Islay Violets 33 Years Old

Islay Violets 33 Years Old

Islay Violets 33 Years Old นับได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ในกลุ่มเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้จากแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Elixir Distillers (EID) ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ 46.2% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร อายุการหมักบ่ม 33 ปีในถังไม้อเมริกันโอ๊กและถังคอนแนค (cognac) บรรจุขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2020

ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกกล่าวขวัญถึงว่ามีความพิเศษเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลิ่นของมวลหมู่ดอกไม้ที่เหมือนนำเอาดอกไม้หอมทั้งแปลงมาบรรจุเอาไว้ในขวด และมีกลิ่นหอมของควันไม้เบาบาง กลิ่นของสมุนไพรบางอย่างและสุดท้ายเป็นกลิ่นหอมเบาเบาของน้ำหอม กลิ่นหอมของสมุนไพรเช่น ขมิ้นก็ปรากฏออกมา โดยภาพรวมแล้วนี่คือส่วนผสมของความหอมหวานและความเปรี้ยวในแบบที่เราจะได้จากเจลลีรสส้ม และจะได้กลิ่นคล้ายดอกไม้ผสมกับแยมเมื่อทิ้งช่วงวิสกี้เอาไว้สักพัก

นักชิมบางท่านได้กล่าวไว้ว่าหลังจากที่ได้ถือแก้วเอาไว้ จิบแล้วจิบเล่า ก็ยิ่งทำให้รู้สึกประหลาดใจในรสชาติมากขึ้นในทุกๆการจิบนั้นและยกให้เป็นประสบการณ์ที่หายากยิ่งจากวิสกี้ตัวอื่น จะเริ่มด้วยรสชาติที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้แบบคาร์เนชั่นก็ไม่เชิง จากนั้นก็จะกลายเป็นกลิ่นของผลไม้นานาชนิดที่ถูกเจือเอาไว้ด้วยกลิ่นหอมของการรมควันไม้บางตัว สัมผัสที่อยู่ในช่องปากให้ความรู้สึกที่สบายลิ้นและไม่บาดคอ ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้และไม้ซีดาร์ลอยวนอยู่ในช่วงกลางของการดื่ม ในช่วงปลายของรสชาติจะรู้สึกได้ถึงความหวานความหอมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ความเปรี้ยวและหวานแบบส้ม ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้จบ

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะจบคงรสชาติจะมีกลิ่นเหมือนกลิ่นของโรสแมรี่ รวมกับกลีบดอกไม้สีม่วง กลิ่นอ่อนอ่อนของไม้โอ๊ก และให้สัมผัสแบบกลิ่นองุ่นสุกและแชมเปญ ถือว่าเป็นอันจบรสชาติที่น่าประทับใจในครั้งนี้เป็นอย่างดีอีกด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้คุณค่าเหมาะแก่การแนะนำและบอกต่ออย่างยิ่ง

Islay Violets 33 Years Old

Islay Violets 33 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special นับได้ว่าเป็นเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 43 ปีและมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ 50.4% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร บรรจุขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2018 จากแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Elixir Distillery หมักบ่มในถังไม้เชอร์รี่ (Sherry Butt) ตลอดช่วงอายุของมัน ดูได้จากสีสันคล้ายทับทิมอันสวยงามของตัววิสกี้ ถูกผลิตออกมาจำนวน 313 ขวด

กลิ่นแรกที่โดดเด่นและเตะจมูกเป็นกลิ่นคล้ายกลิ่นของควันดินปืน กลิ่นขมแบบที่ได้จากช็อกโกแลต กลิ่นของเนื้อวัวที่ถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำส้มสายชูดำบัลซามิก มีกลิ่นของสมุนไพรตามมาคู่กันกับกลิ่นของส้มที่ถูกสไลด์ที่ค่อนข้างมีความหนาแบบที่จะนำไปใช้ทำอาหาร กับกลิ่นของเหล้าวิสกี้ที่มีกานพลูกับกระวานผสมอยู่ในนั้น กลิ่นที่คล้ายกลิ่นคงเนื้อผสมกับกลิ่นของเครื่องเทศแบบเดียวที่เรารู้สึกได้กับกลิ่นของซาลามี่และพริกไทยดำ

