Glengoyne 50 Years Old Single Malt Scotch Whisky

Glengoyne 50 Years Old Single Malt Scotch Whisky

            Glengoyne 50 Year Old นี้เป็นซิงเกิลมอลต์รุ่นที่มีการผลิตในจำนวนจำกัด นี่เป็นรุ่นที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยได้รับการปล่อยตัวจาก Glengoyne ด้วยวิธีการทำวิสกี้ที่ไม่เร่งรีบและแน่วแน่นี้ เรียกได้ว่าเป็นมอลต์กลั่นที่ช้าที่สุดของสกอตแลนด์ หลังจากห้าทศวรรษสำหรับการรอให้ครบอายุอย่างอดทน ทำให้วิสกี้ที่ยอดเยี่ยมนี้มีความสมบูรณ์และล้ำลึกของกลิ่นหอมและรสชาติที่ไม่ค่อยพบเจอได้ทั่วไปGlengoyne 50 Year Old ถูกบรรจุมาในขวดคริสตัลแบบพิเศษซึ่งมีตราห่านสลักซึ่งเป็นตัวแทนของห่านที่อพยพไปยังเกลนในแต่ละฤดูหนาว ซึ่งถูกผลิตออกมาเพียง 150 ขวด เนื่องจากซิงเกิลมอลต์รุ่น Limited จาก Glengoyne นี้ที่บ่มนานกว่าครึ่งศตวรรษก่อนที่จะบรรจุขวดในปี 2020 ทำให้มีกลิ่นหอมของถั่ววอลนัทผสมกับน้ำตาล ยาสูบไปป์ แอปเปิลแดงกรอบ และกานพลูอยากชัดเจน หลังจากนั้นนำไปสู่กลิ่นหอมของทรีเคิล ชะเอม เครื่องเทศโอ๊กที่เข้มข้นและพริกไทยดำคลุกเคล้าอยู่ในปาก

            Glengoyne Distillery เป็นโรงกลั่นสก็อตวิสกี้ที่ตั้งอยู่ใน Southern Highlands มีชื่อเสียงในเรื่องซิงเกิลมอลต์วิสกี้รสเผ็ดและกลมกล่อมพร้อมอิทธิพลของถังเชอร์รี่ที่โดดเด่น ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Dumgoyne ซึ่งเป็นเนินภูเขาไฟที่สำคัญที่มองเห็นได้จาก Glasgow ธุรกิจนี้เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2363 โดยเป็นโรงกลั่นที่ผิดกฎหมายที่ฟาร์ม Burnfoot ตั้งอยู่ในหุบเขาขนาดย่อมห่างจากสายตาของสรรพสามิตที่มีน้ำตกที่ซ่อนอยู่ Glengoyne ได้รับใบอนุญาตในปี พ.ศ. 2376 ในชื่อ Glenguin แห่ง Burnfoot ซึ่งใช้ชื่อนี้มาจนถึงปี 1907 โรงกลั่นแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบปัจจุบันในปี 1966 โดยมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสามเท่าเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น และในปี 2546 Ian Macleod Distillers Ltd ได้ซื้อบริษัทจาก Edrington Group

เนื่องจากถ่านหินเลนในดินรอบฟาร์ม จึงใช้เชื้อเพลิงในท้องถิ่นเพื่อทำให้ข้าวบาร์เลย์แห้ง สิ่งนี้ทำให้ Glengoyne มี Unpeatedสไตล์ โรงกลั่นเริ่มใช้ถังจากอุตสาหกรรม Sherry ที่เฟื่องฟูในปี 1870 โดยในขั้นต้นนี่เป็นแค่เพียงวิธีการลดต้นทุน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของวิสกี้ ซึ่ง Glengoyne มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตถังไม้ 6 ปี ตั้งแต่การตัดต้นไม้จนถึงการมาถึงของถังในสกอตแลนด์ ทำให้สีของวิสกี้นั้นมาจากต้นโอ๊กเท่านั้น ไม่มีการเติมคาราเมล

