The Last Drop 1980

The Last Drop Buffalo Trace 1980

รุ่นปี: 1980
สี: ทองเข้มเฉพาะตัว
สุดยอดวิสกี้Bourbon ที่ยอดเยี่ยมและสามารถเรียกได้ว่าเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าสุดๆจาก Buffalo Trace ซึ่งได้มีการบรรจุขวดโดย The Last Drop โดยสำหรับวิสกี้รุ่นนี้ได้ถูกกลั่นกรองมาตั้งแต่ปี 1980 และเติบโตเต็มที่มาเกือบสองทศวรรษ ถูกบรรจุขวดที่ 45% ABV โดยผลิตได้เพียง 240 ขวด ทั่วโลกเท่านั้น
กลิ่น: ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลิ่นเบอร์เบินจากต้นฟิก, อินทผาลัม, เชอร์รี่มาราสชิโน, หนัง, ทอฟฟี่, พลัมยาสูบ, วอลนัทและบัตเตอร์สก็อตที่คละคลุ้มไปทั่วทั้งเพดานปาก
รสสัมผัส:  ด้วยสีและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลังจากอายุมากขึ้นในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รสชาติผสมผสานกันอย่างกลมกลืน เปลี่ยนจากดาร์กช็อกโกแลต อัลมอนด์ หนัง คาราเมล และโอ๊ค ไปเป็นรสเผ็ดร้อนที่นุ่มนวล เสร็จสิ้นปิดท้ายด้วยซิมโฟนีเสมือนจริงบนเพดานปาก

Clos Du Marquis Saint-Julien 2011

Clos Du Marquis Saint-Julien 2011

อีกหนึ่งรุ่นไวน์สัญชาติฝรั่งเศสจาก Château Léoville Las Cases ที่เป็นไวน์แดงแบบ Blend ที่มีรสสัมผัสออกแห้งและมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง เป็นไวน์ราคาสูงจากกระบวนการผลิตที่มีความพิถีพิถัน

จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมจากBlackberry, พลัม, โอ๊ค, เครื่องหนังและควัน โดยรสสัมผัสแรกหลังจากเริ่มจิบโดยส่วนใหญ่จะให้รสชาติจากผลไม้และลูกพลัมชนิดมีหนาม โดยไม่ค่อยมีรสสัมผัสจากแทนนินมากนัก และมีรสชาติของแอลกอฮอล์ผสานด้วย โดยหากปล่อยไว้สักพัก แอลกอฮอล์จะถูกลดระดับลงและแทนที่ด้วยแทนนิน

โดยรวมเป็นเครื่องดื่มทีมีความเนียนเรียบ มีกลิ่นผลไม้อ่อนและมีกลิ่นของหนังและควันชัดเจน คล้ายดอกกุหลาบที่ผลิบาน เป็นไวน์ที่เหมาะสำหรับการทานคู่กับสเต็กเนื้ออย่าง เนื้อวัว เนื้อแกะ และอาหารตระกูลสัตว์ปีกเพื่อสร้างรสชาติที่ดีเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างมาก

 

BEAUNE 1er CRU LES AIGROTS 2017

BEAUNE 1er CRU LES AIGROTS 2017

 

ไวน์แดงสัญชาติฝรั่งเศสรุ่นปี 2017 ที่มีรสชาติยอดเยี่ยม โดยได้วัตถุดิบอย่างองุ่นพันธุ์เยี่ยมอย่าง Pinot Noir ซึ่งเป็นสายพันธุ์องุ่นสำหรับกระบวนการผลิตไวน์ชั้นเลิศจากประเทศต้นกำเนิดอย่างฝรั่งเศสนั่นเอง

