Chateau Saint-Pierre Saint-Julien
Chateau Saint-Pierre Saint-Julien
Chateau Saint-Pierre Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสอย่าง Chateau Saint-Pierre ที่มีคฤหาสน์และแหล่งเพาะปลูกไวน์ตั้งอยู่ทางชุมชน Saint-Julien ที่มีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ของเมือง Medoc ใน Bordeaux ของฝรั่งเศส
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกรรมวิธีและกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องมาจากไวน์ชนิดนี้ได้ถูกผลิตขึ้นมาโดยการใช้วัตถุดิบ ซึ่งก็คือองุ่นที่แตกต่างกันถึงสามชนิดด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 73%, Merlot 21% และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet France 6% ด้วยกัน โดยองุ่นทั้งหมดจะถูกนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กพันธุ์เยี่ยมจากฝรั่งเศสใบใหม่เป็นเวลายาวนานกว่า 14-16 เดือนด้วยกัน แต่ว่าการหมักนั้นจะไม่นำองุ่นลงไปหมักในปริมาณทั้งหมด แต่จะค่อยๆทยอยใส่ไปทีละ 60% เพื่อเพิ่มคุณภาพให้ไวน์ได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่น เนื้อสัมผัส และรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม โดยสีของเนื้อสัมผัสนั้นจะเป็นสีแดงที่ค่อนข้างเข้มอยู่พอสมควร รวมทั้งยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างสดชื่น และเต็มไปด้วยผลไม้ พริกไทย กาแฟเอสเปรสโซ่และสมุนไพรชนิดต่างๆ และยังเป็นไวน์ที่มีรสชาติที่ค่อนข้างกลมกล่อม มีเนื้อสัมผัสพอดีลงตัว
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ปีและรักษาไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องสาฟาเรนไฮต์ ซึ่งไวน์ชนิดนี้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่นเนื้อไก่และเนื้อเป็ด รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5-14.5% เพียงเท่านั้น
Chateau Saint-Pierre Saint-Julien
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Chateau Nenin Pomerol
Chateau Nenin Pomerol
Chateau Nenin Pomerol นับได้ว่าเป็นไวน์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ที่ชื่อเสียงอย่าง Chateau Nenin ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่ดินที่มีการตั้งคฤหาสน์และแหล่งเพาะปลูกไวน์ด้วยเช่นเดียวกัน โดยสถานที่แห่งนี้ได้ตั้งอยู่บริเวณย่านชุมชน Pomerol ในย่าน Libournais ของเมือง Bordeaux ของประเทศฝรั่งเศส
โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าถูกผลิตขึ้นมาด้วยการอาศัยใช้อัตราส่วนขององุ่นทั้งสองสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่องุ่นสายพันธุ์ Merlot 70% และ Cabernet Franc 30% โดยองุ่นทั้งสองสายพันธุ์จะนำไปบ่มลงในถังสแตนเลสที่มีการปรับอุณหภูมิอย่างเหมาะสมสักระยะหนึ่ง ก่อนจะถ่ายเทองุ่นที่ผ่านการบ่มแล้วไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใหม่ 30% หรือน้อยกว่าเป็นเวลายาวนานกว่า 18 เดือน โดยอายุเฉลี่ยนของไวน์ชนิดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 30 ปี
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัส รสชาติและกลิ่นที่ค่อนข้างยาวยอดเยี่ยม โดยกลิ่นของไวน์นั้นเต็มไปด้วยความสดชื่น มีทั้งกลิ่นของน้ำผลไม้ชนิดต่างๆ ดอกไม้นานาพันธุ์ รวมทั้งกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นจากลูกพลัม ช็อกโกแลต ชะเอมเทศ ในส่วนของรสชาตินั้นก็นับได้ว่าไวน์ชนิดนี้ได้ถ่ายทอดความสดชื่นได้ออกมาอย่างดี รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างทรงพลังและเปรี้ยวเล็กน้อยก็ยิ่งทำให้ไวน์ชนิดนี้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยม มีความโดดเด่นจากลูกพลัม ดอกไม้และน้ำผลไม้ ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% เพียงเท่านั้น
Chateau Nenin Pomerol
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Escudo Rojo Reserva Cabernet Sauvignon
Escudo Rojo Reserva Cabernet Sauvignon
Escudo Rojo Reserva Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Baron Phillippe de Rothschild หรือ Escudo Rojo ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่บริเวณย่านชุมชนเมือง Maipo Valley ที่อยู่ในเมือง Central Valley ที่อยู่ทางด้านตอนใต้ของเมือง Santiago ประมาณ 30 กิโลเมตรของประเทศชิลี
