Longmorn Distiller Choice

Longmorn Distiller Choice

Longmorn Distiller’s Choice นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกส่งตรงมาจากย่านชุมชนที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตเหล้าวิสกี้อย่าง Speyside ประเทศสกอตแลนด์ โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าทีผ่านกรรมวิธีการหมักบ่มด้วยถังไม้สามชนิดคือ ไม้ Hogshead ไม้ Olorosy sherry และถังไม้ที่ใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนใบเก่า ปริมาณแอลกอฮอล์ 40% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร ด้วยระยะเวลา 16 ปีของการดำเนินการโรงกลั่นนี้ก็มีแฟนตัวยงติดตามอยู่ไม่ใช่น้อยและยังรอคำตอบในเรื่องการลดปริมาณแอลกอฮอล์จาก 48% เป็น 40% อยู่เช่นกัน

สัมผัสแรกเมื่อได้ลองดมตัววิสกี้จะมีกลิ่นหอมหวานของผลไม้ซึ่งให้กลิ่นที่กลมกล่อมใช้ได้ มีกลิ่นของแอปเปิล ผลเบอร์รี่หลากหลายชนิด ลูกแพร ลูกเกดสีทอง คาราเมล กลิ่นหอมของเครื่องเทศต่างๆเช่นกลิ่นของขิง กลิ่นหอมอมเปรี้ยวของผลส้ม ตัวสีสันของวิสกี้จะมีสีทองคล้ายสีของน้ำแอบเปิลอย่างดี

เมื่อได้ลองจิบแล้วในช่วงเริ่มต้นจะรู้สึกได้ถึงรสหวานที่มีรสชาติคล้ายลูกกวาดและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลและเบาบางราวกับเนื้อครีมสด รวมทั้งยังมีกลิ่นของข้าวมอลต์และคาราเมล ช็อกโกแลตนม และความสดชื่นที่ได้จากผลส้ม ในช่วงกลางของรสชาตินั้นจะสัมผัสได้ถึงความร้อนของพริกไทยกลิ่นของแก่นไม้ที่มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อยราวกับกลิ่นคล้ายการฟอกหนัง แต่ช่วงนี้จะรู้สึกได้ว่าค่อนข้างให้รสที่มีความฉุนรุนแรงด้วยเช่นเดียวกัน แต่ยังมีความหวานควบคู่ไปอยู่ และรสชาติวนกลับมาที่ความหวานของส้มอีกครั้ง ในช่วงจบรสชาติจะมีกลิ่นของธัญพืช กลิ่นของพริกไทย และกลิ่นคล้ายหญ้าสีเขียวคู่กันไปกับกลิ่นหอมหวานของทอฟฟี่ที่ผสานกันกับกลิ่นหอมหวานของข้าวบาร์เลย์และกลิ่นเครื่องเทศที่ได้จากไม้โอ๊กอีกด้วย

ภาพรวมของวิสกี้ตัวนี้ ใครที่นิยมชมชอบ “เหล้าเก่าในขวดใหม่” รสชาติจากอดีตที่ยังคงประทับใจ Longmorn Distiller’sChoice น่าจะตอบโจทย์นักดื่มทุกคนได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เพียงแค่นี้ เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่สามารถดึงดูดใจใครหลายคนได้ด้วยกลิ่นและรสสัมผัสที่มีความหลากหลายแต่เข้ากันได้อย่างลงตัว งดงามเป็นอย่างมาก ทั้งส่วนเนื้อสัมผัสที่มีความเบาบางราวกับเนื้อครีมชั้นดีที่ผสานตัวกับรสชาติและกลิ่นที่มีการผสมผสานกันระหว่างความหวาน ความเผ็ดร้อน ความฉุนและความเปรี้ยวกันได้อย่างลงตัวอีกด้วย

Longmorn Distiller Choice

Longmorn Distiller Choice

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Firkin 49

Firkin 49

Firkin 49  นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชื่อดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งทั่วโลก โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่มีอายุการหมักบ่มร่วมราว 8 ปีกว่าด้วยกันในถังไม้เชอร์รี่ทั้งหมดสองชนิดคือ Oloroso และ Amontillado จากโรงกลั่นTullibardine ในปี 2011 แต่วิสกี้ตัวนี้เริ่มผลิตในปี 2012ในเขต Highlands ของประเทศสกอตแลนด์ ตัวเลข 49 นั้นมาจากปีที่เกิดของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Firkin Whisky Co. นั่นเอง ซึ่งเป็นแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังที่มีการก่อตั้งขึ้นมาในปี 1949

