Hendrick’s Gin

Hendrick’s Gin

Hendrick’s Gin เป็นเหล้าที่ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดย William Grant &sons ในช่วงเวลาที่เหล้า Gin ยังไม่ค่อยมีชื่อเสียงและยังไม่เป็นที่ต้อนรับในตลาดมากนัก โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรูปแบบเป็นเหล้ายินมีแหล่งกำเนิดจากประทศสก็อตแลนด์ รวมทั้งยังเป็นเหล้าจำพวก London Dry Gin อีกด้วย

เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่แสดงออกได้ถึงกลิ่นอายของต้นสนและแตงกวาอย่างชัดเจน โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่หอมจางๆของดอกไม้ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ดื่มทั้งหลาย นอกจากนี้เหล้านี้กลิ่นที่หวานมาจากเนื้อส้มหวาน เนื้อมะนาว และกลิ่นของดอกไม้ที่ใกล้ร่วมแล้ว

นอกจากกลิ่นที่หอมหวานอมเปรี้ยวแล้ว รสชาติของเหล้านี้ก็เป็นรสสัมผัสของความดั้งเดิมแบบคลาสสิก โดยรสชาตินั้นจะมีรสของต้นสนและรากของดอกไอริชเยอรมัน นอกจากนี้ในช่วงแรกของเหล้านั้นจะมีรสชาติของเนื้อส้มไซตรัส โดยเฉพาะช่วงที่เหล้าเริ่มสัมผัสลิ้นได้สักพักก็ยิ่งมีรสของส้มและมะนาวมากขึ้น หลังจากนั้นก็จะเริ่มมีความเข้มของชะเอมเทศเข้ามานิดๆ ทำให้รสของเหล้าลงตัว โดยลงตัวมากขึ้นไปอีกเมื่อเหล้าได้มีการผสมพริกไทยดำไปด้วย

Hendrick’s Gin เป็นเหล้าที่มีลักษณะที่มีลักษณะที่โดดเด่นด้วยรูปร่างของขวดเหล้าที่มีรูปร่างคล้ายกันกับขวดเหล้ายาตามแบบฉบับของเหล้ายินของยี่ห้อนี้ นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีคุณภาพและมีกลิ่นและรสชาติที่เต็มไปด้วยแตงกวาและกุหลาบที่ให้ผลลัพธ์แก่เหล้านี้ในทิศทางดีและน่าประทับใจ โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 41.4%

 

Hendrick's Gin

Hendrick’s Gin

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Grand Marnier Cordon Roug รีวิวเหล้านอก

Grand Marnier Cordon Rouge

Grand Marnier Cordon Rouge เป็นเหล้าที่เป็นที่รู้จักและเป็นเหล้าสัญชาติฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ถูกปรุงแต่งโดย Louis-Alexandre Marnier-Lpostolle และเป็นที่รู้จักในปี 1880 นอกจากนี้ยังเป็นเหล้าที่ได้ถูกถวายครั้งแรกให้แก่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่เจ็ดก่อนที่จะกลายเป็นเหล้าชั้นสูงในประเทศรัสเซีย

โดยในส่วนของกลิ่นนั้น เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีสีเหลืองอำพันที่ออกไปทางสีทอง มีเนื้อเหล้าที่ชัดเจน ไม่ขุ่น นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีกลิ่นอายที่หอมหวานด้วยเนื้อส้มที่รวมกันกับกลิ่นของเครื่องเทศจางๆ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของดอกไม้เบาบางที่ผสมรวมกันอยู่ด้วย