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์อันเนื่องมาจากมีการนำความรู้และวัฒนธรรมในการผลิตไวน์มาจากชาวพื้นเมืองชิลีที่มีการนำองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon ที่มีการเก็บเกี่ยวในช่วงประมาณปลายเดือนกุมภาพันธุ์จนถึงประมาณกลางเดือนของเดือนพฤษภาคม โดยระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวในช่วงที่องุ่นจะต้องสุกแล้วเท่านั้น โดยองุ่นทั้งหมดจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กที่มีอายุ 1 ปีเท่านั้น โดยเวลาในการหมักนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 8 เดือนก่อนที่จะบรรจุขวด
ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีลักษณะที่ค่อนข้างโดดเด่นสมกับเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมระดับต้นๆของโลก โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงสดราวกับสีของทับทิม มีความแกมม่วงจางๆ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นและซับซ้อน รวมทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นของผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ป่าอย่างผลสตรอเบอร์รี่ ผลเชอร์รี่ และผลเคอร์แรนสีดำ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นของวานิลลาและถั่วอัลมอนด์ และรสชาติก็นับว่าสมดุล มีรสสัมผัสที่ดีและมีรสชาติที่ดีเยี่ยมอีกด้วยเช่นกัน
ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและมีจุดเด่นที่กลิ่นและรสชาติของผลไม้ โดยเฉพาะผลเคอร์แรนสีดำ เครื่องเทศและความเข้มข้นของไวน์ รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ และเนื้อสัตว์ปีก เช่นเนื้อไก่และเนื้อเป็ด และยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 12.5-14% เพียงเท่านั้น
Escudo Rojo Reserva Cabernet Sauvignon
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Escudo Rojo Reserva Carmenere
Escudo Rojo Reserva Carmenere
Escudo Rojo Reserva Carmenere นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Baron Phillippe de Rothschild หรือ Escudo Rojo ซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตอยู่ที่บริเวณย่านชุมชนเมือง Rapel Valley ที่อยู่ในเมือง Central Valley ที่อยู่ทางด้านตอนใต้ของเมือง Santiago ประมาณ 200 กิโลเมตรของประเทศชิลี
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์อันเนื่องมาจากมีการนำความรู้และวัฒนธรรมในการผลิตไวน์มาจากชาวพื้นเมืองชิลีที่มีการนำองุ่นสายพันธุ์ Carmenere ที่มีการเก็บเกี่ยวในช่วงประมาณปลายเดือนกุมภาพันธุ์จนถึงประมาณกลางเดือนของเดือนพฤษภาคม โดยระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวในช่วงที่องุ่นจะต้องสุกแล้วเท่านั้น โดยองุ่นทั้งหมดจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กที่มีอายุ 1 ปีเท่านั้น โดยเวลาในการหมักนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 8 เดือนก่อนที่จะบรรจุขวด
ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างน่าลิ้มลองอย่างยิ่ง โดยเนื้อไวน์จะมีสีของเนื้อสัมผัสเป็นสีแดงเลือดแกมม่วง รวมทั้งยังมีกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างทรงพลังและมีความซับซ้อนในกลิ่นอยู่พอสมควร โดยไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์ที่มีกลิ่นเริ่มด้วยกลิ่นของลูกพลัม ผลเบอร์รี่สีดำ หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้จะมีกลิ่นของเครื่องเทศตามมา ซึ่งรสชาติของไวน์นั้นก็แทบไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ไวน์นี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติที่เข้ากันและสมดุลอย่างยิ่ง มีทั้งความกลมกล่อม ความเต็มน้ำเต็มเนื้อในรสสัมผัสและความเปรี้ยวอย่างพอดิบพอดี
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างดียิ่ง รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อวัวและเนื้อกวาง รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีปริมาณของระดับแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 13-14% เพียงเท่านั้น
Escudo Rojo Reserva Carmenere
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Montes Classic Malbec
