชาติและกลิ่นที่ยอดเยี่ยมก็นับได้ว่าเป็นความประทับใจด้วยเช่นเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีที่ค่อนข้างเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งมีความเข้มมาจากเนื้อผลไม้ที่ใช้นั่นเอง บวกกับรสชาติที่ค่อนข้างดีและไม่มีความเข้มข้นที่ทรงพลังอย่างที่คาดคิดไว้ จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างร่วมสมัย หอมหวานแลนและเอร็ดอร่อย โดยกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นนั่น ได้แก่ ผลไม้สีแดง ผลมะกอก เครื่องเทศและกลิ่นข้าวจางๆ

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสัมผัสที่ติดลิ้นที่ค่อนข้างยาวนาน โดยเฉพาะยาวนานกว่าไวน์หลากหลายชนิด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่จะมีรสชาติที่เหมาะสมเมื่อมีอายุยาวนานประมาณ 15 ปีและควรคู่กับการรับประทาน กับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเนื้อแกะ ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14-15%

CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM

CHATEAU DE BEAUCASTEL HOMMAGE À JACQUES PERRIN MAGNUM

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau La Dominique

Chateau La Dominique

            Chateau La Dominique เป็นไวน์ที่มีแหล่งการผลิตอยู่บริเวณ Chateau La Dominique ใน Saint-Emilion Grand Cru ของ Saint-Emilion เมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส โดยชื่อไวน์ที่ใช้ในการผลิตนั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อโรงกลั่นไวน์ที่ใช้ในการผลิตไวน์นี้และยังเป็นแหล่งเดียวกันกับสวนที่ใช้ในการเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตอีกด้วย

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการใช้ส่วนผสมขององุ่นทั้งสามสายพันธุ์เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไวน์ชนิดนี้ ได้แก่องุ่นพันธุ์ Merlot 85%, Cabernet Franc 13% และองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon อีก 2% (โดยอัตราส่วนนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการปรับปรุงไวน์ในแต่ละรุ่น) โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่การหมักเป็นจำนวนสองครั้งด้วยกัน โดยการหมักครั้งแรกจะเกิดขึ้นในถังหมักสแตนเลสเป็นเวลาประมาณ 25-37 วัน หลังจากนั้นจะนำไปหมักในถังโอ๊กใบใหม่ต่ออีกเป็นเวลายาวนานกว่า 16 เดือน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่นิยมใช้ในการเฉลิมฉลองงานสำคัญหรือเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะในงานวันเกิดต่างๆ โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้ม รวมทั้งยังมีส่วนของกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นที่แสดงออกมานั้น จะมีความคล้ายคลึงกันกับดอกกุหลาบ ดาร์กช็อกโกแลต กาแฟเอสเปรสโซ่ สมุนไพร ลูกพลัมและลูกเชอร์รี่สีดำ ซึ่งกลิ่นและรสชาติที่แสดงออกมานั้นแสดงได้ถึงความเข้มข้นและความเปรี้ยวจี๊ดที่แสดงออกมา โดยค่า Ph ของไวน์ชนิดนี้มีค่าที่ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ประมาณ 3.7 เลยทีเดียว

            สำหรับข้อแนะนำในการรับประทานไวน์ชนิดนี้ ไวน์ชนิดนี้จะมีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้นเมื่อมีอายุไวน์ที่ประมาณ 9-12 ปี รวมทั้งยังควรที่จะวางทิ้งไวน์ก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็ช่วยส่งเสริมให้กลิ่นและรสชาติของไวน์ดียิ่งขึ้นอีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์ รวมทั้งยังเหมาะสมกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ เนื้อไก่ โดยเฉพาะไก่ย่างรมควัน หรืออาหารที่ย่างหรือรมควันก็เหมาะสมอยู่เช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนี้อาหารที่เต็มไปด้วยเนื้อปลาเช่นปลาทูน่า ปลาแซลม่อน เห็ด หรืออาหารเอเชียและพาสต้าก็สามารถกินควบคู่กับไวน์เพื่อเสริมรสชาติได้เช่นเดียวกัน โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 15%