เมื่อแรกลองจิบจะมีรสชาติของช็อกโกแลตผสมกับกลิ่นผลไม้เปรี้ยวและกลิ่นของเชอร์รี่ค่อนข้างเข้มข้นอยู่บนปลายลิ้นและค้างบนเพดานปากแบบรู้สึกได้ชัดเจน ตามด้วยเปลี่ยนที่เข้มข้นของเอสเปรสโซ่ที่ถูกผสมกับถั่ววอลนัท มีรสเผ็ดร้อนแบบพริกไทยอ่อน ความหวานเจือขมของเปลือกส้มแก่ และความหอมของใบยาสูบ เป็นรสชาติ ความขมที่นุ่มนวลคล้ายกับค็อกเทล Negroni ที่ถูกผสมมาอย่างดี จบด้วยรสชาติแบบผงลูกจันทน์คั่วอ่อน กลิ่นของส้มและกลิ่นของควันซิการ์ที่ค่อนข้างมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาอีกด้วย

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีองค์ประกอบที่งดงามเข้ากันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ที่ลงตัว สมดุล เริ่มต้นเหล้าชนิดนี้มีกลิ่นและรสชาติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยช็อกโกแลตและกานพลู กระวานและเครื่องเทศที่หลากหลายชนิดด้วยกันเป็นอย่างดีอีกด้วยเช่นเดียวกัน

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

Glenallachie 43 Years Old Director’s Special

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Gordon & Macphail Glen Grant 1953

Gordon & Macphail Glen Grant 1953

Gordon & Macphail Glen Grant 1953 เหล้าวิสกี้ชื่อดังที่ถูกส่งตรงมาจากแบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Gordon&Macphail ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Speyside ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร เริ่มผลิตเมื่อปี 1953 บรรจุลงขวดเพื่อจำหน่ายปี 2013 อายุของวิสกี้ราว 58 ปีเป็นเหล้าประเภทซิงเกิลมอลต์วิสกี้ ปริมาณแอลกอฮอล์ 40% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร ทาง G&M ได้อธิบายไว้ว่านี่จะเป็น “เชอร์รี่มอลต์ที่ยิ่งใหญ่และเข้มข้น” อีกตัวหนึ่ง โดยจะมีการผลิตออกมาที่จำนวน 75 ขวดเท่านั้น

กลิ่นแรกที่สัมผัสได้ถึงความเข้มข้นและมีกลิ่นหอมหวานที่ลงตัวพอดิบพอดี ได้กลิ่นหอมหวานของแยมส้มและกลิ่นที่สดชื่นของน้ำส้มคั้น มีกลิ่นหอมๆของลูกเกด และกลิ่นของ Panatela มีลักษณะภายนอกของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ที่ช่วยให้กลิ่นแบบโกโก้เจือปนอยู่กับกลิ่นของวานิลลา ข้าวมอลต์ ตามด้วยกลิ่นของน้ำมันยูคาลิปตัสในตอนท้าย

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะให้รสสัมผัสที่เพดานปากเข้มข้นเมื่อได้ลองจิบครั้งแรก ให้รสหอมหวานของผลไม้และสดชื่นด้วยกลิ่นหอมหวานของน้ำส้มคั้น และกลิ่นแบบผลไม้เมืองร้อน เช่น กล้วย สับปะรด และผลแอปเปิล สัมผัสที่ตามมาคือกลิ่นของใยสาระแหน่และกลิ่นหอมของไม้โอ๊กรมควันอ่อนๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆของเครื่องเทศ เช่น พริกไทย ขิงอ่อนเจืออยู่

ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะรสชาติสุดท้ายที่จบในปากจะทิ้งช่วงค่อนข้างยาวนานพอสมควร มีกลิ่นของไม้โอ๊กและกลิ่นของผลไม้ที่มีความเป็นกรดที่ให้ความเปรี้ยว ซึ่งช่วยให้ความสดชื่นอยู่ด้วย ทิ้งกลิ่นสุดท้ายของส้มเอาไว้ให้รู้สึกสดชื่นเมื่อจบการดื่ม