Montes Classic Malbec
Montes Classic Malbec นับได้ว่าเป็นไวน์ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงมาอย่างดีจากแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Montes ที่มีการถูกสร้างขึ้นมาจากถิ่นฐานการผลิตไวน์ชื่อดังอย่างชุมชน Colchagua Velley ในบริเวณ Rapel Valley ของ Central Valley ในประเทศชิลี
ซึ่งไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีวัฒนธรรมการผลิตที่ถูกส่งตรงมาจากชาวท้องถิ่นในประเทศชิลีอย่างยอดเยี่ยม ทั้งกรรมวิธีการผลิตที่มีการนำเอาองุ่นสายพันธุ์ Malbec แท้ 100% มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไวน์ครั้งนี้ รวมทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อไวน์อีกด้วยเช่นกัน โดยวัตถุดิบทั้งหมดจะนำลงไปหมักในถังไม้ฝรั่งเศสเป็นเวลายาวนานกว่า 8 เดือน โดยการใส่วัตถุดิบจะไม่ใส่ทั้งหมด แต่จะทยอยใส่ทีละ 45% จากปริมาณทั้งหมด เพื่อคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของไวน์
โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาอย่างเยี่ยมยอด ทำให้คุณลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นสี กลิ่น รสชาติและเนื้อสัมผัสล้วนแต่น่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัสของไวน์ที่มีสีที่ค่อนข้างแดงสด บวกกับกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊ก วานิลลา ช็อกโกแลต ลูกพลัม ผลไม้สีดำต่างๆ โดยเฉพาะผลเบอร์รี่สีดำด้วยเช่นเดียวกัน
ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะและเนื้อสัตว์ปีก เช่นเนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 14.3% และควรที่จะเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 17-19 องศาเซลเซียสหรืออยู่ที่ประมาณ 62-66 องศาฟาเรนไฮต์
Montes Classic Malbec
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Edinburgh Gin Rhubarb & Ginger Gin
Edinburgh Gin Rhubarb & Ginger
1.จินนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสกอตแลนด์ เป็นจินที่มีแอลกอฮอล์ 20 % ซึ่งเป็นจินยอดนิยมของชาวสกอตแลนด์และมักจะนำมามิกซ์กับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆเพื่อรสชาติที่ดีขึ้นรวมถึงบรรยากาศที่แสนสนุกมากขึ้น โดยเฉพาะเหมาะสำหรับน้ำองุ่นเป็นอย่างยิ่ง
2.ส่วนผสมหลักๆจะมีรูบาบ, ไซตรัสและขิงในปริมาณเท่าๆกัน ควรรับประทานในอุณหภูมิทั่วไปหรืออุณหภูมิห้อง
3.เครื่องดื่มชนิดนี้มีรสหวานและมีกลิ่นหอม รวมถึงให้ความสดชื่นจากไซตรัสและให้ความรู้สึกอบอุ่นจากขิงได้อย่างลงตัว
4.อาหารที่เหมาะสำหรับเครื่องดื่มนี้คืออาหารทะเล แซนวิสรวมถึงผลไม้ต่างๆและป๊อปคอร์น
5.สำหรับวันชิวๆอยู่ที่บ้าน ลองดื่มจินนี้ดูเพื่อเพิ่มความสบายให้กับคุณมากขึ้น
Edinburgh Rhubarb and Ginger Gin 1,0L 40%
Spencerfield Spirit Company
Hinter der Edinburgh Destillerie steht die Spencerfield Spirit Company. Im Gegensatz zu der erst 2010 gegründeten Edinburgh Destillerie kann man bei Spencerfield Spirit Company bereits auf eine über 25- jährige Geschichte zurückblicken. Zwar hauptsächlich im Bereich der Whisky Produktion, jedoch ähneln sich die Vorgänger der Produktion zu der von Gin und man kann so neue Wege bestreiten.
Nachdem die Edinburgh Destillerie vor allem für ihren Preisgekrönten Edinburgh Gin, der an die Produktion von Gin aus dem 18. Jahrhundert anspielt, gelingt es der Brennerei auch neue, ausgefallene Kreationen auf dem Mark zu verankern. Neben Fruchtigen Varianten, wie dem Elderflower Gin oder dem Raspberry Gin gibt es auch eine Version mit Rhabarber und Ingwer.
Rhubarb & Ginger
Dieser Gin wurde mit dem feinen Aroma von säuerlichem Rhabarber und würziger Ingwerwurzel verfeinert. Dazu wurde der im Frühjahr geerntete Rhabarber zusammen mit Ingwer aus dem Orient sowie Zitronenzesten mazeriert und anschließend als Infusion zum Destillierten Gin gegeben. Obwohl beide Aromen an sich ja bereits sehr kräftig sind, hat man es geschafft, den klassischen Gin Geschmack mit dem pikanten Wacholderaroma dennoch beizubehalten.