ด้วยระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะอยู่ที่ 48.9% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร เป็นวิสกี้ที่ไม่ผ่านกระบวนการกลั่นเย็นจึงให้สีน้ำตาลทองแบบธรรมชาติ ตามที่คุณ Mike Collings ผู้รังสรรค์วิสกี้ตัวนี้ตั้งใจเอาไว้ ถือว่าเป็นวิสกี้ที่โดดเด่นด้วยกรรมวิธีการพักวิสกี้เอาไว้ในถังไม้ทั้งสองแบบดังที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นจึงให้คุณลักษณะที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

เนื่องจากมีการใช้ทั้งไม้สองชนิดในการหมักเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ จึงทำให้ได้รสชาติที่มีความนุ่มนวลในเนื้อสัมผัสราวกับเนื้อครีมที่กลมกล่อมหอมแบบถั่วและผลไม้แห้งผสมกัน แน่นอนที่จะมีกลิ่นโดดเด่นของไม้เชอรี่โดดเด้งออกมาเมื่อได้สัมผัสกับกลิ่นของวิสกี้ในครั้งแรก ตามด้วย รสชาติในแบบที่เราได้จากขนมแครกเกอร์ มีความกลมกล่อมเหมือนกับทอฟฟี่ บัตเตอร์สกอตซ์ และยังมีกลิ่นที่หอมหวานของลูกพีช น้ำตาลทรายแดง ความหอมหวานของข้าวมอลต์ เมื่อลองจิบจะรู้สึกได้ถึงความพอดีของกลิ่นอบเชยและกลิ่นที่หอมหวานทิ้งไว้ให้เรารู้สึกได้ในระยะเวลาหนึ่งทีเดียว ถือว่ามีความซับซ้อนในกลิ่นและรสชาติ ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นที่มีกลิ่นและรสชาติที่ชวนให้น่าติดตามและเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก ด้วยกลิ่นของเหล้าวิสกี้ที่เต็มไปด้วยความเบาบางและนุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติราวกับเนื้อครีมบวกกันกับรสชาติของเหล้าชนิดนี้ที่มีความหอมหวานและรสสัมผัสของผลไม้หลากหลายชนิด เช่น ลูกพีชที่ผสานกันกับน้ำตาลทรายแดงและข้าวมอลต์อย่างลงตัวอย่างมาก

Firkin 49

Firkin 49

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Beaune Du Chateau Premier Cru

Beaune Du Chateau Premier Cru

Beaune Du Chateau Premier Cru นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการผลิตขึ้นมาตั้งแต่สมัยยุคก่อตั้งในปี 1731 Bouchard Père et Fils ได้มีแนวคิดในการสร้างไวน์ที่ดีที่สุดและสมบูรณ์แบบที่สุดให้ออกมาในท้องตลาด ด้วยความเป็นมืออาชีพและใส่ใจในทุกขั้นตอนกระบวนการผลิต ทำให้ทางบริษัทเองไม่เคยหยุดที่จะเลือกหาเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่เหมาะสม มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต และยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ในระดับสูงด้วยแนวคิดที่ว่า การทำไวน์คืองานของยอดฝีมือที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์

ไวน์ Beauno Du Chateau Premier Cru เป็นไวน์แดงที่ถูกผลิตขึ้นในภูมิภาค Bourgogne ของประเทศฝรั่งเศส โดยบริษัท Bouchard Pere & Fils ไวน์ ตัวนี้เป็นไวน์ 1ใน 154 ชนิดที่ทางบริษัทได้ผลิตออกมาเพื่อวางจำหน่ายในท้องตลาด ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการชิมไวน์นี้อยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส บรรจุขวดปริมาตร 750 มิลลิลิตร ใช้องุ่นพันธุ์ Pinot Noir ในการผลิต เป็นไวน์สไตล์ Burgundy Cote de Beaune Red ใส่วัตถุกันเสียเพื่อรักษาสภาพของไวน์ สีไวแดงของตัวนี้จะเป็นสีแดงทับทิมเป็นรัศมีล้อมรอบ วนเข้ามาและมีการเคลือบเงาของผิวสัมผัสด้วยสีแดงเลือดหมู