Gordon & Macphail Glen Grant 1953

Gordon & Macphail Glen Grant 1953

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Gordon & Macphail Mortlach 1954 Private Collection

Gordon & Macphail Mortlach 1954 Private Collection

Gordon & Macphail Mortlach 1954 Private Collection นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ในกลุ่มของเหล้าซิงเกิลมอลต์วิสกี้จากปี 1954 อายุกว่า 65 ปี ผ่านการหมักบ่มด้วยถังไม้เชอร์รี่แบบเติมในครั้งแรก (First Filled Sheery Cask) โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์ 43% ปริมาตรสุทธิ 700 มิลลิลิตร ซึ่งถูกส่งตรงมาจากย่านชุมชนเจ้าของสูตรต้นตำรับเก่าแก่อย่าง Speyside ประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 6 ขวด ซีรีพิเศษจาก Speyside Collection ทั้งหกขวดนี้ได้ถูกกลั่นในช่วงปี 1947 ถึง 1972 และบรรจุลงขวดเมื่อปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40 ถึง 43%  ส่วน Mortlach 1954นี้ ถึงบรรจุขวดเพื่อจำหน่ายในปี 2012

ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะให้กลิ่นหอม แบบขนมหวานในแก้ว กลิ่นของลูกพลัมเคี่ยวและกลิ่นเข้มข้นของแยมส้ม ที่ด้านบนมีกลิ่นของน้ำตาลทรายแดงเจือปนอยู่ กลิ่นของดาร์กช็อกโกแลต ถูกแต้มด้วยกลิ่นของลูกเชอร์รี่แช่อิ่มในน้ำเชื่อม กลิ่นของวานิลลาที่มีกลิ่นของถั่วเฮเซลนัทเจืออยู่บางๆ เมื่อได้ลองจิบ สัมผัสแรก โดนเข้ากับเพดานปาก คือรสชาติของลูกเคอร์แรนสีดำที่สลับกันเป็นชั้นๆกับ Rhubarb (ผักชนิดหนึ่งในตระกูลบีทรูท) ให้ความรู้สึกที่หรูหราดูแพง รสชาติตามมาที่ปลายลิ้น เป็นรสชาติเบาบางของข้าวมอลต์ ช็อกโกแลต ตามด้วยกลิ่นของเม็ดกาแฟคั่วหอมสดชื่น และกลิ่นของเครื่องหนังฟอกที่ซ่อนอยู่

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะถือว่าเป็นการจบรสชาติที่สละสลวยและยังดูอ้อยอิ่งอยู่ในที ยังปรากฏกลิ่นของเครื่องหนังและกลิ่นหอมนุ่มนวลแบบที่ได้จากถั่ว ทยอยออกมา จนกลายเป็นกลิ่นหอมของไม้โอ๊ก เป็นอันจบการชิมวิสกี้ตัวนี้ เป็นวิสกี้อายุเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง หากจะบอกว่าเป็นของสะสมหายากก็ไม่ผิดอะไร

Gordon & Macphail Mortlach 1954 Private Collection

Gordon & Macphail Mortlach 1954 Private Collection

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Port Ellen 40 Years Old 9 Rogue Casks

Port Ellen 40 Years Old 9 Rogue Casks

Port Ellen 40 Years Old 9 Rogue Casks นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชนิดเหล้าซิงเกิลมอลต์สกอตซ์วิสกี้ ขนาด 700 มิลลิลิตรปริมาณแอลกอฮอล์ 50.9% ผลิตปี 1979 บรรจุลงขวดปี 2020 จากโรงกลั่น Port Ellen Distillery ย่านหมู่เกาะ Islay ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเหล้าวิสกี้ที่ตั้งอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ได้มีการผลิตออกมาเพียง 1380 ขวดทั่วโลกเท่านั้น ดังสโลแกนที่แปะอยู่หน้า กล่องบรรจุขวดว่า “ทุกหยดที่ล้ำค่า ถูกผลิตมาจากถังไม้สีแดงชาด (apple red) ทั้งหมด 9 ใบ” ได้แก่ ถัง American Hogshead 4 ใบ และจบขั้นตอนการหมักเพิ่มด้วยถัง European sherry butt อีก 5 ใบซึ่งกินเวลาถึง 40 ปี จนจบกระบวนการก่อนบรรจุลงขวด จัดเป็นวิสกี้ที่อายุมากที่สุดในบรรดาวิสกี้ที่ Port Ellen เคยได้ผลิตออกมาสู่สาธารณะ

