Benriach The Smoky 10 Year Old

Benriach The Smoky 10 Year Old

 

Benriach The Smoky 10 Year Old

วิสกี้ single malt สีทองอร่าม ที่แสนนุ่มนวล สัญชาติ Scothland ในเขตภูมิภาค Speyside อันโด่งดัง ที่ผ่านกรรมวิธีการหมักมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี ในถังไม้โอ๊คถึง 3 ถัง ที่ใช้ทำ Bourbon เชอร์รี่ และถังไม้ที่ใช้ทำรัมจากจาไมก้า ที่จะทำให้รสชาติของวิสกี้ มีความกลมกล่อมสมบูรณ์แบบ

กลิ่น: มีโน้ตความสโม้กกี้น้ำผึ้งอย่างชัดเจน ผลไม้สุก และความหอมหวานของน้ำเชื่อมจากผลไม้ มีโน้ตความเผ็ดของไม้โอ้คอีกด้วย

รสสัมผัส: เริ่มต้นจากการลิ้มรสชาติของวิสกี้ขวดนี้ คุณจะได้รับรสสัมผัสที่กลมกล่อมจาก ไม้ต้นแอปเปิ้ลรมควัน มีรสสัมผัสของน้ำผึ้ง มีความเผ็ดร้อนและตามด้วยรสชาติผลไม้จากลูกแพร ให้รสสัมผัสติดลิ้นด้วยไม้โอ้ครมควันที่ยาวนาน

 

Craigellachie 13 Year Old 

Craigellachie 13 Year Old 

 

วิสกี้ single malt สีทอง ที่แสนนุ่มนวล สัญชาติ Scotchland จากภูมิภาค Speyside อันโด่งดัง  ที่หมักไม้โอ้คอย่างดียาวนานกว่า 13 ปี ทำให้วิสกี้ขวดนี้ มีรสชาติที่กลมกล่อม ละมุน และเข้มข้นอย่างลงตัวจาก single malt

 

กลิ่น: มีโน้ตของผลแอปเปิ้ลและสวนผลไม้ที่กำลังออกผล ทำให้รู้สึกสดชื่นที่ได้สัมผัสกลิ่น ได้กลิ่นอันเบาบางของเนื้อ และมีกลิ่นอายของข้าวโพดคั่วและทาร์ตปลาย ๆ

 

รสสัมผัส: คุณจะได้รสสัมผัสของข้าวบาร์เลย์เข้มข้น ตามด้วยรสสัมผัสของสัปปะรดและผลแอปเปิ้ลสด ๆ  จากนอกนี้ยังแฝงไปด้วย ความเผ็ดร้อนจากบาร์บิคิว และตามด้วยรสชาติของผลไม้ในหน้าร้อน ปิดท้ายด้วยความละมุนของถั่วและอัลม่อนด์

Ballantine’s 23 Year Old American Oak

Ballantine’s 23 Year Old American Oak

 

วิสกี้ single malt สีทอง ที่แสนนุ่มนวล สัญชาติอังกฤษ จากภูมิภาค Blended ที่ผ่านกรรมวิธีการหมักมาอย่างยาวนานถึง 23 ปี ในถังไม้โอ๊คอเมริกาอันเก่าแก จนทำให้มีรสชาติหอมหวานจากน้ำผึ้ง วานิลลาและครีมมี่

กลิ่น: มีโน้ตความหอมหวานจากน้ำผึ้ง และครีมมี่จากวานิลลา แอปเปิ้ลแดงสุกเต็มที่ และยังมีโน้ตของซินนาม่อนอีกด้วย

รสสัมผัส: เริ่มต้นจากการลิ้มรสชาติของวิสกี้ขวดนี้ คุณจะได้รับรสสัมผัสอันหวานชื่นจาก ความหวานของผลไม้ มีความเข้มข้นของมอล์ทจนทำให้คุณรับรู้ได้ถึงกลิ่นมอล์ทและตามความนุ่มละมุนขั้นสุดด้วยวานิลลา คัสตาร์ด ที่ทำให้วิสกี้ขวดนี้มีความเข้มข้นและกลมกล่อมอย่างที่คุณต้องลอง