รสชาติโดยรวมของไวน์ตัวนี้ ความรู้สึกเมื่อตัวไวน์สัมผัสกับเพดานปาก จะให้รสชาติที่ค่อนข้างนุ่มละมุนและมีความแห้งในเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างมาก ความเปรี้ยวจากกรดน้ำส้มก็ค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน โครงสร้างโดยรวมของตัวไวน์ค่อนข้างหนาแน่นไปด้วยมวลอณูของแอลกอฮอล์ มีรสชาติของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น เชอร์รี่ สตอเบอรี่ ตัวเบอร์รี่ที่มีสีแดง มากถึง 511 ชนิด รสชาติแบบเอิร์ธโทนที่ต่างกัน 374 ชนิด กลิ่งรถแบบเดียวกับไม้โอ๊ค 337 ชนิด กลิ่นหอมหวานของผลไม้ที่มีสีดำสีเข้มมากถึง 93 ชนิด กลิ่นของเครื่องเทศต่างๆ 89 ชนิด กลิ่นของผลไม้ตระกูลผลส้ม 48 ชนิด กลิ่นของชีสและครีม 38 ชนิด กลิ่นของผลไม้ยืนต้นตระกูแอปเปิล 31 ชนิด กลิ่นของการหมักที่อาศัยระยะเวลาของไวน์แบบเดียวกับขนมปัง ถั่วอัลมอนด์และถั่วอื่นๆมากถึง 28 ชนิด นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ 25 ชนิด  กลิ่นของพืชพันธ์ใบเขียว 19 ชนิด กลิ่นแบบผลไม้แห้ง 13 ชนิด กลิ่นผลไม้เมืองร้อน 8 ชนิด

ไวน์ตัวนี้เหมาะกับการจับคู่กับเมนูอาหารต่างๆที่ทำจาก เนื้อวัว เนื้อลูกวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู เนื้อกวางและ สัตว์ปีก เมนูแบบพาสต้าหรือรีซ็อตโต้ ก็เข้ากัน ชีส Camemberts ก็เข้ากันดี ซึ่งการรับประทานอาหารเหล่านี้ควบคู่กับไวน์ชนิดนี้จะยิ่งทำให้รสชาติและกลิ่นสัมผัสของไวน์มีความหอมหวานและมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นกว่าการรับประทานเพียงแค่ตัวไวน์อย่างเดียว

Beaune Du Chateau Premier Cru

Beaune Du Chateau Premier Cru

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Prometheus 26 Years Old

Prometheus 26 Years Old

Prometheus 26 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ไม่ว่าคุณจะเคยได้ยินชื่อ Prometheus มาจากหนังเอเลี่ยนของผู้กำกับชื่อดังอย่าง Ridley Scott หรือชื่อของเทพเจ้ากรีกโบราณ เทพผู้ซึ่งขัดใจมหาเทพซุส ขโมยเปลวไฟจากเทือกเขาโอลิมปัสมามอบให้กับมวลมนุษย์ ตามแบบที่เราได้ยินได้ฟังกันมา แต่นี่ คือ Prometheus ที่เราจะนำเสนอคุณทุกคน

Prometheus 26 Years Old Speyside Single Malt Scotch Whisky Cache 1 เป็นความพยายามร่วมกันของ Bespoke Spirits และ Glasgow Distillery Co. เป็นไอเดียของ CEO Liam Hughes จาก Glasgow ได้รับโอกาสให้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้แรงบันดาลใจจาก วัตถุดิบในท้องถิ่นของแถบ Speyside เป็นวิสกี้ที่รวมเอากลิ่นของถ่านไม้บาร์เลย์รมควัน กลิ่นสดชื่นของผิวส้มและดอกไม้เข้าไว้ด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ วิสกี้ที่หน้าอัศจรรย์ใจตัวนี้นี่เอง เป็นการเกิดใหม่อีกครั้งของซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้ตัวนี้อย่างแท้จริง ด้วยระยะเวลาการผลิต 26 ปี และพักไว้ในถังไม้เชอรี่ที่เป็นงานทำมืออีกด้วย เริ่มผลิตเมื่อปี 1988 และประกอบไปด้วยระดับแอลกอฮอล์ 47% ปริมาณ 750 มิลลิลิตร

เมื่อลองดมดูจะได้กลิ่นแรกของวิสกี้เหมือนกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยความหอมหวานของ บัตเตอร์สกอตซ์ ตามด้วยกลิ่นแบบอ่อนๆที่ผสานกันกลิ่นความสดชื่นของผิวส้มและกลิ่นถ่านไม้รมควัน กลิ่นอื่นที่ตามมาจะเป็นกลิ่นของผงโกโก้ กลิ่นข้าวบาร์เลย์ ข้าวมอลต์ แอปเปิลเขียว ผลราสเบอร์รี่สีแดง กลิ่นหอมของดอกกุหลาบอบแห้ง กลิ่นไม้สนที่ตัดใหม่ใหม่