เมื่อลองดมดูในครั้งแรกจะมีกลิ่นเหมือนหญ้าเขียวเปียกๆ สดชื่น กลิ่นคล้ายกับสมุนไพรต่างๆ ผสมอยู่ กลิ่นคล้ายเปลือกส้มเขียวหวานไหม้นิดๆ กลิ่นหอมนุ่มนวลของไม้รมควัน กลิ่นครีมคาราเมลกลิ่นคั่วของกาแฟ ขมแต่นุ่มนวล ความหอมมันคล้ายกลิ่นของคาราเมล กลิ่นผลไม้สีแดงแช่อิ่ม

เมื่อแรกได้ลองชิม รสชาติที่สัมผัส เพดานปากก็คือกลิ่นหอมของควันจากกองฟืนอ่อนๆ กลิ่นยาสูบจากกล้องยาสูบ กลิ่นของเครื่องหนัง เครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมของไม้

ในภาพรวมสามารถสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้จะจบลงด้วยรสชาติหอมกลิ่นบางๆของกลิ่นรมควัน ผสมรวมกันกับ กลิ่นของชาอ่อนๆ กลิ่นของน้ำมะนาว กลิ่นสดชื่นของยูคาลิปตัส ถือว่าเป็นการจบรสชาติที่ดีเยี่ยมของวิสกี้ตัวนี้ นักชิมวิสกี้บางท่านถึงกับเอ่ยปากชมว่า “นี่มันยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยชิมมา” กลิ่นของวิสกี้ยังคงอบอวลอยู่เป็นระยะเวลานานพอสมควรหลังจากดื่มจบไป

Port Ellen 40 Years Old 9 Rogue Casks

Port Ellen 40 Years Old 9 Rogue Casks

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Loch Lomond 18 Years Old

Loch Lomond 18 Years Old

            Loch Lomond 18 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ความน่าสนใจและมีความนิยมเป็นอย่างมากในวงการเหล้าวิสกี้ โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Loch Lomond ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างดีในการผลิตเหล้าวิสกี้ขนาดใหญ่ที่สามารถผลิตเหล้าวิสกี้ส่งออกได้เป็นระดับแถวหน้าของโลกเลยก็ว่าได้ โดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นแบรนด์เหล้าที่มีถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนเจ้าของสูตรตำรับการผลิตเหล้าวิสกี้ตั้งแต่อดีตอย่างHighlands ของประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อนไม่มากนัก เนื่องด้วยทางผู้ผลิตนั้นจะทำการเลือกสรรวัตถุดิบหลักที่ถนัดมากที่สุด ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์แท้ 100% ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีเอามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตในครั้งนี้ โดยทางผู้ผลิตจะนำข้าวบาร์เลย์ทั้งหมดมาหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์อเมริกันที่นำไปใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนอย่างดีเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้กลิ่นและรสชาติของเหล้าเข้าถึงเนื้อสัมผัสอย่างดี จนทำให้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 18 ปีด้วยกัน

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีองค์ประกอบภายนอกที่ค่อนข้างดึงดูดและน่าสนใจอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัว เริ่มต้นด้วยสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีเหลืองสวยงามราวกับสีเหลืองทองอำพันอีกด้วย อีกทั้งเหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่ค่อนข้างซ้อนอยู่พอสมควร เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นของเหล้าที่มีกลิ่นของต้นโอ๊กเก่าแก่ ผสานกันกับกลิ่นใบยาสูบที่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิกเก่าแก่ แต่ว่าเหล้าชนิดนี้ยังมีกลิ่นของวานิลลาและผลไม้สีเหลืองหลากหลายชนิดที่มาตัดกลิ่นอายของความคลาสสิกนี้ จนทำให้เหล้าชนิดนี้มีกลิ่นอายของความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนี้ในส่วนของรสสัมผัสของเหล้าที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลและบางเบาอย่างดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วยเช่นกัน มีทั้งรสสัมผัสของเครื่องเทศที่เพิ่มเติมมาจากกลิ่นของเหล้านี้