จุดเด่นอยู่ที่เครื่องดื่มที่มีความใสปานกลางและสีออกทับทิม ให้กลิ่นหอมจากผลไม้สีแดงสุก ราสเบอร์รี่ เชอร์รี่แดง และแครนเบอร์รี่ รวมถึงผลสุกของเชอร์รี่สีดำ รสชาติที่ค่อยๆเพิ่มเลเวลความเข้มข้นขึ้นอย่างบางเบา กลิ่นจากผลไม้แห้งผสานกับรสสัมผัสของเห็ดและต้นอ่อน ให้รสสัมผัสที่ฉ่ำและเนียนนุ่มในช่วงเพดานปาก มีความละเอียดอ่อนจากผลไม้สีแดงแสนอร่อย ผลไม้สีเข้มนุ่มและสมุนไพรแห้ง

โดยรวมเป็นไวน์แดงที่มีความเข้มข้นปานกลาง และมีความเป็นกรดที่ดีจากแทนนินสุก มีบุคลิกภาพนุ่มละเอียดอ่อนและสง่างาม ไม่เข้มข้นมากจนเกินไป เหมาะสำหรับเป็นเครื่องดื่มชั้นเริ่มต้นที่ดีงามเป็นอย่างยิ่ง

 

 

Glencadam Aged 19 Years Oloroso Cask Finish

Glencadam Aged 19 Years Oloroso Cask Finish

สุดยอดสก็อตวิสกี้ชั้นดีแบบ High Class จาก Glencadam ที่ได้รังสรรค์วิธีการผลิตวิสกี้ที่มีความพิถีพิถันจากการกลั่นผ่านถัง Sherry สดใหม่แบบครั้งเดียวยาวนานถึง 19 ปี ให้เป็นวิสกี้สีเหลืองทองรสชาติยอดเยี่ยมเข้มข้น ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง

จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมจากเชอร์รี่ ผลไม้หวานสีแดงส้มที่มีความสมดุลที่ดีกับรสชาติของไม้บาร์เรล Bourbon แสนอร่อย รสชาติมีความคมชัดของแอลกอฮอล์ครอบคลุมในจิบแรก และเมื่อผ่านไปสักพักจะได้ความหวานเล็กน้อยจาก เชอร์รี่แห้ง ไม้โอ๊ค วานิลลาบาร์เรลบูร์บอง ผิวเลมอน โอ๊คทาร์ตแสนอร่อยรสเผ็ดอย่างเต็มรูปแบบ กลิ่นของไม้บาร์เรลบูร์บองนั้นมีความโดดเด่นจนได้เป็นรสชาติเสร็จสิ้นที่สมบูรณ์แบบ

 

Glencadam Aged 19 Years Oloroso Cask Finish

Glencadam Distillery launches limited edition of its Highland Single Malt – Oloroso Sherry Cask Finish Aged 19 Years

A limited quantity of Glencadam Highland Single Malt, aged 19 years, has been released. The Sherry cask “Finish” has been created by the careful selection of mature whisky “finished” in Oloroso Sherry butts. The malt whisky was transferred from Bourbon casks into the hand-picked butts to “finish” its maturation for a generous period of time. This process of “finishing” bestows on the whisky refined characteristics, most notably, tones of Sherry sweetness. Our Master Distiller deemed that the time was right to bottle the whisky at 19 years of age when the malt whisky flavour notes had reached harmony with the rich, raisiny and fruit cake characteristics of the Sherry wood.

Brunello di Montalcino 2016 Rennina

Brunello di Montalcino 2016 Rennina

 

ไวน์แดงสัญชาติอิตาลีรุ่นปี 2016 แห่งภูมิภาค Tuscany ซึ่งได้ใช้องุ่นพันธุ์พื้นเมืองอย่าง Sangiovese มาใช้ในกระบวนการผลิต โดยเมื่อพูดถึงไวน์ทัสคานีแล้วนั้น Sangiovese ก็เรียกได้ว่าเป็นราชาองุ่นสำหรับการผลิตไวน์ในอิตาลีเลยจริงๆ โดยองุ่นพันธุ์นี้ไม่เพียงแต่อาศัยอยู่ในภูมิภาคทัสคานีเท่านั้นแต่ยังมีอยู่ทั่วอิตาลีอีกด้วย

กลิ่น: มีโน้ตของดอกไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่น ลูกพลัม แบล็กเบอร์รี่ ดอกไม้แห้ง และกลิ่นของขิงเพิ่มขึ้นตามมาในภายหลัง