จากการจิบครั้งแรกบอกได้ว่า จะมีความนุ่มนวลในเนื้อสัมผัสราวกับเนื้อครีมชั้นเยี่ยมผสานกันกับความเผ็ดร้อนแบบที่ได้จากพริกไทยแลพกลิ่นถั่วที่เพิ่งผ่านการคั่วใหม่ๆ รสชาติของลูกจันทน์เทศ ความหอมของกานพลู ผสมปนเปอยู่ ตัวจบรสชาติคือรสของดาร์กช็อกโกแลต ฟรุตเค้กฉ่ำๆ ได้รสสัมผัสความหวานแบบที่ได้จากน้ำผึ้งป่ากลิ่นแบบลูกกวาดผลไม้และหอมอุ่นด้วยกลิ่นของการรมควันที่อบอวล

หากจะกล่าวว่าเป็นรสชาติที่แสดงออกถึงความโอ่อ่าหรูหราก็คงดูจะไม่เกินจริงเท่าไหร่นัก นั่นเป็นเพราะกลิ่นทำให้จินตนาการถึงภาพของถังไม้เชอรี่สลับกันไปมากับกลิ่นของถังไม้ที่เคยใช้หมักเหล้าเบอร์บอนมาก่อน กลิ่นหอมของผลไม้ดอกไม้ทำให้รู้สึกเร้าใจยิ่งขึ้นในการจิบครั้งต่อไป นับว่าเป็นวิสกี้ที่ดีสำหรับการดื่มคู่ไปกับการทานชีสดีๆและผลแอปเปิลฝานบางๆ  ครั้นพอได้กลืนวิสกี้ลงไปแล้วก็ยังรู้สึกถึงความอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วลำคอในห้วงระยะเวลาหนึ่ง นานพอที่จะทำให้คุณได้เห็นสีแดงของเชอรี่วิ่งไล่ตามต่อมรับรสของคุณอยู่ก็เป็นได้

บทสรุปของ Prometheus ขวดนี้คือ เป็นวิสกี้ชั้นดีที่คุณจะสรรหามาเพื่อการดื่มหรือจะเก็บไว้ในรูปแบบของการลงทุนล้วนๆ ก็แล้วแต่คุณ ด้วยเหล้าวิสกี้ระดับนี้ คุณภาพดีแบบนี้เหมาะกับการสังสรรค์มากกว่าเก็บไว้นิ่งนิ่งแน่นอน มันถูกผลิตออกมาเพียง 1000 ขวด ทั่วโลกเท่านั้น หวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้คุณรู้สึกเร้าใจขึ้นมาอีกสักหน่อย

Prometheus 26 Years Old

Prometheus 26 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Benriach 22 Years Old Peated

Benriach 22 Years Old Peated

Benriach 22 Years Old Peated นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้อีกชนิดหนึ่งในกลุ่มเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้จากเมือง Speyside ประเทศสกอตแลนด์ โดยเหล้าวิสกี้อายุ 22 ปีนี้ได้ถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาจากโรงกลั่น BenRiach Distillery เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกพักเอาไว้ในถังไม้บาร์เรลที่ใช้ทำเหล้ารัมสไตล์จาเมก้า ที่เรียกว่า Dunder และขั้นตอนสุดท้ายจะถูกพักไว้ในถังไม้อเมริกันโอ๊กเพื่อให้มีอายุที่เหมาะสมต่อการดื่มจึงจะถูกบรรจุลงขวด โดยเหล้าชนิดนี้มีความจุอยู่ที่ 700 มิลลิลิตร  และมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 46%

เหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะมีการใช้กระบวนการผลิตด้วยเทคนิคที่มีชื่อว่า Dunder ซึ่งกระบวนการผลิตนี้คือกระบวนการนำกากอ้อย(ชานอ้อย) ที่เหลือจากการคั้นเอาน้ำอ้อยหมดแล้วนำมาพักไว้ รวมกับน้ำอ้อยที่ได้หลังกระบวนการกลั่นเหล้ารัม ซึ่งเป็นกรรมวิธีดั้งเดิมของชาวจาเมก้า ที่จะใช้กากอ้อยเหล่านี้เป็นแหล่งที่มาของยีสต์ในกระบวนการหมักเหล้ารัม ซึ่งจะให้กลิ่นและรสชาติแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ผ่านกระบวนการกลั่นเย็นและให้สีสันสวยงามตามธรรมชาติของเหล้าตัวนี้ และเติมกลิ่นของถ่านไม้เข้าไปเพื่อให้เกิดความหอมอบอุ่น