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความชัดเจนในองค์ประกอบอย่างดี นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีความโดดเด่นทั้งในส่วนของความหวานและความเค็มที่ผสานกันได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแห้งและเผ็ดเล็กน้อยจากต้นโอ๊กอีกด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 46% ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับที่ไม่รุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับเหล้าวิสกี้ทั่วไป

Loch Lomond 18 Years Old

Loch Lomond 18 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Loch Lomond 12 Years Old

Loch Lomond 12 Years Old

            Loch Lomond 12 Years Old นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ความน่าสนใจและมีความนิยมเป็นอย่างมากในวงการเหล้าวิสกี้ โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกสร้างสรรค์และถูกผลิตขึ้นมาภายใต้แบรนด์เหล้าวิสกี้ชื่อดังอย่าง Loch Lomond ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างดีในการผลิตเหล้าวิสกี้ขนาดใหญ่ที่สามารถผลิตเหล้าวิสกี้ส่งออกได้เป็นระดับแถวหน้าของโลกเลยก็ว่าได้ โดยแบรนด์เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นแบรนด์เหล้าที่มีถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนเจ้าของสูตรตำรับการผลิตเหล้าวิสกี้ตั้งแต่อดีตอย่างHighlands ของประเทศสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างละเอียดและมีความซับซ้อนไม่มากนัก เนื่องด้วยทางผู้ผลิตนั้นจะทำการเลือกสรรวัตถุดิบหลักที่ถนัดมากที่สุด ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์แท้ 100% ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีเอามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตในครั้งนี้ โดยทางผู้ผลิตจะนำข้าวบาร์เลย์ทั้งหมดมาหมักลงในถังไม้โอ๊กสายพันธุ์อเมริกันที่นำไปใช้ในการหมักเหล้าเบอร์บอนอย่างดีเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้กลิ่นและรสชาติของเหล้าเข้าถึงเนื้อสัมผัสอย่างดี จนทำให้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีอายุของเหล้ามากถึง 12 ปีด้วยกัน

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีลักษณะภายนอกอย่างดี ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นด้วยสีของเนื้อสัมผัสของเหล้าวิสกี้ที่เป็นสีเหลืองทองสวยงามราวกับสีของอำพันอย่างดี อีกทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นของเหล้าวิสกี้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นของผลแอปเปิลสีเขียวที่ผสานกันกับกลิ่นของลูกแพรสุกที่ช่วยเสริมสร้างให้เหล้าชนิดนี้มีความมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีกลิ่นของซีเรียลอีกด้วย นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีรสชาติที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิดด้วยกันที่ผสมกันกับรสชาติของดอกกล้วยไม้ เลม่อน ลูกพลัม น้ำตาลทรายและเครื่องเทศหลากหลายชนิดด้วยกัน

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีกลิ่นและรสชาติที่มีองค์ประกอบที่ค่อนข้างชัดเจนและเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีความโดดเด่นในองค์ประกอบที่สำคัญอย่างวานิลลา ผลแอปเปิลเขียว น้ำตาลทราย เครื่องเทศที่หลากหลาย ดอกกล้วยไม้และผลไม้มากมายหลากหลายสายพันธุ์อีกด้วย นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 46% ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ซึ่งนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ชั้นดีที่เป็นชุดของขวัญที่ส่งตรงจากแบรนด์เหล้า Loch Lomond โดยเฉพาะ

Loch Lomond 12 Years Old

Loch Lomond 12 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Balvenie 12 Years Old the Sweet Toast of American Oak