Glengoyne 50 Years Old Single Malt Scotch Whisky

Glengoyne 50 Years Old Single Malt Scotch Whisky

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

The Glenrothes Select Reserve Single Malt Scotch Whisky 1879

The Glenrothes Select Reserve Single Malt Scotch Whisky 1879

            The Glenrothes Select Reserve Single Malt Scotch Whisky 1879 นับได้ว่าเป็นเหล้าวิสกี้ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย John Ramsay ปรมาจารย์ด้านมอลต์จากโรงกลั่น Glenrothes ได้สร้างสรรค์วิสกี้ที่แสนอร่อยมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง Glenrothes Select Reserve ก็เป็นอีกหนึ่งในผลงานสร้างสรรค์ของเขาและเป็นตัวกำหนดลักษณะของโรงกลั่นเลยทีเดียว วิสกี้  Glenrothes Select Reserve นี้มีที่มามาจากเขต Speyside จะมีลักษณะสีทองที่สวยงามและเป็นธรรมชาติและมาในขวดขนาดใหญ่ที่สง่างาม ส่วนผสมของมอลต์นี้จะมอบประสมการณ์อันแสนหวานที่เต็มไปด้วยวานิลลา มะพร้าว โอ๊กอเมริกัน และผลไม้สุก เช่น ลูกพลัมและราสเบอร์รี่ รสชาติกลมกล่อมที่ลงตัวเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติที่ผสมผสานกันของมอลต์ ความหวานที่น่ารื่นรมย์ของวานิลลา และส้มที่เอร็ดอร่อย รวมทั้งส้มเขียวหวาน อีกทั้งยังมีความเผ็ดปลายๆเล็กน้อย

            Glenrothes Select Reserve นั้นทำมาจากส่วนผสมสามอย่าง สำหรับอย่างแรกบริษัทได้เลือกที่จะใช้ข้าวบาร์เลย์ที่ปลูกในสกอตแลนด์และหมักในบริเวณท้องถิ่น ส่วนที่สองคือ เลือกใช้น้ำที่มาจากน้ำพุธรรมชาติที่ Brauchchill และ Ardcanny ซึ่งเป็นเนินเขาเล็กๆ ไม่ไกลจากโรงงานผลิต และส่วนผสมสุดท้ายคือ ยีสต์ หลังจากผ่านกระบวนการกลั่นมาถึงกระบวนการบ่มซึ่งจัดว่าเป็นการเปลี่ยนสปิริตจากขั้นตอนการกลั่นมาเป็นวิสกี้ ซึ่ง Glenrothes Select Reserve ใช้กระบวนการนี้ในถัง Ex-Bourbon cask ของอเมริกาและถัง Ex-sherry ของยุโรป

            โรงกลั่น Glenrothes นั้นถูกสร้างขึ้นในปี 1878 และเริ่มผลิตวิสกี้ในอีกหนึ่งปีต่อมาในปี 1879 ก่อตั้งโดย James Stuart & Co และเป็นส่วนหนึ่งของ Edrington Group ในปัจจุบัน นอกจากการสร้างสรรค์ซิงเกิลมอลต์แล้ว บริษัทยังผลิตวิสกี้สำหรับผสมอย่าง The Famous Grouse และ Cutty Sark ซึ่ง Glenrothes Select Reserve ก็เรียกได้ว่าเป็นซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่สมบูรณ์แบบเพื่อทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ของโรงกลั่นและลักษณะเฉพาะของโรงกลั่น  ทำให้ Scotch นี้อยู่ในระดับพรีเมี่ยมอย่างแน่นอนและได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมายในการแข่งขันระดับนานาชาติ