ต่อมาในส่วนของกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นั้น ในกลิ่นแรกที่คุณจะสัมผัสได้เป็นกลิ่นหอมของข้าวบาร์เลย์และกลิ่นถ่านไม้ ผสมกับกลิ่นที่เรียกว่ากลิ่นเอิร์ธโทน ตามด้วยกลิ่นของขนมนบานอฟฟี่ ธัญพืช กลิ่นหอมหวานของขิงอ่อนซึ่งจะคลุ้งอยู่ในจมูกจนรู้สึกได้  สัมผัสแรกของการจิบเมื่อตัววิสกี้ได้ผ่านเข้าไปในเพดานปาก จะรู้สึกได้ถึงกลิ่นของสับปะรดย่างที่อยู่บนเตาบาร์บีคิวและกลิ่นแอพริคอตตากแห้ง ประสานกันกับกลิ่นคาราเมลที่ราดบนขนมปังผสมกับขนมมาร์ซิแพนรสวานิลลาบวกกับกลิ่นเครื่องเทศ ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมของแก่นไม้แห้งและกลิ่นของหญ้าแห้งที่ผสานกันและผ่านการรมควันที่ค่อยๆปรากฏออกมาอย่างช้าๆในช่วงหลัง ซึ่งรสชาติสุดท้ายที่ปรากฏออกมาหลังจากที่เหล้าวิสกี้ได้ผ่านลงไปจนหมดแล้วจะได้กลิ่นของชานอ้อยออกมาทีละนิดทีละหน่อยตามด้วยความหวานในแบบที่ได้จากน้ำตาลทรายแดงและมีกลิ่นหอมของมะพร้าวปรากฎออกมาจางจางในกลิ่นสุดท้ายที่เริ่มทยอยและค่อยๆจางไปด้วยเช่นกัน

Benriach 22 Years Old Peated

Benriach 22 Years Old Peated

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glencadam Single Cask 1998

Glencadam Single Cask 1998

Glencadam Single Cask 1998 นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความนิยมเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือเหล้าซิงเกิลมอลล์ที่ผลิตจากโรงกลั่น Glencadam Highlands ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งปกติจะเป็นที่รู้จักกันว่านี่คือ ข้าวบาร์เลย์แท้ 100 หรือ ซิงเกิลมอลต์ที่มีลักษณะภายนอกที่เต็มไปด้วยความหวานและเบาบางที่ช่วยส่งให้รสชาติมีความเข้มข้นลงตัวระหว่างกลิ่นของเครื่องเทศแบบพริกไทยและความหอมหวานของผลไม้แห้งแบบลูกเกด ระดับแอลกอฮอล์อยู่ที่ 54.2% ขนาดบรรจุ 700 มิลลิลิตร เริ่มกลั่นครั้งแรกเมื่อปี 1998 ถังเลขที่ PX1

เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ให้สีสันตามธรรมชาติคือสีน้ำตาลทองอ่อนๆ เพราะไม่ตกแต่งสีและไม่ผ่านการกรองเย็น (Chill-Filtration) ในแบบปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักดื่มที่เป็นแฟนตัวยงในการหมักบ่มกับถังไม้เชอรี่แบบดั้งเดิม ใช้เวลาหมักบ่มในถังไม้เชอรี่เปโดรซิเมเนสต์ (Pedro Ximenez Sherry Butt) ที่ 19 ปี

ต่อมาในส่วนของกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ กลิ่นแรกที่สัมผัสได้จะมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับ Glendacam แบบอื่น เช่นตัว 7ปี 14 ปี เป็นต้น มีกลิ่นของถังไม้เชอรี่เครื่องเทศแบบพอดีพอดีเช่นพริกไทดำ อบเชย ถั่ววอลนัท น้ำผึ้ง ผลไม้แห้ง ลูกเกดไร้เมล็ด (Sultana) สัมผัสแรกในรสชาตินั้น จะมีรสชาติที่ผนวกความหอมของเครื่องเทศต่างๆ หลักๆเป็นกลิ่นแบบพริกไทยและความหวานของลูกเกดผสมกับความหอมของไม้เชอรี่ ช็อกโกแลตและผลไม้แห้งต่างๆ

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติความหวานและกลิ่นหอมของเครื่องเทศ อบอวลอยู่ในปากเป็นเวลานานใช้ได้ มากพอที่จะสัมผัสได้ถึง กลิ่นเครื่องเทศนานาชนิดที่ถูกเติมเข้าไปตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ถือว่าเป็นวิสกี้อีกตัวหนึ่งที่มีคุณลักษณะที่มีความซับซ้อนและรสชาติที่ลุ่มลึกพอตัว คุ้มค่ากับการหามาลิ้มลองสักครั้ง

