Chateau Leoville Barton Saint-Julien

Chateau Leoville Barton Saint-Julien

            Chateau Leoville Barton Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชั้นนำของประเทศฝรั่งเศสอย่าง Chateau Leoville Barton ซึ่งได้มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่เมือง Saint-Julien ในส่วนของชุมชน Haut-Medoc ของเมือง Bordeaux ในประเทศฝรั่งเศส

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีส่วนผสมและกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับไวน์ชนิดอื่นๆ ด้วยสายพันธุ์และอัตราส่วนดังต่อไปนี้ 82% Cabernet Sauvignon และ 18% Merlot ซึ่งเป็นสายพันธุ์องุ่นที่มีการเพาะปลูกในบริเวณแหล่งการผลิตไวน์นี้เท่านั้น โดยการเก็บเกี่ยวไวน์องุ่นจะต้องมีการใช้มือเปล่าเก็บเกี่ยวเท่านั้นเพื่อให้องุ่นที่มีคุณภาพมากที่สุดด้วยเช่นกัน ซึ่งองุ่นทั้งหมดนั้นจะผ่านการนำไปหมักในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสบาร์เรลใบใหม่ในอัตราส่วนขององุ่นที่แตกต่างกันตามปีที่มีการผลิต

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น เนื้อสัมผัส รสชาติและลกษณะภายนอกทั้งหมดที่งดงามและมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นสีแดงสดราวกับสีแดงเลือดก็ว่าได้ แต่ก็ยังมีความสีแดงเคลือบเล็กน้อยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างสดชื่นและมีกลิ่นของสนที่หอมหวานด้วยเช่นกัน

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งก็ว่าได้ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนาน บวกกับรสชาติที่หอมหวานนุ่มนวลของไวน์ ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดและเนื้อไก่ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5-14.5% นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังต้องเก็บรักษาไวน์ไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 17-19 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 62-66 องศาเซลเซียส

Chateau Leoville Barton Saint-Julien

Chateau Leoville Barton Saint-Julien

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Beaulieu Vineyard (BV) Rutherford Napa Valley Cabernet Sauvignon

Beaulieu Vineyard (BV) Rutherford Napa Valley Cabernet Sauvignon

            Beaulieu Vineyard (BV) Rutherford Napa Valley Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย Beaulieu Vineyard (BV) ซึ่งเป็นโรงกลั่นไวน์และบริษัทผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีการจำหน่ายไวน์เป็นระดับชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทแห่งนี้มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตที่บริเวณหมู่บ้าน Napa Valley ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ Napa County ของชายฝั่งทางตอนเหนือของเมืองแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

            โดยไวน์ชนิดนี้มีการนำสถานที่การผลิต และชนิดองุ่นที่ใช้ในการผลิตมาเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อไวน์ชนิดนี้ ซึ่งองุ่นที่ใช้ในการผลิตครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon มาใช้ในการผลิตหลัก แต่ว่าอัตราส่วนผสมทั้งหมดของไวน์ไม่ได้มีแค่สายพันธุ์เดียวเท่านั้น องุ่นที่ใช้นั้นจะมีCabernet Sauvignon 92%, Malbec 2% และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot อีก 6% และนำองุ่นทั้งหมดไปหมักในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสและยุโรปเป็นเวลายาวนานกว่า 15 เดือนด้วยกัน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น เนื้อสัมผัส รสชาติและลักษณะภายนอกที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง โดยเนื้อสัมผัสของไวน์เป็นเนื้อสัมผัสที่มีสีที่ค่อนข้างเป็นสีม่วงเข้มออกไปทางเคลือบดำเล็กน้อย รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของแก่นไม้สน ส้มสายน้ำผึ้ง ครีม วานิลลาและกลิ่นของผลไม้ป่านานาชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ไวนชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่แทบไม่แตกต่างจากกลิ่นเท่าไหร่นัก

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อม ความเต็มน้ำเต็มเนื้อขององค์ประกอบและรสสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนาน และความเปรี้ยวของไวน์เพียงเล็กน้อยอีกด้วย ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ทั้งหลายและมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.5-14.7%