The Glenrothes Select Reserve Single Malt Scotch Whisky 1879

The Glenrothes Select Reserve Single Malt Scotch Whisky 1879

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

North of Scotland 50 Years Old

North of Scotland 50 Years Old

            North of Scotland 50 Years Old วิสกี้ตัวแรกที่ถูกเปิดตัวเป็นทางการแห่งแรกและแห่งเดียวจาก North of Scotland Distillery Co, Alloa ที่ถูกบ่มในถังไม้โอ๊กอเมริกันมานานกว่า 50 ปี โรงกลั่น North of Scotland ซึ่งเริ่มผลิตวิสกี้ในปี 2500 และปิดตัวลงในปี 1980 นี่เป็นโอกาสที่หายากที่จะได้ลิ้มลองวิสกี้อายุยืนจากโรงกลั่นที่สูญหายแห่งนี้และสัมผัสประสบการณ์ประวัติศาสตร์ กลิ่นของวิสกี้ตัวนี้จะมีกลิ่นของถั่วพีแคนและครีมคัสตาร์ด ที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมของเนคทารีนและราสเบอร์รี่ ผสมกับความคลาสสิกของ ลูกกวาด น้ำเชื่อมมีสีทองใสและแอปเปิลอบที่มีกลิ่นของอบเชยและกลิ่นอายที่ซึ่งบ่งบอกถึงอายุ ในส่วนของรสสัมผัสภายในปากจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มและความเข้มข้นที่จะชุ่มฉ่ำหลังจากจิบครั้งที่สอง รสชาติของคัสตาร์ดและเครื่องเทศแบบแห้งจำพวก ลูกจันทน์เทศและอบเชย ที่จะทำให้คุณน้ำลายสอ ทั้งหมดนี้จัดเป็นสิ่งที่หายากและน่าเหลือเชื่อด้วยกลิ่นหวานคลาสสิกที่พบในวิสกี้ที่ผลิตจากเมล็ดพืชหลายชนิดถูกที่ถูกควบคุมอุณหภูมิด้วยไม้ที่ดี

            โรงกลั่น North of Scotland นั้นถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2501 โดย George Christie ซึ่งจะสร้างโรงกลั่น Speyside  ในเมืองKingussie ในอีกหลายปีต่อมา โรงกลั่นถูกดัดแปลงมาจากโรงกลั่น Forth Brewery ของ Robert Knox ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1786 และอยู่ไม่ไกลจากโรงกลั่น Cambus มากนัก โรงกลั่น North of Scotland นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อผลิตมอลต์วิสกี้ แต่หลังจากนั้น 2 ปีก็ตัดสินใจผลิตวิสกี้ธัญพืชเท่านั้น และหลังจากผลิตได้เพียงไม่กี่ปีโรงกลั่นก็ปิดตัวลงในปี 1980 และรื้อถอนในปี 1993

North of Scotland 50 Years Old

North of Scotland 50 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Amrut Greedy Angels 10 Years Old

Amrut Greedy Angels 10 Years Old

            Amrut Greedy Angels 10 Year Old เรียกได้ว่าเป็นซิงเกิลมอลต์อินเดียที่เป็นที่น่าประทับใจ เนื่องจากเป็นผลงานอันแสนอร่อยของ Amrut ซึ่งเป็นแบรนด์ของอินเดีย โดยวิสกี้ฉลากนี้ ผลิตจากข้าวบาร์เลย์สายพันธุ์อินเดียที่แหล่งเพาะปลูกเกษตรกรรมบริเวณเทือกเขาหิมาลายัน ผ่านกรรมวิธีขั้นตอนการกลั่นเพื่อให้ได้รสของธรรมชาติมากที่สุด ก่อนนำไปบ่มในถังไม้โอ๊กในสภาพภูมิอากาศเขตร้อนเหนือระดับน้ำทะเล 3,000 ฟุต ณ เมืองบังคาลอร์ (Bangalore) Amrut Greedy Angels จัดได้ว่าเป็นซิงเกิลมอลต์วิสกี้อินเดียที่เข้มข้นและมีกลิ่นอายของความเป็น Greedy Angels จาก Amrut ที่ผ่านการบ่มมาเป็นเวลา 10 ปีและปิดท้ายด้วยการเก็บในถังเก็บวิสกี้ที่ทำจากไม้โอ๊ก ก่อนบรรจุขวดในเดือนตุลาคม 2019 กลิ่นวู๊ดดี้ผสมผสานกับสโมกกี้พีท เครื่องเทศหวาน และแยมผิวส้มที่ลอยมาแตะจมูก จากนั้นจะมีกลิ่นของเชอร์รี่เปรี้ยว โกโก้ และวานิลลาหวานตามมา ในส่วนของรสสัมผัสภายในปากจะมีความเป็นบัตเตอร์สก็อตช์ ผลไม้รสเปรี้ยวหวาน และผลไม้เมืองร้อน ตามมาด้วยการบูร ควันอ่อน และลูกเกดแช่เหล้ารัม

            นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งวิสกี้ ที่ได้รับรางวัลในเวทีระดับโลกแล้ว “Amrut” ยังถือได้ว่าเป็นวิสกี้ที่เกิดขึ้นมาเพื่อบรรเทาทุกข์และความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจของเกษตรกรชาวอินเดียด้วย Amrut Greedy Angels ที่วางจำหน่ายในปี 2019 ถูกบ่มในถังไม้โอ๊กตลอดทั้งทศวรรษก่อนที่จะบรรจุขวดที่ระดับ 55% ABV วิสกี้นี้ถูกนำเสนอในขวดเหล้าที่ค่อนข้างหรูหรา พร้อมด้วยจุกแก้ว และออกจำหน่ายเพียง 324 ขวดทั่วโลก บรรจุขวดด้วยแอลกอฮอล์ 60% เป็นการเผยให้เห็นถึงความลึกและความซับซ้อน อันจัดได้ว่าเป็นอัญมณีอีกชิ้นจากโรงกลั่นในบังคาลอร์เลยทีเดียว

Amrut Greedy Angels 10 Years Old

Amrut Greedy Angels 10 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Isle of Jura 40 Years Old

Isle of Jura 40 Years Old

Isle of Jura 40 Year Old เป็นวิสกี้ที่หายากที่สุดในบรรดาวิสกี้ 1 ใน 4 วิสกี้ที่ Whyte และ Mackay Ltd. มีความภูมิใจที่จะรวมไว้ในคอลเลกชั่น Rare and Prestige ของพวกเขา นี่คือซิงเกิลมอลต์วิสกี้ (Single malt whisky) ที่กลั่นและบรรจุในถังได้ ซึ่งกลั่นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2509และบรรจุขวด 40 ปีต่อมา ทำให้จูราเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยบรรจุขวด ซิงเกิลมอลต์วิสกี้จัดเป็นการแสดงออกถึงความเป็นวิสกี้ได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งผลิตในโรงกลั่นเดียวจากมอลต์บาร์เลย์ น้ำ และยีสต์ ซึ่งสไตล์นี้ถูกคิดค้นขึ้นในญี่ปุ่น ไอร์แลนด์ และที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ในสกอตแลนด์ แท้จริงแล้วนั้น ซิงเกิลมอลต์สก็อตวิสกี้สามารถสะสมได้มาก และเป็นหนึ่งในของเหลวที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก โดยมีตัวอย่างมากมายที่ได้รับการยกย่องอย่างเท่าเทียมกันกับไวน์ชั้นนำของโลก ซึ่งลักษณะวิสกี้ขวดนี้คือเป็นคล้ายสีโรสวูดขัดเงา พร้อมแสงสะท้อนออกสีม่วงแดง กลิ่นของวิสกี้นั้นมีความหอมที่ค่อนข้างชัดของวานิลลา ลูกเกด ขนมปังขิง ลูกพลัมและผลไม้สีแดง อีกทั้งยังเสริมด้วยไม้โอ๊ก ตามด้วยแอปริคอทและพีท ในส่วนของรสสัมผัสนั้นจะมีความนุ่มละมุนลิ้น หวานและมีความเป็นกรดเล็กน้อย

            Isle of Jura โรงกลั่น Jura เป็นโรงกลั่นวิสกี้สก็อตบนเกาะ Jura ใน Inner Hebrides นอกชายฝั่งตะวันตกของสกอตแลนด์ โรงกลั่นแห่งนี้เป็นเจ้าของโดย Whyte และ Mackay ที่ก่อตั้งและตั้งอยู่ที่เมืองกลาสโกว์ ซึ่งในทางกลับกันก็เป็นเจ้าของโดย Emperador Inc. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในฟิลิปปินส์ ที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่มีประชากรน้อยที่สุดในโลกที่มีโรงกลั่นเป็นของตัวเอง น้ำแร่บริสุทธิ์ อากาศที่สดชื่น และประเพณีการกลั่นที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนได้สร้างมอลต์ที่ประณีตและละเอียดอ่อน