Glencadam Single Cask 1998

Glencadam Single Cask 1998

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Aberlour Triple Casks

Aberlour Triple Casks

Aberlour Triple Casks นับได้ว่าเป็นเหล้าซิงเกิลมอลต์ ในถังหมักบ่มสามรอบ ถังเบอร์เบิ้นอเมริกันโอ้คสองชนิด และถังโอ๊กผสานกันกับไม้เชอร์รี่สายพันธุ์ยุโรปชั้นเยี่ยม นับเป็นอีก นวัตกรรมจาก Aberlour ที่แสดงให้เห็นถึงความลงตัวของรสชาติที่ซับซ้อนและสมดุล อย่างลงตัว ปริมาณแอลกอฮอล์ 40.0% vol ขนาด 700ml มาจากโรงกลั่น Aberlour เมืองเล็กๆในเขต Strathpey ย่าน Speyside ซึ่งเป็นย่านผลิตวิสกี้ของประเทศสกอตแลนด์  ในส่วนของโรงกลั่น Aberlour นั้น ผลิตวิสกี้อายุหมักบ่ม 10 ถึง 18 ปีเป็นหลัก Aberlour Triple Cask สามารถหาได้ทั่วไปในภาคพื้นยุโรป ถือว่าหาได้ง่ายและราคาจับต้องได้

ภาพรวมของกลิ่นและรสชาติให้กลิ่นหอมของบิสกิต คัสตาร์ด ครีม วานิลลา ลูกแพร ทอฟฟี่ กลิ่นของกาแฟ นม และกลิ่นสตรอเบอรี่จางๆตามมา เมื่อตัววิสกี้ได้สัมผัสกับเพดานปากจะได้รสชาติของน้ำชานำมามากกว่ารสชาติของคัสตาร์ด ครีมและกาแฟ เจือด้วยความหอมหวานของส้ม แอปเปิลแดง แอปเปิลเขียว ช็อกโกแลต ลูกเกดและถั่วอัลมอนด์คั่วแห้ง ให้ความรู้สึกที่อ่อนนุ่มและไม่บาดคอความขมที่ได้จากถังไม้ที่หมักบ่มให้ความรู้สึกที่ไม่ขมมากจนเกินไปซึ่งเป็นคุณลักษณะของถังไม้สไตล์ยุโรป รสชาติยังคงค้างอยู่ในปากเป็นเวลานานพอสมควร ให้ความนุ่มนวลและค่อยเบาบางลงเมื่อได้กลืนลงไปจนหมด จบด้วยสัมผัสของเครื่องเทศแบบพริกไทยดำที่ถูกเจือไว้อีกชั้นหนึ่งโดยรสของน้ำผึ้ง เมื่อกลืนลงไปแล้วจะถูกปิดท้ายด้วยกลิ่นความหอมของผลไม้แห้งและเนยถั่ว

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจแก่คนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักดื่มที่เป็นคอเหล้าวิสกี้จะยิ่งหลงใหลในเหล้าชนิดนี้ ไม่ใช่เพียงกระบวนการผลิตของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ที่สามารถดึงดูดความสนใจได้ แต่ว่ากลิ่นและรสชาติ รวมถึงลักษณะภายนอกอื่นๆก็บวนให้น่าประทับใจเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่ค่อนข้างหลากหลายไปด้วยขนมบิสกิต คัสตาร์ด ความนุ่มของครีมและความหวานของวานิลลาที่ผสานกันกับลูกแพรสดและถั่วอัลมอนด์คั่วแห้งอย่างดี

Aberlour Triple Casks

Aberlour Triple Casks

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Royal Lochnagar Selected Reserved

Royal Lochnagar Selected Reserved

Royal Lochnagar Selected Reserved นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้จากประเทศสกอตแลนด์ในแบบที่คัดสรรมาเฉพาะเพื่อคุณเพราะนี่คือหนึ่งใน 3000 ขวดที่เรียงตัวเลขบนขวดมาเรียบร้อยแล้วความนุ่มลึกที่ถูกบ่มในถังไม้เชอรี่ เหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่ปีคริสตศักราช 1846 เมื่อ John Begg เจ้าของโรงกลั่นได้ตัดสินใจเชื้อเชิญให้เพื่อนบ้านของเขาที่อยู่รอบบริเวณนั้นรวมไปถึงพระนางVictoria และ เจ้าชาย Albert มาลิ้มลองรสชาติใหม่ที่เขาได้กลั่นเองที่นี่ บรรดาแขกเหรื่อที่มาก็ล้วนชอบอกชอบใจเป็นอย่างมาก จนหลังจากนั้นไม่กี่เดือนทางโรงกลั่นของ John Begg ก็ได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ (Royal Warrant) จากทางราชวงศ์ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากในช่วงศตวรรษที่ 18 แนะนำว่านี่คือเหล้าที่ควรแนะนำให้เพื่อน หรือเพื่อนของเพื่อนได้เลือกซื้อ Royal Lochnagar Selected Reserved มีระดับความแรงของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 43% อย่างแน่นอน