นอกจากเหล้านี้จะมีกลิ่นที่หอมหวานแล้ว รสชาติของเหล้าก็นับได้ว่าดีเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติที่ค่อนข้างขมนิดๆ หวานหน่อยๆ โดยเป็นเหล้าที่มีรสสัมผัสของเนื้อส้มและน้ำส้มที่ให้ความหวาน และมีรสขมนิดๆจากเปลือกส้ม นอกจากนี้ยังมีการใช้ส้มผสมที่ได้ทำให้เหล้านี้มีความสดชื่น รวมทั้งยังมีรสของลูกกวาด กาแฟ วานิลลาอีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีความมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านของรสชาติและกลิ่น ซึ่งเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีความสดชื่นมาก และเป็นเหล้าที่มีการใส่พริกไทย ส้มขมและน้ำผึ้ง ซึ่งสร้างความหรูหราให้แก่เหล้านี้ได้อย่างดี โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ 40%

 

Grand Marnier Cordon Rouge

Grand Marnier Cordon Rouge

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Jose Cuervo Especial gold blue agave

Jose Cuervo Especial gold blue agave

“Jose Cuervo”  เป็นเหล้าที่มีชื่อทั่วไปว่า “Cuervo Gold” โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าเตกีลาที่มีการขายในตลาดที่ดีเยี่ยมมากนถึงขั้นติดอันดับโลก โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกให้ความสนใจจำนวนมาก โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าผสมระหว่างเหล้าเตกีล่า Reposado กับเหล้าเตกีล่า Cuervo ที่มีอายุหน่อย

โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่แสดงกลิ่นอายของเหล้าเตกีล่ามาอย่างชัดเจนมาก ทั้งกลิ่นแอลกอฮอล์ที่เข้มจนแยงจมูก มีกลิ่นของแอลกอฮอล์เผาเล็กน้อย รวมทั้งยังมีกลิ่นน้ำตาลนิดๆด้วย นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังใส่เปลือกส้มเข้าไปบางๆเพื่อเพิ่มกลิ่นของเหล้าชนิดนี้ให้มีความขมและความหวานด้วย

ในส่วนของรสชาตินั้นนับได้ว่าค่อนข้างแตกต่างจากกลิ่นที่ได้รับอยู่พอสมควร โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสสัมผัสที่เข้มข้นและรุนแรงของแอลกอฮอล์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหล้าชนิดนี้ได้รับการเผาเพื่อเพิ่มให้รสมีความโดดเด่นมากขึ้น นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีความหวานที่ชัดเจน โดยเหล้านี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติที่ขมก่อนในช่วงแรก หลังจากนั้นเหล้าชนิดนี้ก็จะเริ่มมีรสของสมุนไพรนานาชนิดแทรกเข้ามา และจบท้ายด้วยรสของความหวานทั้งจากส้ม องุ่น พริกไทยดำอีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสสัมผัสที่ติดลิ้นยาวนาน  และมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล้ายี่ห้อนี้ไว้อย่างชัดเจน สมกับเป็นเหล้าที่มีประวัติมายาวนานและเป็นโรงกลั่นสุราที่มีชื่อเสียงระดับโลก นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังสามารุนำไปประยุกต์ทำเป็นค็อกเทลหลากหลายเมนู และเหล้าชนิดนี้ยังมีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40% อีกด้วย

 

Jose Cuervo Especial gold blue agave

Jose Cuervo Especial gold blue agave

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Baileys the original Irish cream

Baileys the original Irish cream

Baileys the original Irish cream เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มียอดขายที่สูงที่สุดระดับโลก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เหล้าชนิดนี้จะได้รับความนิยมมากกว่าช่วงเวลาอื่น เนื่องจากเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่ผสมกันระหว่างเนื้อครีมกับเหล้าวิสกี้ไอริช

เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นของเหล้าที่มีกลิ่นอายที่สดชื่นและมีกลิ่นเหล้าที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของเหล้าไอริชคุณภาพเยี่ยมได้เป็นอย่างดี โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่ผสมรวมกันครีมกับน้ำและนม รวมทั้งยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของช็อกโกแลตที่ผสมรวมกันกับเกล้าได้เป็นอย่างดี

