Oban 21 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบทวีปยุโรปอย่าง Oban ซึ่งแบรนด์เหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นแบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีโรงกลั่นเหล้าวิสกี้เป็นของตัวเองและมีอายุในการก่อตั้งยาวนานและเก่าแก่มากที่สุดในประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งแบรนด์เหล้าชนิดนี้จะมีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ใจกลางเมือง Coastal Town ที่มีชื่อเดียวกันกับเขตชุมชน Highlands ตะวันตกของประเทศสกอตแลนด์
Château Malartic Lagravière Grand Cru Classé ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาและถูกผลิตขึ้นมาถายใต้แบรนด์ไวน์ที่มีความนิยมเป็นอย่างยิ่งในแถบทวีปยุโรปอย่าง Château Malartic Lagravière ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมือง Pessac-Leognan ที่เป็นแหล่งใหญ่มากในการส่งออกและการผลิตไวน์แดงที่อยู่ในเมือง Bordeaux ซึ่งเป้นเมืองที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำเทคนิคที่เก่าแก่อย่างเทคนิคการผลิตไวน์แดงอย่างGrand Cru Classé หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Cru Classe de Graves ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการผลิตไวน์ขาวเป็นสำคัญ แต่ว่าทางผู้ผลิตได้มีการนำมาปรับเปลี่ยนและประยุกต์ใช้จากเทคนิคที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงปี 1959 จนถึงเวลาปัจจุบัน โดยทางผู้ผลิตได้มีการนำองุ่นมาใช้ในการผลิตไวน์ชนิดนี้มาถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกัน โดยอัตราส่วนในการผลิตไวน์ในครั้งนี้จะมีความแตกต่างกันตามช่วงปีที่มีการผลิตที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันไป ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่ทางผู้ผลิตนั้นได้เลือกสรรมานั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Merlot, Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc และองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot ซึ่งองุ่นทั้งหมดนั้นจะถูกเก็บเกี่ยวในเวลาที่ค่อนข้างห่างกัน โดยเริ่มต้นจากองุ่นสายพันธุ์ Merlot จะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงกลางเดือนจนถึงปลายเดือนกันยายน และองุ่นที่เหลือนั้นจะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงตลอดทั้งเดือนตุลาคมเท่านั้น เพื่อให้ได้องุ่นสายพันธุ์ที่มีคุณภาพมากที่สุด และองุ่นทั้งหมดที่ผ่านการเลือกสรรอย่างดีแล้ว จะถูกนำไปบ่มลงในถังไม้สแตนเลสเป็นระยะเวลา 21-23 วัน หลังจากนั้นก็จะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 18 เดือนด้วยกัน
Virginie de Valandraud Saint-Emilion Grand Cru ถูกผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1992 ในฐานะไวน์ลำดับที่สองของ Château de Valandraud โดยชื่อ Virginie de Valandraud นี้นั้นได้ถูกตั้งขึ้นตามชื่อลูกสาวของ Jean–Luc ThunevIn และ Murielle Andraud โดยใช้องุ่นที่ปลูกในไร่เดียวกันและวิธีการผลิตไวน์แบบเดียวกันกับ Château de Valandraud