Isle of Jura 40 Years Old

Isle of Jura 40 Years Old

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Croix de Beaucaillou

Croix de Beaucaillou

            Croix de Beaucaillou Saint-Julien นับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยแบรนด์ผลิตไวน์ชื่อดังอย่าง Château Ducru-Beaucaillou ซึ่งตั้งอยู่ทางเมือง Saint Julien ใน Medoc, Bordeaux บริเวณทางดานตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์ประเภท Pauillac และ. Margaux อย่างยิ่ง โดยไวน์ชนิดนี้เป็นการผสมรวมกันระหว่างองุ่นมีชื่อทั้งสองชนิด ได้แก่ องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon 90% และองุ่นพันธุ์ Merlot 10% ด้วยกัน รวมทั้งองุ่นที่เลือกใช้นั้นจะต้องเป็นองุ่นที่มีการเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือนกันยายนจนถึงกลางเดือนตุลาคมโดยองุ่นทั้งหมดจะถูกนำไปหมักลงในถังโอ๊กใบใหม่เท่านั้นเป็นเวลายาวนานกว่า 18-20 เดือนด้วยกัน หลังจากที่ผ่านการอบในถังสแตนเลสแล้ว 7 วัน

            สำหรับ Croix de Beaucaillou 2011 ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีลักษณะของเนื้อสัมผัส กลิ่นและรสที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสีของเนื้อสัมผัสที่เป็นสีค่อนไปทางดำแดง รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสชาติของดอกไม้มาเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็จะมีกลิ่นและรสชาติของผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ทั้งที่มีสีแดงและมีสีดำ รวมทั้งยังมีรสชาติที่นุ่มนวลติดตราตรึงใจใครต่อหลายคนอีกด้วย โดยรวมแล้วนับได้ว่าไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีคุณสมบัติพร้อมในการรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการรับประทานกับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัวและเนื้อกวาง รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ  12-15ปีและมีระดับของปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 15% อีกด้วย

Croix de Beaucaillou

Croix de Beaucaillou

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Vega Sicilia Unico

Vega Sicilia Unico

            Vega Sicilia Unico นับได้ว่าเป็นไวน์ในโลกของไวน์ยุคปัจจุบัน ไวน์สเปนคุณภาพระดับหลุดโลก และ Vega Sicilia โดยเฉพาะรุ่น Unico ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่ดีที่สุด  แพงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของสเปน ซึ่ง Vega Sicilia Unico 2006 เป็นไวน์ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายของไม้โอ๊กอเมริกันและรสสัมผัสที่นุ่มละมุนในปาก เนื่องจากไวน์ Vega Sicilia จะถูกบ่มไว้ในถังโอคนานับ 10 ปี ทำให้รสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเมื่ออยู่ถังไม้โอ๊กขนาดใหญ่ครบ 1 ปีแล้ว จะถ่ายไปบ่มต่อในถังโอ๊กขนาดเล็กซึ่งเป็นถังโอ๊กใบใหม่อีก 2 ปี ขั้นตอนนี้ในปีแรกไวน์จะถูก Racking หรือเรียกว่าเป็นการถ่ายไวน์จากถังหนึ่งไปยังอีกถังหนึ่ง โดยทิ้งตะกอนไว้ที่ถังเดิม เป็นการทำให้ไวน์ใสโดยธรรมชาติ และจะทำในขั้นตอนการบ่มไวน์ จะทำ 4 ครั้งในปีแรก ปีที่ 2 จะทำ Racking อีก 2 ครั้ง  จากนั้นถ่ายไปบ่มต่อในถังโอ๊กเก่าอีก  4 ปี จึงบรรจุขวด แล้วบ่มในขวด อีก 2-3 ปี จึงวางตลาด Vega Sicilia Unico เป็นรุ่นที่มีวินเทจ และผลิตเฉพาะปีที่ดี ๆ ดังนั้นบางปีจึงไม่มีการผลิต วางตลาดอย่างน้อย 10  หลังการบ่ม และสามารถเก็บได้อีก 15 – 20 ปีหรือมากกว่านั้น  เป็นไวน์ที่มีกลิ่นและรสผลไม้หนักแน่นเข้มข้น เครื่องเทศ ใบยาสูบ ผลเบอร์รีสีดำ และโอ๊กหอมกรุ่น แม้จะเก่าแก่ขนาดไหนก็ยังมีความเป็นกรดก็ยังดีอีกด้วย