เหล้าชนิดนี้นอกจากจะมีรสชาติที่เหนียวแน่นด้วยวานิลาแล้ว เหล้าชนิดนี้ยังมีรสสัมผัสของโอ้กที่แช่น้ำก่อนนำมาหมัก นอกจากนี้ เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสเพิ่มเติมมาจากช็อกโกแลต คาราเมล นม และครีมที่รวมตัวกันเป็นอย่างดี

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติและกลิ่นที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นเหล้าที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักดื่มทั้งหลาย รวมทั้งยังเป็นเหล้าที่ถูกเติมเต็มด้วยประสบการณ์อย่างดี นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 17%

Baileys the original Irish cream

Baileys the original Irish cream

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Sheridan’s coffee layered liqueur

Sheridan’s coffee layered liqueur

Sheridan’s coffee layered liqueur เป็นเหล้าจาก Gilbeys of Ireland ที่มีความแปลกและมีความพิเศษกว่า  เหล้าอื่นๆเท่าที่เคยพบเห็นมา เนื่องจากเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่เกิดจากการผสมรวมกันของเครื่องดื่ม ได้แก่กาแฟผสมช็อกโกแลตที่รวมกันกับเหล้าวิสกี้ นอกจากนี้ นักปรุงเหล้ายังมีการเติมครีมวานิลลาเพื่อเพิ่มความหอมหวานแก่เหล้าชนิดนี้อีกด้วย 

โดยเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่หอมหวานมาก มีกลิ่นของของเหลวสีดำทั้งกาแฟ ช็อกโกแลตและเหล้าที่ผสมรวมกันได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ เหล้าชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่หอมละมุนของครีม ซึ่งการรวมกันเหล่านี้จะทำให้มีกลิ่นที่หอมดีกว่ากลิ่นกาแฟอย่างเดียว

นอกจากกลิ่นแล้ว รสชาติของ Sheridan’s coffee layered liqueur ก็นับได้ว่ามีความหอมหวานไม่แพ้กัน เป็นรสที่ไม่แย่มาก นับได้ว่าดีเลยทีเดียว โดยเหล้านี้จะมีรสสัมผัสของช็อกโกแลตและกาแฟที่ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์มากที่แบ่งเป็นชั้นๆกับรสสัมผัสของเหล้าที่เข้มข้น นักปรุงเหล้าจึงการเติมน้ำตาลเข้าไปเพื่อลดความเข้มข้นของเหล้าอีกด้วย

โดยรวมแล้วนับได้ว่าเหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติและกลิ่นที่ดีเยี่ยมเป็นอย่างดียิ่ง และเป็นเหล้าที่มีเอกลักษณ์อย่างดี รวมทั้งยังเป็นเหล้าดื่มได้ง่าย สามารถเข้าถึงนักดื่มได้ทุกคน นอกจากนี้ยังมีระดับปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15.5% ซึ่งนับว่าน้อยมากอีกด้วย

 

Sheridan's coffee layered liqueur image

Sheridan’s coffee layered liqueur

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Malibu Caribbean rum with coconut liqueur

Malibu Caribbean rum with coconut liqueur

Malibu Caribbean rum with coconut liqueur เป็นเหล้ารัมที่ถูกออกแบบขึ้นมาให้เป็นค็อกเทลแบบ All in one เป็นเหล้าที่ใช้ปริมาณวัตถุดิบค่อนข้างน้อยและต่ำมาก แต่กลับมีรสชาติและกลิ่นที่โดดเด่นกว่าเหล้าที่ใช้วัตถุดิบที่ราคาแพงเสียอีก

เหล้าชนิดนี้เป็นเหล้าที่มีกลิ่นที่หอมหวานและถูกเติมเต็มไปด้วยกลิ่นของมะพร้าวอย่างชัดเจน นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีกลิ่นอายของเหล้ารัมที่ผสมรวมกันกับกลิ่นของมะพร้าว ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของเหล้านี้ นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีกลิ่นหอมจางๆของกล้วยหอมอีกด้วย