Aultmore 12 Year Old

Aultmore 12 Year Old

 

AULTMORE FOGGIE MOSS SPEYSIDE SINGLE MALT SCOTCH WHISKY

 

วิสกี้ single malt สีทองคำขาวบริสุทธิ์ ที่แสนนุ่มนวล สัญชาติสก๊อตแลนด์ จากภูมิภาค Speyside ที่ผ่านกรรมวิธีการหมักมาอย่างยาวนานถึง 12 ปี ในถังไม้โอ๊คจนได้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์น่าเย้ายวนใจ

 

กลิ่น: มีโน้ตที่หอมหวานจากกลิ่นของน้ำผึ้งผสมผสานกับกลิ่นของซีเรียล กลิ่นวนิลา ครีม และกลิ่นของซิตรัส

 

รสสัมผัส: เริ่มต้นด้วยความหวานอันเบาบางเหมือนไวน์ขาว ที่คุณอยากจะจิบมันในช่วงหน้าร้อน หลังจากนั้นเริ่มมีความฝาดตามมาให้คุณได้สัมผัส เหมือนเป็นการสะท้อนรสชาติที่เปลี่ยนจากความหวานนุ่มละมุนลิ้น ไปเป็นความฝาดอย่างเบาบาง และเมื่อจิบต่อไปคุณก็จะได้รับรสสัมผัสที่มากขึ้น และกลิ่นของแคนตาลูปและวานิลลาอีกด้วย

Aberlour 12 Year Double Cask Matured

Aberlour 12 Year Double Cask Matured

ABERLOUR DISTILLERY SPEYSIDE SINGLE MALT SCOTCH WHISKY

 

วิสกี้ single malt สีเหลือทองอร่าม ที่แสนนุ่มนวล สัญชาติสก๊อตแลนด์ จากภูมิภาค Speyside ที่ผ่านกรรมวิธีการหมักมาอย่างยาวนานถึง 12 ปี ในถังไม้โอ๊คอันเก่าแก จนทำให้มีรสชาติจากผลไม้และสมดุลกับความเผ็ดร้อนจากขิงและซินนามอน
กลิ่น: มีโน้ตของผลไม้อยากซิตรัส แอปเปิ้ล มีกลิ่นของความเผ็ดร้อนและยังมีโน้ตความกลมกล่องจากท้อฟฟี่ ช็อคโกแลต และความเปรี้ยวจากส้ม
รสสัมผัส: เริ่มต้นด้วยความฟรุ้ตตี้จากเชอร์รี่ บาลานซ์กับช็อคโกแลตหวานฉ่ำ ตามด้วยรสสัมของท้อฟฟี่และซินนามอน เมื่อคุณจิบไปสักพักจะรู้สึกได้ถึงความเผ็ดจากขิง เรียกได้ว่าวิสกี้ขวดนี้มีความกลมกล่อม และสมดุลระหว่างความหวาน ความเปรี้ยว และความเผ็ดร้อนได้อย่างลงตัว

 

Aberlour 16 Year Old – Double Cask

Aberlour 16 year old double cask matured

 

วิสกี้ single malt สีทองอร่าม ที่แสนนุ่มนวลและหอมหวาน สัญชาติสก๊อตแลนด์ จากภูมิภาค Speyside ที่ผ่านกรรมวิธีการหมักมาอย่างยาวนานถึง 16 ปี ในถังไม้โอ๊คที่ใช้ทำ Bourbon จนได้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์น่าเย้ายวนใจ ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักวิสกี้ขวดนี้ในทันที

 

กลิ่น: มีโน้ตของครีมมี่ และมีกลิ่นอันหอมหวานจากลูกเกด นอกจากนี้ยังแฝงไปด้วยโน้ตของความเผ็ดร้อนอีกด้วย

 