            Vega Sicilia ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงที่สุดของสเปนมีรากฐานมาจากปีพ. ศ. 2407 โรงกลั่นไวน์ Vega Sicilia น่าจะเป็นพื้นที่ปลูกไวน์ของสเปนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในระดับนานาชาติ ก่อตั้งโดย Eloy Lecanda ในปี 1864 ตลอดระยะเวลาเกือบ 150 ปีของประวัติศาสตร์ แม้ว่าเจ้าของโรงกลั่นไวน์จะเปลี่ยนไป แต่ไวน์ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตนไว้ได้อย่างดีไม่ว่าจะเป็นเข้มข้น ประเภท และความสง่างามมาก ในปัจจุบัน Vega Sicilia เป็นของ Alvarez Mezquíriz ซึ่งซื้อมาในปี 1982 โดยเป็นที่จับตามองว่าอยู่ในระดับแนวหน้าเกี่ยวกับนวัตกรรมล่าสุดในกระบวนการปลูก การผลิตไวน์ และรวมไปถึงการขยายพื้นที่ไร่องุ่นอีกด้วย องุ่นที่ปลูกนั้น ได้แก่ Tempranillo, Cabernet Sauvignon, Merlot และ Malbec ส่วนผสมของ Vega Siclia โดยทั่วไปมีประมาณ 70% Tempranillo, 20% Cabernet Sauvignon และส่วนที่เหลือประกอบด้วยองุ่นสายพันธุ์ Merlot และองุ่นสายพันธุ์ Malbec Vega ในส่วนของไวน์ Sicilia Unico Reserva และไวน์ Vega Sicilia Unico Reserva Especial ซึ่งเป็นไวน์ที่สามผสมผสานทั้งสามวินเทจร่วมกัน

Vega Sicilia Unico

Vega Sicilia Unico

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Fourcas-Hosten

Chateau Fourcas-Hosten

            Château Fourcas Hosten ผลิต Château Fourcas Hosten ปี 2014 ซึ่งเป็นไวน์แดงจากภูมิภาค Listrac ที่มีองุ่น Merlot และ Cabernet Sauvignon ที่ดีที่สุดจากไวน์ปี 2014 และมีปริมาณแอลกอฮอล์ 13% โดยวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นคือองุ่นสองสายพันธุ์ ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon และองุ่นสายพันธุ์ Merlot ซึ่งหลังจากกระบวนการการเก็บเกี่ยวองุ่นแล้ว ไวน์จะถูกผสมและบ่มอย่างน้อย 12 เดือนในถัง วินเทจปี 2014 นี้มีสีทับทิมที่สวยงามพร้อมแสงสะท้อนสีม่วง อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมที่ชวนให้นึกถึงผลเบอร์รี่สีแดงและสีดำขนาดเล็ก รวมทั้งกลิ่นขนมปังปิ้งอันละเอียดอ่อน รสสัมผัสในปากที่เต็มอิ่มและนุ่มนวล ถูกกระจายออกมาด้วยความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างกลิ่นของCabernets และความกลมกล่อมของ Merlot ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อผสมกับแทนนินยิ่งเข้ากันได้ดีเป็นพิเศษด้วยการสกัดที่พิถีพิถัน

            ไวน์นี้ได้ถูกผลิตจาก Château Fourcas Hosten ที่เป็นไร่ไวน์ฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในย่าน Haut-Médoc ของบอร์โดซ์ ซึ่งเน้นการผลิตไวน์บอร์โดซ์ที่โดดเด่นของ Merlot จากไร่องุ่นขนาด 47 เฮกตาร์ (116 เอเคอร์) ในใจกลาง Listrac-Médoc ไร่องุ่นบางส่วนครอบครองพื้นที่ Le Fourcas ที่เป็นดินกรวด ซึ่งให้สภาพการปลูกที่ดีเลิศสำหรับการปลูกองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon นอกเหนือจากบริเวณนี้ไร่องุ่นที่เหลือได้ตั้งอยู่บนดินที่อุดมด้วยดินเหนียวและเป็นดินเหนียวซึ่งเหมาะสำหรับการเพาะปลูกองุ่นMerlot ของนิคมอุตสาหกรรม หลังขากนั้นที่แห่งนี้ได้เปิดตัวเหล้าองุ่น Château Fourcas Hosten Blanc ครั้งแรกในปี 2014 ซึ่งไวน์ขาวนี้ส่วนใหญ่เป็นไวน์ Sauvignon Blanc โดยมี Sauvignon Gris เล็กน้อย องุ่นเหล่านี้มีอายุเฉลี่ยสามปีและปลูกบนดินเหนียวและดินหินปูน 2 เฮกตาร์ (5 เอเคอร์) ที่ถูกเก็บเกี่ยวกับมือและไวน์มีอายุในการบ่มประมาณห้าเดือนในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศส

Chateau Fourcas-Hosten

Chateau Fourcas-Hosten

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Piper Heidsieck Rare Millesime

Piper Heidsieck Rare Millesime

            Piper Heidsieck Rare Millesime เป็น Cuvée สุดคลาสสิกที่มีความหรูหรา โครงสร้างของเหล้าแชมเปญคือ เป็นสปาร์คกลิ้งไวน์ หรือมีลักษณะเนื้อผิวเหล้าแชมเปญที่เป็นฟองฟู่สวยงาม(Sparkling Wine) ลักษณะที่ค่อนข้างเต็มน้ำเต็มเนื้อและเต็มไปด้วยผลไม้ ถูกสร้างด้วยองุ่น Chardonnay เป็นส่วนใหญ่จากภูมิภาคMontagne de Reims และเสริมด้วยองุ่น Pinot Noir จากภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งเหล้าแชมเปญนี้เป็นส่วนผสมของ 17 crus ที่บ่มอย่างน้อยเจ็ดปีในห้องใต้ดินของ House ไวน์ปี 2002 นี้มีความหมายเหมือนกันกับความร่ำรวยและความอุดมสมบูรณ์ เหล้าแชมเปญชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีทองคำ สีเหลืองใสเป็นประกายทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาด้วยประกายระยิบระยับที่ละเอียดอ่อน กลิ่นของเหล้าแชมเปญเป็นกลิ่นที่ละเอียดอ่อนของผลไม้แปลกใหม่ รวมทั้งมะม่วงและผลกีวี่ พร้อมด้วยมะเดื่อแห้งและถั่วอัลมอนด์ สัมผัสของแร่ธาตุและเครื่องเทศบด นอกจากนี้สัมผัสและรสชาติของเหล้าแชมเปญคือ มีรสชาติที่ลึก มีมิติ จากการได้รับการขัดเกลาด้วยความกลมกลืนอย่างพิถีพิถัน

            Rare Millésime 2002 เป็นไวน์ที่มีการก่อตั้งและถูกสร้างขึ้นมา โดยการนำองุ่นทั้งสองสายพันธุ์สำคัญมาใช้ในกระบวนการผลิต โดยวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นคือ องุ่นสองสายพันธุ์ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay  70% และองุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir 30%ในส่วนของกระบวนการผลิตเหล้าแชมเปญนี้คือ ขั้นแรกเหล้าแชมเปญจะต้องผ่านการหมักด้วยแอลกอฮอล์ในเดือนกันยายนและตุลาคม ตามด้วยกระบวนการหมักแบบ Malolactic ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม การผสมจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ตามด้วยการจัดชั้นวางในเดือนมกราคม ซึ่งใช้ระยะเวลาในการบ่มไวน์อย่างน้อย 7 ปี

            Piper-Heidsieck หนึ่งในบ้านแชมเปญที่มีชื่อเสียงที่สุดและผลิต Rare Millésime โรงกลั่นเหล้าแชมเปญเป็นที่ตั้งของห้องใต้ดินที่มีการควบคุมอุณหภูมิและเหล้าแชมเปญสำรองจำนวนมากซึ่งใช้เพื่อรักษาความเป็นเหล้าแชมเปญแบบ House Style องุ่นถูกทำให้เป็นองุ่นโดยพันธุ์องุ่นและตามแปลงแต่ละแปลงเพื่อให้สามารถควบคุมกระบวนการผสมได้มากขึ้น ซึ่งองุ่นสำหรับ Piper-Heidsieck Brut, Demi Sec Sublime และ Rosé Sauvage มาจากไร่องุ่น 100 cru ใน Champagne Piper-Heidsieck Vintage Brut ซึ่งผลิตขึ้นจากแปลงขนาดใหญ่ระหว่าง 15-20 แปลง และมักจะเป็นส่วนผสมของ Pinot Noir และ Chardonnay โดยไม่มี Pinot Meunier ในส่วนชองไวน์ชั้นนำของ Piper-Heidsieck คือ Rare Millésime ซึ่งทำมาจากส่วนผสมของ Chardonnay และ Pinot Noir ที่ผสมผสานกับเหล้าแชมเปญชั้นยอดในอดีต เหล้าแชมเปญมีรสเปรี้ยวและมีโครงสร้างที่ดี และมีอายุเจ็ดปีในห้องใต้ดินก่อนที่จะปล่อย ซึ่งจัดเป็นของหายากผลิตขึ้นในปีที่ดีที่สุดเท่านั้น