นอกจากกลิ่นที่หอมหวานแล้ว รสชาติของเหล้าชนิดนี้ก็นับได้ว่าเป็นเหล้าที่มีมะพร้าวเป็นศูนย์กลาง มีรสชาติที่หอม หวาน มันจากมะพร้าว นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีรสชาติของผลไม้ที่หลากหลายชนิดทั้งสับปะรด ผลไม้อบแรงดัน มะม่วงและกล้วยหอมพันธุ์จากมาลิบู ซึ่งนับได้ว่าเป็นความลงตัวที่พอดี

โดยรวมแล้วนับได้ว่า Malibu Caribbean rumนี้เป็นเหล้าที่มีรสชาติและกลิ่นที่หอมหวาน โดยมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์จากมะพร้าว มีความหวานที่ลงตัวกับความเข้มข้นของเหล้ารัมได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังมีการผสมผลไม้จำพวกสับปะรด ผลไม้อบไอน้ำ และมะม่วงด้วย นอกจากนี้เหล้าชนิดนี้ยังเป็นเหล้าที่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ 21% ด้วย

Malibu Carribean rum with coconut liquer
Malibu Caribbean rum with coconut liqueur

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

ABERLOUR 12 YEAR OLD Double Cask Matured

ABERLOUR 12-YEAR-OLD Double Cask Matured

เป็นวิสกี้ที่ยอดเยี่ยมและยังเป็นทางเลือกยอดนิยมมาโดยตลอด โดย Aberlour 12 – year
นี้เป็นวิสกี้ประเภทซิงเกิล มอลต์ ที่อยู่ในเขต Speyside ซึ่งจะมีทั้งการบ่มในถังไม้โอ๊คแบบดั้งเดิม
และถังเหล้าเชอร์รี่และยังอุดมไปด้วยผลไม้นานาชนิด

มีปริมาณแอลกอฮอล์ 40% (40% ABV)
กลิ่นของวิสกี้ตัวนี้ จะมีความรู้สึกถึงกลิ่นของอบเชยบนขนมปังเนยที่เข้มข้นไปด้วยลูกเกด
และยังให้สัมผัสถึงกลิ่นของแมกไม้ฝาดๆ เกลซเชอร์รี่ และถ่านบาร์เรล อีกทั้งยัง

สำหรับรสชาติของ ABERLOUR นั้นนับได้ว่ามีความกลมกล่อมเป็นอย่างดี จะออกรสของเนยเหลวนำ
ผสมผสานกับน้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำตาล ลูกเกดอวบอ้วน ลูกจันทน์เทศ ช็อกโกแลตรสนม
และยังรวมถึงรสชาติที่หอมกลิ่นรมควันอีกด้วย

วิสกี้ชนิดนี้ มีความหวานของเชอร์รี่และมีความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในระดับดีเลยทีเดียว
แม้ว่าจะไม่ได้มีมากจนเกินไป อีกทั้งยังมีสัมผัสของกลิ่นถ่านขมๆในสัมผัสแรกที่ลิ้มลอง
ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความหวานที่สร้างความสมดุลได้อย่างดีเยี่ยม

ABERLOUR 12 YEAR OLD Double Cask Matured
ABERLOUR 12 YEAR OLD Double Cask Matured

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Montes Alpha Cabernet Sauvignon

Montes Alpha Cabernet Sauvignon

 

ไวน์ชนิดนี้มาจาก Colchagua Valley ประเทศชิลี โดยประกอบไปด้วยองุ่นมีสองพันธุ์

นั่นคือ Cabernet Sauvignon 90% และ Merlot 10%ในกระบวนการผลิตนั้นใช้เวลา

ในการเก็บเกี่ยวช่วงปลายมีนาคมจนถึงช่วงกลางพฤษภาคม เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจึงนำมาเก็บและอัด

ให้แน่นในภาพที่ดีเยี่ยม ก่อนนำไปหมัก รวมทั้งยังเป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักในถังโอ้กฝรั่งเศส