Beaulieu Vineyard (BV) Rutherford Napa Valley Cabernet Sauvignon

Beaulieu Vineyard (BV) Rutherford Napa Valley Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Cono Sur Tocornal Cabernet Sauvignon

Cono Sur Tocornal Cabernet Sauvignon

            Cono Sur Tocornal Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงมาจากการผลิตของโรงกลั่นไวน์และแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Cono Sur ซึ่งเป็นผู้ผลิตไวน์แดงและไวน์ขาวระดับต้นๆของประเทศชิลี ซึ่งฐานการผลิตของผู้ผลิตไวน์อย่าง Cono Sur นั้นจะมีการใช้พื้นที่ของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์อย่าง Maipo Valley ของ Central Valley ของประเทศชิลี

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวมาใช้ในการผลิตไวน์นี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon แท้ 100%  ทำให้ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีลักษณะของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างชัดเจน บวกกับองุ่นทั้งหมดที่ใช้นั้นจำเป็นต้องผ่านการเก็บเกี่ยวด้วยมือล้วนเท่านั้น ไม่มีการใช้เครื่องเก็บเกี่ยวเท่าไหร่นัก

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างสวยงาม เป็นเนื้อสัมผัสสีแดงสดราวกับสีของทับทิมออกไปทางสีแดงเข้มเล็กน้อย รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นลูกพลัม ผลราสเบอร์รี่และผลไม้หวานานาชนิด นอกจากนี้ยังมีกลิ่นและรสสัมผัสของต้นโอ๊กและเครื่องเทศหวาน

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หวาน ต้นโอ๊กและเครื่องเทศ โดยเนื้อสัมผัสของไวน์ก็มีความเอร็ดอร่อย ความซับซ้อนในรสชาติที่ลงตัวและกลิ่นอายของความร่วมสมัยอย่างดี ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานอาหารควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์และชีส รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13.7%

Cono Sur Tocornal Cabernet Sauvignon

Cono Sur Tocornal Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Montes Alpha Cabernet Sauvignon 2018 (30 Years Limited Edition)

Montes Alpha Cabernet Sauvignon 2018 (30 Years Limited Edition)

            Montes Alpha Cabernet Sauvignon 2018 (30 Years Limited Edition) นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงมาจากการผลิตของโรงกลั่นไวน์และแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Montes ซึ่งเป็นผู้ผลิตไวน์แดงและไวน์ขาวระดับต้นๆของประเทศชิลี ซึ่งฐานการผลิตของผู้ผลิตไวน์อย่าง Montes นั้นจะมีการใช้พื้นที่ของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์อย่าง Colchagua Valley ใน Repel Velley ของ Aconcagua ใจกลางของประเทศชิลี

             โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาโดยการนำองุ่นทั้งสองสายพันธุ์ในอัตราส่วนCabernet Sauvignon 70% และองุ่นสายพันธุ์ Carmenere 30% โดยองุ่นทั้งหมดนั้นเป็นองุ่นที่เก็บเกี่ยวด้วยกับคัดเลือกจากการใช้มือทั้งหมด แล้วนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กบาร์เรลฝรั่งเศสเป็นเวลายาวนานกว่า 12 เดือน โดยจะแบ่งใส่ในถังไม้แบบใช้ครั้งแรก 80% และถังไม้ที่เคยมีการใช้มาก่อนรอบนึงอีก 20% รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่นำวัฒนธรรมการหมักจาก Aurello Montes ซึ่งเป็นวิธีการหมักไวน์Montes Super M มาใช้เล็กน้อยอีกด้วย

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง โดยในส่วนของสีเนื้อสัมผัสนั้นนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีสีแดงที่สวยสดงดงามราวกับสีของทับทิม บวกกับกลิ่นของไวน์ที่มีความเป็นผลไม้ตระกูลสีแดงและสีดำที่ค่อนข้างสุก ไม่ว่าจะเป็นผลเชอร์รี่ชุบน้ำเชื่อม ผลสตรอเบอร์รี่ และผลมะเดื่อ ที่ผสานกลิ่นกับเครื่องเทศนานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพริกไทยดำ พริกไทยแดงและใบยาสูบ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติของความกลมกล่อมและความหวานที่ลงตัว