Balvenie 12 Years Old the Sweet Toast of American Oak

            Balvenie 12 Years Old the Sweet Toast of American Oak ถือว่าเป็นเหล้าวิสกี้คุณภาพและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบพื้นที่ยุโรปและเริ่มมีการขยายตลาดมาจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกอย่างดี ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกสร้างสรรค์และผลิตขึ้นมาด้วยฝีมือการผลิตที่เหนือขั้นของแบรนด์เหล้าวิสกี้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่คุ้นหูอย่าง Balvenie ที่มีโรงกลั่นเหล้าวิสกี้เป็นของตัวเอง ซึ่งแบรนด์เหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นแบรนด์เหล้าที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนที่มีชื่อในด้านการผลิตเหล้ามาอย่างยาวนานอย่าง Speyside ในประเทศสกอตแลนด์ของสหราชอาณาจักร

            โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีประวัติความเป็นมาและกรรมวิธีการผลิตที่ชวนให้ติดตามอยู่พอสมควร ด้วยการนำข้าวบาร์เลย์แท้ 100% หรือที่ใครหลายคนต่างรู้จักและได้ให้นิยามในวัตถุนี้ว่าเป็น “เหล้าซิงเกิลมอลต์” มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเหล้าวิสกี้ในครั้งนี้ โดยเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีการนำข้าวบาร์เลย์ทั้งหมดที่ผ่านการเลือกสรรมาอย่างดีไปหมักลงในถังไม้แบบบาร์เรลจากต้นโอ๊กบริสุทธิ์ที่นำเข้ามาจากมลรัฐเคนทักกีของสหรัฐอเมริกามาใช้ในการหมักเหล้าวิสกี้ชนิดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ก็ค่อนข้างมีอายุของเหล้าที่ค่อนข้างน้อยเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น

            ซึ่งเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีลักษณะภายนอกที่ค่อนข้างโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านสีของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้ โดยเริ่มต้นจากสีของเนื้อสัมผัสของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ที่เป็นสีเหลืองปนส้มสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีความหอมหวานฉ่ำจากข้าวมอลต์ที่ผสานกันกับกลิ่นของวานิลลา นอกจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังมีกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวจากผลส้มและหวานปนฉุนเล็กน้อยจากต้นโอ๊ก ขิงและอบเชยอีกด้วย นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีรสชาติที่ค่อนข้างแตกต่างจากกลิ่นเพียงเล็กน้อย โดยเหล้านี้จะมีความหวานเล็กน้อยมาจากข้าวมอลต์ บัตเตอร์สกอตซ์ น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายเผาและต้นโอ๊ก แต่ว่าจะมีรสสัมผัสของความเปรี้ยวและความเผ็ดร้อนมากกว่า ซึ่งความเปรี้ยวนั้นเหล้าชนิดนี้จะแสดงองค์ประกอบของผลส้มและเปลือกเลม่อนอย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นเหล้าที่มีรสชาติของความเผ็ดร้อนมาจากเครื่องเทศอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าเหล้าวิสกี้ชนิดนี้เป็นเหล้าวิสกี้ที่มีองค์ประกอบที่ลงตัว มีความหลากหลายกระจัดกระจายกันแต่สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทั้งความหวาน ความเปรี้ยว ความเผ็ดร้อนและความฉุนในเครื่องเทศ ซึ่งนับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีเสน่ห์ โดยลักษณะที่โดดเด่นของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้ ได้แก่ ข้าวมอลต์ ต้นโอ๊ก วานิลลาและเครื่องเทศนานาชนิด นอกเหนือจากนี้เหล้าวิสกี้ชนิดนี้ยังถือได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 43% ซึ่งนับได้ว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับเหล้าวิสกี้ทั่วไป

Balvenie 12 Years Old the Sweet Toast of American Oak

Balvenie 12 Years Old the Sweet Toast of American Oak

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Joseph Phelps Cabernet Sauvignon