รสสัมผัส:  มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและเจิดจรัสด้วยผลเบอร์รี่สีแดงและสีดำขัดมัน ให้ความเข้มข้นและผลไม้เข้มข้นสวยงาม ช่อดอกไม้เผยให้เห็นชั้นของเชอร์รี่ป่า กุหลาบ ดอกไม้สีฟ้า และเปลือกส้มหวาน เป็นไวน์องุ่นคลาสสิกปี 2016 นี้ ไวน์เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวาพร้อมกลิ่นหอมที่เปล่งประกายเจิดจ้าเป็นพิเศษ

Castello di Bossi Corbaia

Castello di Bossi Corbaia

ไวน์แดงสัญชาติอิตาลีรุ่นปี 2016 แห่งภูมิภาคที่ขึ้นชื่อในด้านไวน์แดงส่งออกนอกประเทศอย่าง Tuscany ที่ได้องุ่นพันธุ์พื้นเมืองอย่าง SANGIOVESE 70% และ CABERNET SAUVIGNON อีก 30% มาใช้ในกระบวนการผลิตซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงได้ออกมาเป็นไวน์สีแดงทับทิมเข้มข้นพร้อมไฮไลท์โกเมน Corbaia ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบสุดๆ

กลิ่น: โดยรวมมีกลิ่นหอมของลูกเกดดำ เชอร์รี่ และแคสซิสผสมผสานกับกลิ่นของใบยาสูบ มอคค่า และวานิลลา ที่ลอยจางๆในพื้นหลัง

รสสัมผัส: รสชาติที่บนเพดานปากมีรสชาติเข้มข้นแต่ก็นุ่มลิ้น พร้อมด้วยมีชั้นสัมผัสที่เข้มข้นและแทนนินที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว บอดี้มีความนุ่มและเคลือบชั้นด้วยเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นผสมผสานกับสารแทนนินที่ผสานกันอย่างดี

Antinori Guado Al Tasso Bolgheri 2012

Antinori Guado Al Tasso Bolgheri 2012

 

ไวน์แดงสีม่วงเข้มสัญชาติอิตาลีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยสำหรับรุ่นนี้จุดเด่นอยู่ที่มีลักษณะเฉพาะของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สร้างจากพลัง ความสง่างาม และความสมดุลจากองุ่นโบราณ โดยองุ่นแต่ละชนิดถูกนำมาใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกันคือ Cabernet Sauvignon และ Merlot โดยเพิ่ม Cabernet Franc, Petit Verdot และ Syrah ในเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยด้วย

กลิ่น: โน้ตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลูกเกดดำ, แบล็คเบอร์รี่, สมุนไพรป่า, เครื่องเทศผสมผสานกับกลิ่นแร่ธาตุที่ให้ความบริบูรณ์และความเอื้ออาทรทางความรู้สึกเป็นอย่างมาก

รสสัมผัส: มีรสหวานจากวานิลลาและเชอร์รี่โอ๊ค เป็นไวน์ที่กลมกลืนกับผลไม้ที่มีเกรนละเอียดซึ่งมีโครงสร้างเป็นแทนนินและมีความเป็นกรดปานกลาง โดยรวมแล้วเป็นไวน์ชั้นดีมีความสมบูรณ์และความสดใหม่ของโทนิคจากผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ให้ความรู้สึกราวกับสัมผัสอยู่ท่ามกลางแสงแดดของทัสคานีที่ร้อนระอุเลยทีเดียว

 

Val Di Suga Brunello Di montalcino

Val Di Suga Brunello Di montalcino 2015

 