รสสัมผัส: เริ่มต้นด้วยความสมูธ และรสสัมผัสของดอกไม้ ที่มาพร้อมกับความเผ็ดร้อน ตามด้วยรสสัมผัสจากลูกพลัมอันหอมหวาน มีรสชาติและกลิ่นของไม้โอ้คอย่างเบาบาง ตบท้ายด้วยความเผ็ดและรสสัมผัสของน้ำผึ้งที่เย้ายวนใจให้ดื่มต่อ

 

Chateau Lafleur 1982

Lafleur 1982, Chateau Lafleur, Bordeaux, France, Red Wine

ไวน์แดงสัญชาติฝรั่งเศสจาก Bordeaux รุ่น 1982 ที่แม้ว่าจะเป็นไวน์ที่มีอายุไม่มากแต่กลับให้ความเข้มข้นและความบริสุทธิ์ที่น่าอัศจรรย์จากกลิ่นอายของเหล้าเคิร์ชและชะเอม ให้ความรู้สึกถึงความมั่งคั่งอันน่าทึ่ง ความแน่นหนา ความสมบูรณ์ และความสวยงาม ตัวไวน์ชั้นเยี่ยมนี้ถูกผลิตในเมือง Pomerol โดยได้รับส่วนวัตถุดิบต่างๆมาจากภูมิประเทศที่ราบสูง โดยเฉพาะวัตถุดิบหายากอย่าง องุ่น Merlot ที่ได้มาจากไร่องุ่นเขียวชอุ่มหรูหราเก่าแก่ ซึ่ง Merlot นั้นได้ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตไวน์หรูหราขวดนี้อย่างมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก

เนื่องจากการใช้วัตถุดิบในกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างหายากและมีความพิถีพิถันในการเฟ้นหาวัตถุดิบชั้นดีเป็นอย่างมาก ยิ่งทำให้ราคาของเจ้าไวน์ขวดนั้นสูงกว่าราคาของตลาดไวน์ทั่วๆไป เรียกได้ว่าเป็นไวน์เกรดพรีเมี่ยมที่เป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มเป็นอย่างมากจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยความพิศวงและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรสชาติ จึงทำให้มีความคุ้มค่าในการหามาสะสม

จุดเด่นของไวน์รุ่นนี้นั้นมาจากกลิ่นหอมของช็อกโกแลต,เชอร์รี่เข้ม,ลูกพลัมและเครื่องเทศ ให้ความรู้สึกถึงความสง่างามขององุ่น Merlot ได้เป็นอย่างดี รสชาติหวานหอมของ พลัม, ลูกเกด, ลูกพรุน, ช็อคโกแลต, มอคค่าและเชอร์รี่ดำ ได้ถูกผสมปนเปกันจนได้ออกมาเป็นรสชาติที่น่าพิศวง ความเข้มข้นนุ่มลึกอย่างหาที่สุดไม่ได้ ความร้อนแรงแห้งผากจนทำให้ยากที่จะดื่มแบบเดี่ยวๆ

โดยรวมนั้นเป็นไวน์ที่มีบุคลิกค่อนข้างบริสุทธิ์ ไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมา มั่นคงหนักแน่น มีความร้อนแรงและกลับอ่อนหวาน ละมุนดื่มง่ายไม่หนักหน่วงบาดคอมากจนเกินไป ดื่มได้เรื่อยๆสำหรับค่ำคืนยาวนานอันแสนพิเศษ โดยสำหรับอาหารมื้อค่ำที่ตมักถูกเสิร์ฟคู่กันกับเจ้าไวน์แดงแก้วนี้นั้นมักจะถูกเสิร์ฟคู่กับอาหารจำพวกเสต็กและสตูว์เนื้อ เช่น เนื้อแกะ, เนื้อวัว, ขาแกะอบ, ห่าน, ไก่รวมควันและเนื้อกวาง ซึ่งยิ่งทำให้มื้ออาหารค่ำพร้อมคนพิเศษของคุณนั้นสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก

 

 

Harlan Estate Napa Valley 2015

Harlan Estate 2015, Harlan Estate, Napa Valley, United States, Red Wine

 