Royal Lochnagar selected Reserved เป็นเหล้า single malt ที่มาจาก Highlands ในประเทศสกอตแลนด์ ตัววิสกี้เองนั้นมีสีออกไปทางน้ำตาลไหม้หรือจะบอกว่าเป็นสีน้ำผึ้งเหลือบทองก็ไม่ผิด จุดแข็งของเหล้าตัวนี้ที่ชัดเจนที่สุดคือ รสชาติของแครนเบอรี่ ผลเคอแรนท์สีดำที่นับได้ว่าเป็นสุดยอดของผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่และลูกเกด มีความหรูหราด้วยกลิ่นแบบที่ได้กลิ่นในเครื่องหนังขัดเงา สลับไปมากับกลิ่นของน้ำตาลอ้อย Demerara (น้ำตาลที่ได้จากการรีดอ้อยครั้งแรกและระเหยเอาน้ำออกไปจนหมด) กลิ่นของผิวส้ม (Ornage Zest) รวมไปถึงรสชาตเครื่องเทศแบบอบเชยและจันทน์เทศเจือคละคลุ้งอยู่ในเหล้าแบบกลมกล่อมกลมกลืน เมื่อลองชิม สิ่งที่เหลืออยู่ในปากจะเป็นความขมปลายบางๆซึ่งช่วยเปิดต่อมรับรสของเราอย่างต่อเนื่องและกลิ่นของเชอรี่ก็ยังอบอวลอยู่ในช่วงสั้นๆ มีความหวานเหลือทิ้งไว้

เมื่อลองดมดูกลิ่นแรกที่ได้รับคือกลิ่นของส้ม สับปะรด กล้วย และกลิ่นบางๆคล้ายกลิ่นของกานพลูเจืออยู่เล็กน้อย ตามด้วยกลิ่นเปลือกอัลมอนด์เคล้ามากับกลิ่นหอมหวานในแบบที่ได้จากรวงผึ้งหรือน้ำเชื่อม มีความหวานอบอวลของน้ำตาลข้าวบาร์เลย์ผสมมาด้วยกลิ่นหวานแบบคาราเมลที่เจือด้วยกลิ่นของพริกไทดำ กลิ่นของโมคาทีนและกลิ่นกาแฟลาเต้ที่ให้ความรู้สึกเยี่ยมยอดในชั่วขณะหนึ่งที่สัมผัส อีกหนึ่งกลิ่นที่คิดว่าแน่ใจได้ว่ามีสิ่งนี้อยู่ก็คือ กลิ่นของหัวบีตรูทนั่นเอง

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดถือว่าเป็นเหล้าซิงเกิลมอลล์ที่มีคุณลักษณะเด่นชัดแต่ก็ไม่หนักจนรู้สึกว่ารสชาติบาดคอจนเกินไปในแบบปกติของเหล้าที่อยู่ในถังเชอรี่ ถือว่าเป็นเหล้าที่ทำออกมาได้ดีและสร้างสรรค์ รักษาสมดุลของรสชาติได้ดี ราคาอาจจะสูงไปสักนิดแต่ก็ยังจับต้องได้ มั่นใจได้ว่าเป็นวิสกี้ที่คุ้มค่าที่จะหามาลิ้มลองสักครั้ง