ไวน์แดงสัญชาติอิตาลีที่ได้ใช้ส่วนผสมขององุ่นจากไร่องุ่นทั้งสามแห่งนี้ที่ผลิตในโรงกลั่นเหล้าองุ่นสมัยใหม่แต่ใช้วิธีดั้งเดิม โดยสำหรับองุ่นจากไร่องุ่นทั้งสามนี้นั้นจะหมักแยกกันที่อุณหภูมิควบคุม โดยจะหมักบนผิวองุ่นเป็นเวลา 20-25 วัน ไวน์มีอายุ 24 เดือนในถังไม้โอ๊คสลาโวเนียน 50 hl และ 12 เดือนในถังคอนกรีตก่อนที่จะใส่ขวดอย่างน้อย 12 เดือน

กลิ่น: มีกลิ่นหอมของเบอร์รี่ป่าที่แกนกลางผสมผสานกับผลไม้หลักที่รายล้อมไปด้วยโน้ตของเครื่องเทศเบา ๆ ผสานกับกลิ่นสมุนไพรย่างและดินปลูกพืช มีความบริสุทธิ์ลึกซึ้งและแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนตามธรรมชาติของไวน์ชั้นดี

รสสัมผัส: มีรสชาติกลมกล่อมและที่เพดานปากสัมผัสได้ถึงความสุกของเชอร์รี่สด ใบชา และความขมของเปลือกส้มที่น่ารื่นรมย์สดชื่นแจ่มใส

Château Batailley Pauillac (Grand Cru Classé) 2010

Château Batailley Pauillac (Grand Cru Classé) 2010

 

ไวน์แดงสีม่วงเข้มแบบ Blended สัญชาติฝรั่งเศสรุ่นปี 2010 ที่มีความแห้งเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวLabel นั้นแสดงถึงปราสาท Lynch-Moussas ตั้งอยู่บนสันเขากรวดที่สวยงามมาก ใกล้กับหมู่บ้าน Artigues และ Grand Puy และปราสาท Batailley cru นี้ผลิตไวน์ที่เข้มข้นและเหมือนช่อดอกไม้มาก ทำให้เกิดกลิ่นหอมที่เข้มข้น

กลิ่น: มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากโน้ตของผลไม้สีดำ, ยารักษาโรค, หนังสัตว์, ยาสูบ และขี้กบดินสอผสมผสานกันอย่างซับซ้อน

รสสัมผัส: ที่เพดานปากได้รสชาติจากลูกพลัมสีเข้ม, แบล็คเคอแรนท์, แบล็คเบอร์รี่, แร่ธาตุที่มีกรวดสูง, เครื่องเทศ มีบุคลิกภาพและเนื้อสัมผัสที่มีความเป็นกรดสูง มีแทนนินปานกลางซึ่งโดยรวมแล้วมีความสมดุลสวยงามเป็นอย่างมาก

Woodford Reserve Kentucky Derby 147

Woodford Reserve Kentucky Derby 147

เบอร์เบิ้นสัญชาติอเมริกันที่มีความประณีตโดยมีวัตถุดิบจากข้าวโพดบด 72% ข้าวไรย์ 18% และข้าวบาร์เลย์มอลต์ 10% เป็นส่วนผสมหลักเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความหวานกับโน้ตเฉพาะตัวจากเครื่องเทศ ในขณะเดียวกันก็มีความหอมหวานของมอลต์เป็นส่วนประกอบหลักเช่นเดียวกัน

กลิ่น: เริ่มต้นด้วยกลิ่นของผลไม้แห้งที่อุดมไปด้วยมินต์และส้มเล็กน้อย มีรสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมด้วยกลิ่นของซิตรัส เครื่องเทศอบคาราเมล และโกโก้ ผิวเนียนและเรียบเนียน มีกลิ่นที่สลับซับซ้อนและมีความเป็นเอกลักษณ์แบบสุดๆ

รสสัมผัส: มีรสชาติเข้มข้น เคี้ยวหนึบ กลมกล่อมผสมผสานด้วยส่วนผสมของซิตรัส อบเชย โกโก้ ท๊อฟฟี่คาราเมล ช็อคโกแลต และเครื่องเทศ เสร็จสิ้นมีความเนียบนุ่มดุจครีมและมีรสสัมผัสที่อุ่นสบายคงค้างอย่างยาวนาน

error: Content is protected !!