ไวน์แดงสไตล์วินเทจสุดหรูสัญชาติ USA จาก Napa Valley แห่ง Harlan Estate ที่มีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ซึ่งชื่อเสียงของ Harlan Estate เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังที่ถูกขนานนามจากนักดื่มทั่วโลกว่าเป็น “สัตว์ร้ายแห่งไวน์แดง” เพราะความช่ำชองในกระบวนกลั่นและการผลิตไวน์ที่มีคุณภาพสูง เน้นความวินเทจหรูหรา เป็นกระบวนการผลิตที่มีความปราณีคพิถีพิถันเฉพาะตัว ผลผลิตจากผลไม้ที่ใช้นั้นเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพโดยเป็นผลไม้ที่ถูกปลูกขึ้นมาบนสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า Harlan Estate นั้นเป็นอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ที่ยาวนานมากว่าทศวรรษเลยทีเดียว

เครื่องดื่มสีโกเมนเข้มที่ได้จากส่วนผสมขององุ่นทั้งสามพันธุ์ องุ่นชั้นดีในกระบวนการผลิตไวน์แดงหรูหราคลาสสิค Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot และ Petit Verdot ซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมการผลิตไวน์แดงไปทั่วโลกเพราะความเป็นสุดยอดพรรณองุ่นที่ให้รสชาติของไวน์ที่ให้รสชาติที่มีความกลมกล่อมเข้มข้น มีความหอมหวานจากรสชาติเฉพาะตัวที่ดื่มง่าย เหมาะสำหรับนักดื่มที่รักการดื่มไวน์จากทุกหนทุกแห่ง

จุดเด่นของไวน์แดงรุ่นนี้อยู่ที่เครื่องดื่มชั้นเยี่ยมสีสดที่มีความคลาสสิกเซ็กซี่เย้ายวนใจด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง กลิ่นแบล็คเคอแรนท์ แบล็กเบอร์รี่ หินบด กราไฟต์ การบูรควัน และกลิ่นยาสูบแห้ง สีม่วงโกเมนเข้มที่ได้เนื้อและรสชาติเข้มข้นจากเชอร์รี่สีดำครีมและพุดดิ้งพลัมผสานกับความเข้มข้นจากแทนนินเนื้อละเอียดที่สุกงอมได้อย่างประณีตลงตัว

โดยรวมเป็นไวน์แดงที่มีบุคลิกร้อนแรง มีสเน่ห์ เย้ายวนใจ มีความยั่วยวน คลาสสิค เป็นเอกลักษณ์ ทรงพลังแต่ดื้อดึงอยู่ในตัว มีความหวานหอมกลมกล่อมอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความกระสันเป็นอย่างยิ่งเมื่อเครื่องดื่มแก้วโปรดได้ถูกเสิร์ฟคู่กับเนื้ออบชั้นเลิศอย่าง เนื้อวัว เนื้อแกะ และ เนื้อกวาง ก็ยิ่งยากที่จะถอนตัวเพียงแค่แก้วเดียวได้ เหมาะสำหรับการดื่มเนื่องในโอกาสพิเศษ สังสรรค์ หรือดื่มฉลองในมื้อค่ำพิเศษพร้อมคนพิเศษของคุณได้อย่างสนุกสนาน

Le Pin 2010, Le Pin Bordeaux, France, Red Wine

Le Pin 2010, Le Pin Bordeaux, France, Red Wine

ไวน์แดงสัญชาติฝรั่งเศสที่ได้ถูกหมักขึ้นมาจากองุ่นชั้นดีพันธุ์ Merlot แบบ 100% แม้จะเป็นองุ่นสายพันธุ์เล็กซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ในภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนและแห้ง แต่กลับได้ผลดีในฤดูเก็บเกี่ยวจากไร่องุ่นอย่าง Le Pin ที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก