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความหวานจากผลไม้สีดำและแดงผสานกับเครื่องเทศได้อย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความลงตัวอย่างพอดิบพอดี เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์  และอาหารจานเดียวอย่างพาสต้า นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังต้องเก็บรักษาไวน์ไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 17-19 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 62-66 องศาเซลเซียส

Montes Alpha Cabernet Sauvignon 2018 (30 Years Limited Edition)

Montes Alpha Cabernet Sauvignon 2018 (30 Years Limited Edition)

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glenfiddich Grand Cru 23 Years Old

Glenfiddich Grand Cru 23 Years Old

            Glenfiddich Grand Cru 23 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงและความนิยมมากในระดับโลก โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้อย่าง Glenfiddich ที่มีฐานการผลิตอยู่ที่ชุมชนดังในการผลิตเหล้าอย่าง Speyside ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยการใช้ถังหมักเหล้าและกระบวนการผลิตเหล้ารัมมาใช้ในการผลิตเหล้าชนิดนี้ แต่ก็ยังคงรักษาความเป็นเหล้าวิสกี้ได้เป็นอย่างดี บวกกับการหมักเพิ่มติมลงในถังไม้โอ๊กทั้งสามชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งก็คือถังไม้โอ๊กอเมริกันและถังไม้โอ๊กยุโรปเป็นเวลาสักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นจึงนำไปบ่มต่อในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศส Cuvee พันธุ์หายาก โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการหมักจะเป็นข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่ใครหลายคนมักจะขนานนามว่า “Single Malt”

            ซึ่งเหล้าวิสกี้อายุ 23 ปีชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีลักษณะภายนอกที่หาตัวจับได้ยาก สมกับเป็นเหล้าคุณภาพเยี่ยมที่หายาก โดยเหล้านี้จะเป็นเหล้าที่มีสีของเหล้าเป็นสีทองที่ค่อนข้างเข้มสวยงาม และมีกลิ่นที่มีความสดชื่นที่ถ่ายทอดความเป็นผลไม้หลากหลายชนิดออกมา ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิลและมานาวสด บวกกับเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติหลายระดับทั้งวานิลลา ต้นโอ๊ก ไม้จันทน์ ลูกแพร เชอร์เบท และองุ่นขาว

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่น่าสนใจและน่าแนะนำให้คอเหล้าวิสกี้ลองมาดื่มกัน ทั้งรสสัมผัสที่ติดลิ้นค่อนข้างยาวนาน ความหวานและความเต็มน้ำเต็มเนื้อในรสชาติและกลิ่นที่ส่งเสริมให้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีมนต์เสน่ห์น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40%

Glenfiddich Grand Cru 23 Years Old

Glenfiddich Grand Cru 23 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Réserve Spéciale Pauillac

Réserve Spéciale Pauillac

            Réserve Spéciale Pauillac นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยการผลิตจากแบรนด์ไวน์และโรงกลั่นชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง Barons de Rothschild (Lafite) ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Pauillac ใน Bordeaux ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์อันดับชั้นนำของโลก

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการรวมกันขององุ่นหลากหลายชนิดมาใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 70% และองุ่นสายพันธุ์ Merlot 30% โดยองุ่นทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตนั้นจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กเป็นเวลายาวนานกว่า 3-9 เดือน

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่นับว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ทั้งสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างจะเข้มมากเมื่อเทียบกับไวน์ชนิดอื่นๆ เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นด้วยกลิ่นของผลไม้เป็นหลัก โดยกลิ่นผลไม้ที่โดดเด่นออกมาคือผลมะเดื่อ พริกไทยดำและแก่นไม้ต่างๆ รวมทั้งยังมีกลิ่นของผลโกโก้ด้วย ซึ่งรสชาติของไวน์จึงมีความกลมกล่อมและเข้ากันในรสชาติ ซึ่งรสชาติของไวน์นั้นก็จะมีส่วนประกอบของพริกไทยดำและชะเอมเทศ