Chateau La Dominique

Chateau La Dominique

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé

Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé

            Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé เป็นไวน์ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีแหล่งการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Pessac-Leognan ในเมือง Bordeaux ของแดนน้ำหอมนั่นเอง

            ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยแบรนด์ไวน์ในประเทศฝรั่งเศสอย่าง Haut-Brion ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Jean de Pontec ในปี ค.ศ. 1553 หรือราวปี พ.ศ. 2096 โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ชนิดแรกในประวัติศาสตร์ไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาในดินแดนแห่งไวน์อย่าง Bordeaux รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เคยถูกนำเสนอให้แก่พระเจ้าชาร์ลที่สองแห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1660 หรือช่วงประมาณปีพ.ศ. 2203 อีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีส่วนผสมที่น่าสนใจ โดยการนำองุ่นทั้งสามสายพันธุ์มาใช้ในกรรมวิธีการผลิตนี้ ได้แก่ 45% Merlot, 44% Cabernet Sauvignon และ 9% Cabernet Franc ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่นั้น ถึงว่าไวน์นี้จะไม่มีองุ่นพันธุ์ Petit Verdot แต่กลับกลายว่ามีกลิ่นและรสชาติขององุ่นสายพันธุ์นี้อยู่จางๆ

            เนื่องด้วยเป็นไวน์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีกรรมวิธีการผลิตที่ค่อนข้างนานและซับซ้อนกว่าไวน์ทั่วไป โดยไวน์ชนิดนี้จะต้องคัดสรรและเก็บเกี่ยวองุ่นที่ใช้ด้วยมือเท่านั้น และจะต้องผ่านการเลือกสรรหลายขั้นตอนเพื่อหาองุ่นที่ดีที่สุด โดยองุ่นที่ใช้นั้นต้องใช้ในสวนของตนเองเท่านั้น และมีระยะเวลาในการหมักยาวนานมากถึง 22 เดือนด้วยกัน

            ในส่วนของรสชาติและกลิ่นนั้นนับได้ว่ามีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งทั้งความเข้มข้นของเนื้อสัมผัส ความแห้งของเนื้อไวน์และความเปรี้ยวของรสชาติและกลิ่นที่มีความคล้ายคลึงกับในยาสูบ ต้นสนและต้นโอ๊กผสมรวมกัน นอกเหนือจากนี้ยังมีส่วนผสมของกลิ่นและรสชาติที่คล้ายคลึงกับผลไม้สีดำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบล็กเคอร์แรนหรือผลเชอร์รี่สีดำก็ตาม นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างเหมาะสม อยู่ในระดับประมาณ 13% และเหมาะสมกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีกอย่างไก่และเป็ด

Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé

Château Haut-Brion Premier Grand Cru Classé

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Marquis de Terme Margaux

Chateau Marquis de Terme Margaux

            Chateau Marquis de Terme Margaux นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้ชื่อแบรนด์ไวน์ดังอย่าง Chateau Marquis de Terme ซึ่งเป็นโรงผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงอยู่บริเวณ Margaux ใน Medoc, Bordeaux ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยบริเวณแห่งนี้นอกจากจะมีแหล่งผลิตไวน์หรือโรงกลั่นไวน์เป็นของตัวเองแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีบริเวณเพาะปลูกองุ่นที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไวน์เป็นของตัวเองอีกด้วย

            โดยองุ่นที่มีชื่อเสียงที่ถูกผลิตขึ้นมาจากบริเวณนี้ ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ที่มีความนิยมในการผลิตไวน์อย่างสูง โดยไวน์ชนิดนี้ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในไวน์ที่มีการนำองุ่นพันธุ์นี้มาใช้มากถึง 60% ของสัดส่วนวัตถุดิบทั้งหมด นอกเหนือจากองุ่นพันธุ์นี้แล้ว ทางผู้ผลิตก็มีการใช้องุ่นพันธุ์ Merlot และ Petit Verdot มาใช้ด้วยในอัตราส่วน 33% และ 7%  ตามลำดับ โดยไวน์นี้จะต้องผ่านการผลิตโดบการหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่เป็นเวลายาวนานถึง 18 เดือน ถึงได้รสชาติที่ลงตัว