ความเขียวชอุ่มจากไร่ไวน์จากองุ่นพันธุ์ Merlot หรูหราที่วัตถุดิบพืชผลอย่างองุ่น Merlot นั้นได้ถูกปลูกท่ามกลางวัตถุดิบการเกษตรอันทรงคุณค่าอย่าง ดินเหนียว กรวด และธาตุเหล็ก ในขณะที่การผลิตไวน์แบบทั่วไปจะใช้ส่วนผลิตจากการปลูกโดยใช้ดินราคาถูกอย่างดินปนทรายที่มีความเป็นกรดมากกว่า ทำให้ได้องุ่นรสชาติธรรมดาที่ไม่ได้มีความแตกต่างโดดเด่น ในขณะที่ตัวไวน์ Le Pin 2010 นั้นมีราคาที่สูงกว่าไวน์ยี่ห้ออื่นๆเพราะความพรีเมี่ยมหรูหราแปลกใหม่และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ในแบบอื่นๆ

จุดเด่นของเหล้าองุ่นรุ่นนี้นั้นได้มาจากผลผลิตขององุ่นที่ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติของ Merlot ทำให้ได้เหล้าองุ่นสีพลัมออกม่วงเข้มที่มีกลิ่นหอมโดดเด่นจากไม้อ็คสดใหม่ผสานกับกับความเข้มข้นของ Uber,แคสซิส,เชอร์รี่สีดำผสานกับกลิ่นของชะเอมเทศ ตัวไวน์แดงมีรัสสัมผัสและบอดี้ที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวานของแทนนิน,เชอร์รี่ดำและผลไม้สีดำรสชาติหวานแซมเปรี้ยว ได้รสชาตินุ่มลึกเข้มข้นที่ลงตัวและสมดุลเป็นอย่างมาก

โดยภาพรวมนั้นเป็นไวน์แดงที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น มีบุคลอกภาพที่น่าดึงดูดเย้ายวนใจ มีความล้ำลึกนุ่มนวลในรสชาติจากความปราณีตพิถีพิถันของกระบวนการผลิตไวน์มาอย่างยาวนานถึง 12 ปี เป็นเหล้าองุ่นที่เหมาะแก่การรับประทานคู่กับทานคู่กับกลุ่มอาหารประเภทเนื้อแดงชั้นดี อย่าง เนื้อวัวหรือเนื้อแกะย่างเนย รวมถึงการรับประทานคู่กับอาหารประเภทสัตว์ปีกอย่าง เป็ดและไก่ เป็นต้น เป็นไวน์แดงที่มักจะใช้ดื่มตามงานพิเศษหรือโอกาสสำคัญๆต่างพร้อมกับคนพิเศษสุดๆของคุณนั้น เพื่อช่วยเปิดประสบการณ์สังสรรค์สุดพิเศษให้แก่คุณได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

 

 

 

Quinta Do Noval Nacional Vintage Port 1963

Quinta Do Noval Nacional Vintage Port 1963

 

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานเหล้าองุ่นสัญชาติโปรตุเกส โดยโปรตุเกสเองนั้นก็เป็นภูมิภาคที่ขึ้นชื่อด้านการผลิตไวน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของยุโรปและมีการส่งออกไวน์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เหล้าองุ่นแดงตัวนี้ถูกสร้างขึ้นจากไร่องุ่นชั้นดีอย่าง Quinta do Noval ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเทียบเรือเก่าแก่ที่สุดจากประเทศโปรตุเกส โดยใช้วัตถุดิบนานาชนิด โดย Quinta do Noval นั้นเป็นไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากซึ่งเป็นไร่องุ่นที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชันจากใจกลางหุบเขา Douro

องุ่นสายพันธุ์ชั้นดีจากไร่แห่งนี้ได้ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตไวน์แดงชั้นเยี่ยม รวมถึงมีการนำผลไม้ต่างๆที่ถูกปลูกขึ้นในพื้นที่ของท่าเทียบเรือ โดยไวน์ชนิดเก่าแก่ที่ได้ถูกกลั่นออกมาทั้งหมดนั้น ได้นำวัตถุดิบจากไร่องุ่น Quinta do Noval มาใช้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

error: Content is protected !!