Joseph Phelps Cabernet Sauvignon

            Joseph Phelps Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งตรงมาจากทวีปอเมริกาเหนือที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาหรือถูกผลิตขึ้นโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังอย่าง Joseph Phelps Vineyards ที่เป็นแบรนด์ไวน์ชื่อดังที่เป็นแบรนด์ไวน์ขนาดใหญ่ที่มีความโดดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเองเหนือผู้ผลิตในแถบพื้นที่เดียวกัน โดยแบรนด์ไวน์นี้เป็นแบรนด์ไวน์ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนที่มีการเลื่องลือในด้านการผลิตไวน์แดงต้นตำรับมาเป็นเวลายาวนานอย่าง Napa Valley ที่อยู่ทางด้านชายฝั่งทางตอนเหนือของเมือง San Francisco ของมลรัฐแคลิฟอร์เนียของประเทศสหรัฐอเมริกา

            โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตและขั้นตอนในการสร้างไวน์ชนิดนี้ที่ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีการใช้สายพันธุ์องุ่นที่หลากหลาย มีอัตราส่วนการผลิตที่ชัดเจนและมีประเภทของถังไม้ที่ใช้ในการหมักที่ค่อนข้างมากกว่าไวน์แดงชนิดอื่นๆ เริ่มต้นจากการคัดเลือกสายพันธุ์องุ่นที่ทางผู้ผลิตได้มีการเลือกสรรมาใช้นั้น ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon 97%, Cabernet Franc 2% และองุ่นสายพันธุ์ Malbec อีก 1% ด้วยกัน โดยองุ่นที่เลือกใช้ในการผลิตไวน์ในครั้งนี้ล้วนเก็บเกี่ยวมาจากไร่องุ่น Napa Valley ที่อยู่ในเมืองที่มีชื่อว่า St. Helena ทางด้านตอนใต้ของเมือง Napa Valley ในเขตการปกครอง Oak Knoll ซึ่งองุ่นทั้งหมดที่ทางผู้ผลิตได้ทำการคัดเลือกผลที่ดีที่สุดมาแล้วนั้นจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่แบบผสมผสานสายพันธุ์ ด้วยจำนวน 49% นั้นจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่สายพันธุ์ฝรั่งเศสและอัตราส่วนที่เหลืออีก 51% ทางผู้ผลิตจะนำไปหมักลงในถังไม้โอ๊กใบใหม่สายพันธุ์อเมริกันชั้นเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งการหมักในถังไม้โอ๊กเหล่านี้จะเป็นเพียงแค่ 40% ของจำนวนองุ่นทั้งหมด ส่วนจำนวนองุ่นอีก 60% จะนำลงไปหมักลงในถังไม้บาร์เรลทั้งแบบสายพันธุ์อเมริกันกับฝรั่งเศสที่มีอายุของไม้อยู่ที่ประมาณ 1-3 ปีด้วยกัน

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีโครงสร้างและเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างน่าประทับใจใครหลายคนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติของไวน์ที่ค่อนข้างมีความเข้มข้นและมีโครงสร้างขององค์ประกอบชัดเจนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อสัมผัสของไวน์ที่เต็มไปด้วยสีแดงเข้มงดงาม อีกทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่ค่อนข้างหอมและเต็มไปด้วยกลิ่นของผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลเบอร์รี่สีดำ ลูกพรุนและผลเชอร์รี่สีดำที่ผสานกันกับกลิ่นของช็อกโกแลต เมล็ดกาแฟเอสเปรสโซ่และชะเอมเทศ นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเข้มข้นและสมดุลกันอย่างดี

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาติและกลิ่นของไวน์ที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องด้วยกลิ่นและรสชาติของไวน์ที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลเบอร์รี่สีดำ ลูกพรุนและผลเชอร์รี่สีดำที่เข้ากันได้ดีกับช็อกโกแลต เมล็ดกาแฟเอสเปรสโซ่อย่างดีและชะเอมเทศที่ทำให้เนื้อสัมผัสของไวน์มีความสมดุลและลงตัวอย่างดี ซึ่งนับได้ว่าเป็นไวน์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์ชนิดนี้ควบคู่กับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อกวาง เนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดกับเนื้อไก่ และชีสทั้งแบบผสมและแบบเข้มข้น นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณของแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14.5% ซึ่งนับได้ว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไวน์ทั่วไป