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่สวยงาม มีสีของเนื้อไวน์เป็นสีแดงเข้มแกมม่วงที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความสมดุลทั้งในเรื่องของกลิ่นและรสชาติของไวน์อย่างดี ด้วยความนุ่มนวลของความสดใหม่ของผลไม้นานาชนิดที่ผสานกันกับความเข้มข้นของรสชาติและกลิ่นราวกับกาแฟเอสเปรสโซ่ชั้นดี ที่ผสานกับช็อกโกแลตขม ทำให้ไวน์นี้มีเสน่ห์อย่างหาตัวจับได้ยากยิ่ง

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างโดดเด่น ทั้งกลิ่น เนื้อสีและรสชาติก็ผสานความแตกต่างเข้ากันได้อย่างละมุนและลงตัว ตัวเนื้อสัมผัสก็มีความพอดี เป็นเนื้อเดียวกันอย่างยอดเยี่ยม โดยไวน์นี้มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5-14% และเหมาะกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเนื้อวัวและเนื้อกวาง

Chateau Marquis de Terme Margaux

Chateau Marquis de Terme Margaux

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Almaviva

Almaviva

            Almaviva นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาโดยเจ้าของแบรนด์ไวน์เดียวกันกับไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Château Mouton-Rothschild และ Chile’s Concha y Toro โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในความงดงามที่ทันสมัยของไวน์แดงชนิดนี้ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีแหล่งการผลิตมาจาก Puente Alto ใน Maipo Valley ของประเทศชิลี

            โดยไวน์ชนิดนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นทั้งสี่สายพันธุ์มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต โดยอัตราส่วนที่ใช้ในการผลิตนั้น จะมีความแตกต่างกันตามรุ่นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาในแต่ละปี โดยองุ่นที่ใช้นั้นจะมี Cabernet sauvignon, Carmenere, Cabernet Franc และ Petit Verdot ซึ่งไวน์ชนิดนี้ ไม่ได้มีดีเพียงแค่องุ่นชั้นเลิศเท่านั้น แต่กรรมวิธีการเก็บและผลิตนั้นก็นับได้ว่ามีมนต์เสน่ห์ไม่แพ้กัน โดยไวน์ชนิดนี้จะมีการเก็บเกี่ยวองุ่นที่มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง ในช่วงกลางเดือนธันวาคมจนถึงสัปดาห์ที่สามของเดือนมีนาคมเท่านั้น นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้จะมีการองุ่นที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีแล้ว ไปหมักลงในถังไม้โอ๊กพันธุ์ฝรั่งเศสอย่างดีเป็นเวลายาวนานถึง 18 สัปดาห์

            ในส่วนของรสชาติ กลิ่น และรูปลักษณ์ของเนื้อไวน์นั้นก็นับได้ว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์แดงที่มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมและมีความทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งกลิ่นที่มีความซับซ้อนและสีของเนื้อสัมผัสที่แดงสด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่มีลักษณะเด่นจากดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผสานตัวกันขึ้นมาอย่างงดงาม หลังจากกลิ่นของดอกไม้สดได้ผ่านพ้นไป กลิ่นของคาราเมลจางๆก็ผสานตัวขึ้นมาต่อเนื่องกัน รวมทั้งยังมีกลิ่นของชะเอมเทศและกลิ่นองุ่นอีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่นั้น รสชาติของไวน์นั้นก็เอร็ดอร่อยไปด้วยรสชาติของน้ำผลไม้จางๆ ผสานกับรสของผลราสเบอร์รี่ แบล็กเคอร์แรน และผลเชอร์รี่ดำ

            โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความงดงามอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นทั้งกรรมวิธีการผลิต สี กลิ่นและเนื้อสัมผัสของไวน์ก็ชวนน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.5% และเหมาะกับการรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวก เนื้อวัวและเนื้อกวาง

Almaviva

Almaviva

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!