Royal Lochnagar Selected Reserved

Royal Lochnagar Selected Reserved

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac

Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac

            Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีความนิยมที่ค่อนข้างสูงมาก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์และการถูกผลิตขึ้นมาภายใต้ชื่อแบรนด์อย่าง Chateau Haut-Bages Liberal ซึ่งเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนในการผลิตไวน์และส่งออกไวน์ชื่อดังอย่าง Pauillac ซึ่งเป็นบริเวณตรงกลางระหว่างบริเวณ Saint Estephe และบริเวณ Saint Julien ในเขตเมือง Medoc ของเขตการปกครอง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก โดยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการเลือกสรรสายพันธุ์องุ่นยอดนิยมเพียงแค่สองสายพันธุ์เท่านั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot 30% และองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 70% ด้วยกัน ซึ่งองุ่นที่นำมาใช้นั้นจะต้องเป็นองุ่นที่ผ่านการเพาะปลูกในสวนและไร่องุ่นของตัวเองเท่านั้น ซึ่งองุ่นทั้งหมดนั้นจะถูกไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่ประมาณ 40% เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 15-18 เดือนด้วยกัน โดยอายุของไวน์นั้นจะมีอายุอย่างยาวนานมากถึง 35 ปีด้วยกัน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่น สีเนื้อสัมผัส และรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยเริ่มแรกจากไวน์ชนิดนี้จะเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่ค่อนข้างใสสว่าง เป็นสีแดงเข้มราวกับสีแดงทับทิมใส นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อ มีรสชาติที่ดี มีทั้งความเบาบาง นุ่มนวล และแห้งในเนื้อไวน์อย่างชัดเจน เป็นรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างหวานราวกับรสชาติของน้ำผลไม้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊กที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างดี รวมทั้งยังมีความเปรี้ยวราวกับกรดของสารแทนนินอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมอย่างดียิ่ง เป็นไวน์ที่ค่อนข้างมีความเต็มน้ำเต็มเนื้อ และมีเอกลักษณ์จากผลไม้สีแดงหลากหลายชนิดที่ผสานกันกับกลิ่นและรสชาติของต้นโอ๊กอย่างดี ซึ่งนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เหมาะกับการรับประทานควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12.5-14% อีกด้วยเช่นกัน

Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac

Chateau Haut-Bages Liberal Pauillac

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau de Pez Saint Estephe

Chateau de Pez Saint Estephe

            Chateau de Pez Saint Estephe นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์อีกขวดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยแบรนด์ไวน์ที่ได้มีการสร้างสรรค์และผลิตไวน์ชนิดนี้ขึ้นมา ได้แก่ แบรนด์ไวน์ Chateau de Pez ซึ่งนับได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการสร้างแหล่งเพาะปลูกหรือไร่องุ่นของตัวเอง รวมทั้งยังมีพื้นที่ของคฤหาสน์เก่าแก่ที่นำมาใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์ยอดนิยมและเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ย่านชุมชนที่ถือว่ามีชื่อเสียงในระดับหนึ่งการผลิตไวน์อย่าง Saint Estephe ที่อยู่ในเมือง Medoc ที่อยู่บริเวณใกล้ใจกลางของเขตการปกครองดังอย่าง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส

            โดยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่พอสมควร เนื่องด้วยทางผู้ผลิตนั้นได้มีการนำองุ่นมาใช้มากถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกัน รวมทั้งอัตราส่วนและปริมาณในการใช้ผลิตในแต่ละปีก็มีความแตกต่างกันอีกด้วย โดยสายพันธุ์องุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรมาใช้ในการผลิตในครั้งนี้ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Merlot, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot โดยองุ่นทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ทางผู้ผลิตนั้นจะนำองุ่นทั้งหมดนั้นจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์ฝรั่งเศสใบใหม่ประมาณ 40% เป็นเวลายาวนานกว่า 15 เดือน และไวน์ชนิดนี้กลับมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือไวน์ชนิดนี้มีการผลิตเพียงแค่จำนวน 18,500 ขวดต่อปีเท่านั้น ซึ่งนับว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับไวน์ชนิดอื่นๆมาก

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะและรูปร่างภายนอกที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งและมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ เริ่มแรกจากไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเป็นสีแดงเข้มสมกันกับเป็นไวน์แดงชั้นดี นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่ถือว่าได้ว่ามีความพิเศษ เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นจากดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้สีดำหลากหลายชนิดด้วยกัน ที่ผสานกันกับกลิ่นดิน กลิ่นซิการ์ และกลิ่นเครื่องเทศที่มีกลิ่นและรสชาติที่ไม่ค่อยรุนแรงมากเท่าไหร่นัก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อและมีความเข้มข้นของเครื่องเทศ ผลเคอร์แรนและกาแฟเอสเปรสโซ่อีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมเป็นอย่างดียิ่งอีกด้วย รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นด้วยหลากหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและรสชาติของดอกไม้ ผลไม้สีดำ ซิการ์ เครื่องเทศ กาแฟเอสเปรสโซ่และผลเคอร์แรน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์ชนิดนี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง และเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่และเนื้อเป็ด นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 12-14.3% เพียงเท่านั้น

Chateau de Pez Saint Estephe

Chateau de Pez Saint Estephe

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!