Alcohol Strength: | 40% Vol. |
Size: | 1,0 Liter |
Country: | Scotland |
Type: | Gin |
verantw. Lebensmittelunternehmer: | Spencerfield Spirit Company, Spencerfield Farm House, Inverkeithing, Fife, KY11 9LA, Großbrittanien |
Related links to “Edinburgh Rhubarb and Ginger Gin 1,0L 40%”
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Antinori Tignanello
Antinori Tignanello
1.ไวน์แดงตัวนี้เกิดขึ้นในปี 1968 ที่เมือง Florence ที่โด่งดังทางการบ่นเพาะไวน์ในประเทศอิตาลี ผู้คิดค้นคือ Marchesi L&P Antinori ซึ่งเป็นตระกูลที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับไวน์มายาวนานกว่า 600 ปี
2.ส่วนผสมจะมี Sangiovese 80%, Cabernet sauvignon 15 % และ Cabernet franc 5 % โดยบ่มในถังบาร์ริค 12 เดือนและบ่มในขวดต่ออีก 12 เดือนก่อนจะวางขายตามท้องตลอดและต้องเก็บในอุณหภูมิ 12-15 องศาเซลเซียสเพื่อคงความอร่อยของรสชาติเอาไว้
3.ไวน์แดงตัวนี้จะมีรสชาติเข้มข้น สัมผัสได้ถึงรสชาติของเชอร์รี่ป่า รวมถึงมีกลิ่นของเครื่องเทศเล็กน้อย ซึ่งเหมาะทานคู่กับอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและอาหารที่มีรสเปรี้ยว
4.ความพิถีพิถันของไวน์ตัวนี้ จะทำให้คุณรับรู้ได้ผ่านรสชาติและบรรยากาศที่คุณจะได้สัมผัสอย่างแน่นอน
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Le Dix De Los Vascos
Le Dix De Los Vascos
1.ไวน์แดงเกรด Grand Cuvee มีต้นกำเนิดมาจากประเทศชิลี ในพื้นที่อันโด่งดังในการผลิตไวน์อย่าง El Fralie ซึ่งอยู่ในเขต Colchagua Valley โดยใช้องุ่นที่มีอายุมากกว่า 70 ปีในการผลิต
2.ส่วนผสมจะมี Cabernet Sauvignon 75%, Sangiovese 20%, Cabernet Franc 5% และอุณหภูมิที่ดีจะอยู่ที่ 15-18 องศาเซลเซียส
3.รสชาติเข้มข้น, แทนนินมีสัมผัสที่นุ่มจนคุณจะรู้สึกถึงรสผลไม้สุกแบบเข้มข้น ซึ่งเหมาะที่จะทานคู่กับอาหารจำพวกเนื้อเช่น เสต๊กไก่ หมูและวัว เป็นต้น
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
โดย รีวิวเหล้านอก.com
Antinori Solaia
Antinori Solaia
1.Marquis Piero Antoni ผู้คิดค้นไวน์ชนิดนี้ต้องการหมักไวน์ด้วย Carbenet โดยมีการเริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1978 ซึ่งไวน์ตัวนี้จะใช้องุ่น Cabernet Sauvignon ที่จะทำให้คุณภาพดีกว่าไวน์อื่นๆพอสมควร
2.Solaia ประกอบไปด้วย Cabernet Sauvignon 80%และ Carbernet Franc 20% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปีไวน์ เพื่อให้ Cabernet Sauvignon และ Carbernet France มีความกลมกล่อมและรสชาติดีที่สุด
3.ไวน์แดงสุดคลาสสิคนี้มีรสชาติเข้มข้น รู้สึกถึงรสขององุ่น แต่ดื่มง่าย และให้ความรู้สึกสดชื่น มี tannin และ acidity ในปริมาณที่ลงตัวที่จะช่วยให้รสชาติติดปากไปอย่างยาวนาน โดยจะต้องเก็บในอุณหภูมิ 12-15 องศาเซลเซียสเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด รวมถึงเหมาะกับกินคู่กับอาหารประเภทแป้งและอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน หรือสตูเนื้ออบก็ลงตัว
4.ลองเพิ่มรสชาติอาหารและเพิ่มความสดใสให้กับการรับประทานในครั้งนั้นๆด้วยไวน์ชนิดนี้ดู
Description
2016 Antinori Solaia
The 2016 vintage, regular in its development and time span, will be remembered for the harvest of healthy and fully ripe grapes, favored by excellent climatic conditions during the entire growing season, particularly during the period of picking. Attention was nonetheless completely focused both in the vineyard and in the cellar where the grape berries were delicately destemmed and the grapes, before being crushed, were carefully selected on the sorting table. It is essential that only perfect berries go into the 60 hectoliter (1,580 gallon) conical fermenting tanks where the wine is made.
The must was slowly transformed into wine during the fermentation and the phase of skin contact; extreme care is needed in this winemaking phase in order to maintain the freshness and aroma of the grapes without neglecting an extraction of color and a management of the tannins aimed at both sweetness and elegance. Once the wine was run off its skins, the malolactic fermentation in small oak barrels took place, a process which exalted the complexity and pleasure level of the wine. The first part of aging took place in new French oak barrels, 60 gallons in capacity, and lasted ten months. After an initial period of aging in separate lots, the components were blended together and the evolution in oak is completely carried out.
Awards
Wine Advocate 100/100 USA
James Suckling 100/100 USA
Galloni 99/100 USA
Wine Spectator 98/100 USA
Gambero Rosso Tre Bicchieri IT