Piper Heidsieck Rare Millesime

Piper Heidsieck Rare Millesime

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

Chateau Ygay Gran Reserva Marqués de Murrieta

Chateau Ygay Gran Reserva Marqués de Murrieta

            Castillo Ygay Gran Reserva 1952 เป็นไวน์แดง Rioja Tempranillo ของสเปนที่จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกจาก Rioja เลยที่เดียว ซึ่งวางตลาดในชื่อ Château Ygay ถูกบรรจุขวดเมื่อมกราคม 1986 และใช้เวลาบ่ม 34 ปีในถัง ถูกผลิตออกมาเพียง 8.356 ขวด ซื้อโดยตรงในโรงกลั่นไวน์ Marqués de Murrieta มีการใช้ฉลากพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี มันแสดงให้เห็นลักษณะที่เก่าแก่ โดยไวน์ชนิดนี้ยังนับได้ว่าเป็นไวน์ที่มีการนำคุณลักษณะเด่นของไวน์ชั้นเลิศออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีสีของเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างออกสีแดงเข้มราวกับสีของโกเมน รวมทั้งยังมีกลิ่นที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ผสานกันกับกลิ่นของผลไม้สีแดงที่หลากหลายผสมกันกับกลิ่นจองเครื่องเทศอย่างดี นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีความเต็มน้ำเต็มเนื้อ มีสัมผัสและรสชาติที่มีความซับซ้อนกว่าไวน์ทั่วไปอย่างมาก

            Castillo Ygay Gran Reserva 1952 เป็นไวน์ที่มีการก่อตั้งและถูกสร้างขึ้นมา โดยการนำองุ่นทั้งสองสายพันธุ์สำคัญมาใช้ในกระบวนการผลิต โดยวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นคือ องุ่นสองสายพันธุ์ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่ องุ่นสายพันธุ์ Tempranillo 89% และองุ่นสายพันธุ์ Mazuelo 11% ด้วยกัน ซึ่งองุ่นทั้งสองสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์องุ่นยอดนิยมที่นำมาใช้ในการผลิตไวน์แดงในสเปน ในการเก็บเกี่ยวจะเก็บเกี่ยว Tempranillo ในช่วงเดือนกันยายนและเก็บเกี่ยว Mazuelo ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งขั้นแรกของกระบวนการผลิต องุ่นจะถูกตัดก้านออกอย่างระมัดระวัง คั้น และหมักในถังสแตนเลสที่ควบคุมอุณหภูมิเป็นเวลา 11 วัน ด้วยกระบวนการ “การตัดต่อ” และ “การหมัก” ทุกวัน ซึ่งช่วยให้ไวน์สามารถพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองได้ กระบวนการทั้งสองนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุด สีและกลิ่นโดยไม่ผลิตแทนนินมากเกินไป นอกจากนี้ในส่วนของกระบวนการบ่มไวน์จะใช้เวลา 30 เดือนในการบ่มในถังไม้โอ๊ก 225 ครอก โดยอย่างน้อย 10 เดือนในถังไม้โอ๊กใหม่ และ 36 เดือนในขวดก่อนปล่อย ในขณะที่ Tempranillo หมักในถังไม้โอ๊กอเมริกัน Mazuelo จะหมักในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสใหม่

Chateau Ygay Gran Reserva Marqués de Murrieta

Chateau Ygay Gran Reserva Marqués de Murrieta

สั่งซื้อสินค้า

ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

โดย รีวิวเหล้านอก.com

error: Content is protected !!