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ทั้งกลิ่นและรสชาติของชะเอมเทศ พริกไทยดำและผลไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นไวน์ที่รับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีกเช่นเนื้อไก่และเนื้อเป็ด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13.5% และจะยิ่งมีรสชาติที่ดีขึ้นเมื่อเก็บรักษาไวน์นี้ไว้ที่อุณหภูมิ 16-18 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60-64 องศาฟาเรนไฮต์ และควรเปิดค้างไว้ก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง

Réserve Spéciale Pauillac

Réserve Spéciale Pauillac

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Blason d’Aussières

Blason d’Aussières

            Blason d’Aussières นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยการผลิตจากแบรนด์ไวน์และโรงกลั่นชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง Barons de Rothschild (Lafite) ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Medoc ใน Bordeaux ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์อันดับชั้นนำของโลก

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการรวมกันขององุ่นหลากหลายชนิดมาใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ 35% Syrah, 27% Grenache, 20% Carignan และองุ่นสายพันธุ์ Mourvèdre 18% โดยองุ่นทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตนั้นจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กเป็นเวลายาวนานกว่า 10-12 เดือน

            ในส่วนของลักษณะทั่วไปของไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงเข้ม นุ่มลึกสวยงามอย่างยิ่ง บวกกับกลิ่นของไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างมีกลิ่นของต้นโอ๊กและกลิ่นของเครื่องเทศอยู่มากพอสมควร รวมกันกับรสชาติของไวน์ที่มีความเบาบางและหอมหวานจากผลไม้สีดำต่างๆ ทำให้มีกลิ่นอายของความร่วมสมัยในไวน์และมีความกลกล่อมลงตัวกันอย่างดี

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ทั้งส่วนของกลิ่นและรสชาติที่ความเป็นผลไม้ตระกูลสีดำมากกมาย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นไวน์ที่รับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีกเช่นเนื้อไก่และเนื้อเป็ด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% และจะยิ่งมีรสชาติที่ดีขึ้นเมื่อเก็บรักษาไวน์นี้ไว้ที่อุณหภูมิ 16-18 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60-64 องศาฟาเรนไฮต์ และควรเปิดค้างไว้ก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง

Blason d'Aussières

Blason d’Aussières

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Château Peyre-Lebade Haut-Médoc

Château Peyre-Lebade Haut-Médoc

            Château Peyre-Lebade Haut-Médoc นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ยอดนิยมในประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งยังเป็นโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Château Peyre-Lebade ซึ่งแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ได้มีการตั้งโรงกลั่นไวน์จากขึ้นมาภายในบริเวณคฤหาสน์เก่าอย่างChâteau Peyre-Lebade ของชุมชนอย่าง Haut-Médoc ที่ตั้งอยู่ในเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการรวมกันขององุ่นหลากหลายชนิดมาใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ MERLOT 65-75%, CABERNET SAUVIGNON 15-25% และองุ่นสายพันธุ์ CABERNET FRANC 10% โดยองุ่นทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตนั้นจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กเป็นเวลายาวนานกว่า 12-16 เดือน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่น เนื้อสัมผัสและรสชาติที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีแดงเข้มออกไปทางสำแดงดำก็ช่วยทำให้ไวน์ดูดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างสดใสและมีความเป็นชีวิตชีวาอย่างดีจากผลไม้นานาชนิด ทั้งกลิ่นจากลูกพลัม เคอร์แรนสีดำ และเชอรรี่ที่ผสานกับกลิ่นดอกไม้อย่างลงตัว และในส่วนของรสชาตินั้นก็นับได้ว่ามีความสดใหม่อย่างดีแต่ก็มีความเบาบางที่ทยอยเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปอีกด้วยเช่นเดียวกัน

            ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เป็นไวน์ที่มีเอลักษณ์และจุดเด่นสำคัญจากความเป็นผลไม้อย่างดี ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นไวน์ที่รับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีกเช่นเนื้อไก่และเนื้อเป็ด รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 13% และจะยิ่งมีรสชาติที่ดีขึ้นเมื่อเก็บรักษาไวน์นี้ไว้ที่อุณหภูมิ 16-18 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60-64 องศาฟาเรนไฮต์ และควรเปิดค้างไว้ก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง

Château Peyre-Lebade Haut-Médoc

Château Peyre-Lebade Haut-Médoc

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Aussières Classique

Aussières Classique

Aussières Classique นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยการผลิตจากแบรนด์ไวน์และโรงกลั่นชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง Barons de Rothschild (Lafite) ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Medoc ใน Bordeaux ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์อันดับชั้นนำของโลก

โดยแบรนด์ไวน์นี้ไม่ได้มีการใช้โรงกลั่นไวน์ของตัวเองในการผลิต แต่เป็นการใช้โรงกลั่นไวน์อย่าง Chateau d’Aussières ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการถูกก่อตั้งขึ้นมาด้วยการนำชื่อคฤหาสน์ในพื้นที่บริเวณทางเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศสมาใช้ โดยการนำวัฒนธรรมการผลิตของชนชาติฝรั่งเศสมาผลิตไวน์ชนิดนี้โดยการใช้องุ่นพันธุ์ท้องถิ่นหลากหลายชนิดมาใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ 40% Syrah และ 60% Cabernet sauvignon ที่ถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือทั้งหมดในช่วงฤดูหนาวมาใช้

ในส่วนของลักษณะของไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเข้มที่มีเฉดเคลือบสีน้ำเงินอยู่รอบนอกทำให้สีของเนื้อสัมผัสมีความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างดีและมีความซับซ้อนเล็กน้อยอันเนื่องมาจากชนิดขององุ่นที่มีการใช้และมีกลิ่นหอมของดอกไม้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อมในรสชาติอย่างยอดเยี่ยม ทั้งความสดชื่น มีชีวิตชีวา มีความทรงพลังและมีรสชาติที่ยอดเยี่ยม

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ทั้งกลิ่นและรสชาติที่หอมหวานไปด้วยกลิ่นองุ่นแต่ละชนิด นับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารจำพวกพาสต้าหรืออาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัวและเครื่องในสัตว์ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5-14.5%

Aussières Classique

Aussières Classique

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Aussières Selection

Aussières Selection

            Aussières Selection นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยการผลิตจากแบรนด์ไวน์และโรงกลั่นชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง Barons de Rothschild (Lafite) ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Medoc ใน Bordeaux ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์อันดับชั้นนำของโลก

โดยแบรนด์ไวน์นี้ไม่ได้มีการใช้โรงกลั่นไวน์ของตัวเองในการผลิต แต่เป็นการใช้โรงกลั่นไวน์อย่าง Chateau d’Aussières ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการถูกก่อตั้งขึ้นมาด้วยการนำชื่อคฤหาสน์ในพื้นที่บริเวณทางเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศสมาใช้ โดยการนำวัฒนธรรมการผลิตของชนชาติฝรั่งเศสมาผลิตไวน์ชนิดนี้โดยการใช้องุ่นพันธุ์ท้องถิ่นหลากหลายชนิดมาใช้ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ 30% Syrah, 25% Marselan, 15%Merlot, 10% Cabernet sauvignon, 10% Cabernet franc และ 10% Autres ที่ถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือทั้งหมดในช่วงฤดูหนาวมาใช้

ในส่วนของลักษณะภายในของไวน์ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น เนื้อสัมผัสและรสชาติของไวน์นั้นนับได้ว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง มีทั้งสีของเนื้อสัมผัสไวน์ที่เต็มไปด้วยสีแดงเข้มราวกับสีของทับทิม รวมทั้งยังมีกลิ่นของไวน์ที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศและผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะผลไม้สีแดงต่างๆ นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน สามารถเก็บเกี่ยววัฒนธรรมของไวน์จากแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้เป็นอย่างดี และมีความสมบูรณ์อย่างยิ่ง

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัสของไวน์ที่ค่อนข้างมีความเข้มข้นและมีความเปรี้ยวอยู่มาก แต่กลับมีเนื้อสัมผัสที่มีความแห้งค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารจำพวกพาสต้าหรืออาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัวและเครื่องในสัตว์ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14%

Aussières Selection

Aussières Selection

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!