Joseph Phelps Cabernet Sauvignon

Joseph Phelps Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chilena Byn 7 Grand Reserva Cabernet Sauvignon

Chilena Byn 7 Grand Reserva Cabernet Sauvignon

            Chilena Byn 7 Gran Reserva Cabernet Sauvignon นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่มีความนิยมและถูกกล่าวถึงอย่างมากในวงกว้าง โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์แดงที่ถูกผลิตขึ้นมาและถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ไวน์ชื่อดังและมีขนาดใหญ่มากที่สุดอย่าง Maule Velley ที่มีการตั้งถิ่นฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ย่านชุมชนในการผลิตไวน์ระดับโลกอย่าง Maipo Valley ในบริเวณใจกลางเมือง Central Valley ของประเทศชิลี โดยแบรนด์ไวน์ชนิดนี้ยังถือได้ว่าเป็นแบรนด์ไวน์ที่มีพื้นที่ในการเพาะปลูกองุ่นและโรงกลั่นไวน์เป็นของตัวเองอีกด้วยเช่นเดียวกัน

            โดยไวน์ชนิดนี้ยังถือได้ว่าเป็นไวน์แดงที่มีกระบวนการผลิตและขั้นตอนที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่ทางผู้ผลิตได้เลือกใช้องุ่นเพียงแค่สายพันธุ์เดียวเท่านั้นในการผลิตด้วยกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon แท้ 100% ซึ่งนับได้ว่าเป็นสายพันธุ์องุ่นยอดนิยมที่มีความนิยมในการผลิตไวน์แดง โดยเฉพาะองุ่นในกลุ่มสไตล์ Bordeaux ที่ได้รับอิทธิพลและวัฒนธรรมการผลิตไวน์จากประเทศฝรั่งเศสด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นไวน์ที่มีการนำองุ่นเพียงแค่แหล่งเพาะปลูกเดียวมาใช้ นั้นคือไร่องุ่นของแบรนด์ไวน์นี้ที่มีพื้นที่มากกว่า 75,000 เอเคอร์หรือประมาณ 30,000 เฮกตาร์

            ซึ่งไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีมนต์เสน่ห์เป็นที่ดึงดูดอย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยไวน์ชนิดนี้นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีลักษณะภายนอกที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในด้านเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสชาติอย่างดี เริ่มต้นด้วยสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม เป็นสีแดงสดราวกับสีแดงเข้มของทับทิมที่มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเหนียวอย่างดี อีกทั้งไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นของผลไม้ผลเบอร์รี่สีดำและแดงที่ผสานกันกับเครื่องเทศหลากหลายชนิดและวานิลลา รวมทั้งยังมีกลิ่นที่เผ็ดฉุนของพริกไทยดำ ต้นโอ๊ก แก่นไม้ ลูกสนและใบมิ้นท์ที่ผสานตัวกันได้เป็นอย่างดี  นอกเหนือจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้ออย่างดีและเต็มไปด้วยรสชาติของน้ำผลไม้ที่มีความสมดุลและความร่วมสมัยเป็นอย่างดีอีกด้วย

            ในภาพรวมสามารถกล่าวสรุปได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติที่ลงตัวสมดุล ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของไวน์ที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งกลิ่นและรสชาติของผลเบอร์รี่ทั้งสีดำและสีแดง วานิลลา เครื่องเทศหลากหลายชนิด โดยเฉพาะพริกไทยดำอย่างดีและใบมิ้นท์อย่างดี ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับประทานไวน์ชนิดนี้ควบคู่กันกับอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ และเนื้อสัตว์ปีก เช่น เนื้อเป็ดกับเนื้อไก่ อีกทั้งไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 14% ซึ่งนับว่าเป็นระดับมาตรฐานทั่วไปของไวน์แดง

Chilena Byn 7 Grand Reserva Cabernet Sauvignon

Chilena Byn 7 Grand Reserva Cabernet Sauvignon

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!