ที่มีอายุเล็กน้อยทั้งสามถัง โดยหมักองุ่นเพียงแค่ 55% ต่อครั้งเท่านั้นยาวนานกว่า 12 เดือน

ซึ่งทำให้ไวน์นี้มีอายุของไวน์มากกว่า 10 ปี โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการรังสรรค์และการรวมความคิด

ในการปรุงแต่งไวน์ชนิดใหม่โดยบุคคลทั้งสองท่าน ได้แก่ Aurelio Montes และ Douglas Murray

ซึ่งเป็นนักปรุงไวน์ที่ล้วนมีชื่อเสียงและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยองุ่นที่ใช้ในกรรมวิธีการผลิตนั้น

ก็เป็นองุ่นที่ถูกคัดแค่เอาพันธุ์ที่ดีที่สุดจากไร่องุ่นของตัวเองมาทำด้วยเช่นกัน

ด้วยไวน์นี้มีสีแดงทับทิมที่เข้มข้น โดยไวน์ชนิดนี้มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ขององุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ไว้อย่างเข้มข้นและรุนแรง รวมทั้งยังมีกลิ่นขององุ่น

ที่มีสีน้ำตาลเจือจางด้วย นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นของมะกอกสีเขียว รวมทั้งยังมีกลิ่นของผล

ไม้สีดำจางๆแลพกลิ่นของโอ้กจางๆที่มีความคลาสสิก

รวมทั้งยังมีกลิ่นต้นสนและกลิ่นของไม้เผาไว้ด้วย

ในส่วนของรสชาตินั้น ไวน์นี้เต็มไปด้วยรสของสตรอเบอร์รี่สุกแบล็กเคอร์แรนท์ลูกเกดสีดำ

ผลไม้หวาน ยังรวมถึง ท๊อฟฟี่ และช็อกโกแลตสร้างความซับซ้อนให้กับรสชาติที่เข้มข้นในปาก

หลังชิมไวน์ตัวนี้แล้วจะสร้างความสมดุลให้กับผิวได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นไวน์ชั้นเลิศที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง

เพื่อใช้สร้างความบันเทิงได้ในอนาคต อีกทั้งกลิ่นหอมของครีมและผลไม้ที่ให้ความรู้สึกที่ดีอย่างยาวนาน

แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับจิบไวน์ Montes Alpha Cabernet Sauvignon คู่กับเนื้อแดง

เนื้อมองโกเลีย สปาเก็ตตี้โบโลเนสซอส ชีส และซี่โครงเนื้อแกะกับซอสเห็ด

และควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 17 – 19 องศาเซลเซียส หรือที่ประมาณ 62-66 องศาฟาเรนไฮต์อีกด้วย

ใดยไวน์ชนิดนี้แนะนำว่าควรที่จะรินเตรียมไว้ในแก้งหรือภาชนะที่ใช้ดื่มอย่างน้อย 30 นาที

เพื่อที่จะรักษาและทำให้กลิ่นกับรสชาติดีที่สุด

นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ยังมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในระดับ 14.3% อีกด้วย

Montes Alpha Cabernet Sauvignon
Montes Alpha Cabernet Sauvignon

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Escudo Rojo

Escudo Rojo

            Escudo Rojo คือการผสมผสานที่ดีเยี่ยมของกลุ่มองุ่นพันธ์ดั้งเดิมทั้งหลาย

โดยมีกระบวนการผลิตอันประกอบไปด้วย

Cabernet Sauvignon 40%, Camenere 38%, Syrah 20% และ Cabernet Franc 2%

ซึ่งได้รับการคัดเลือกและหมักไว้ในถังไม้โอ๊คนานถึง 12 เดือน

ในร้านขายของชำBaron Phillippe de RosthschildMaipo ที่ Valle Centralประเทศชิลี

ปีแล้วปีเล่า โดยที่การผสมผสานของวัตถุดิบจะทำเป็นรอบๆ ค่อนข้างซับซ้อน

และเข้มข้น มีปริมาณแอลกอฮอล์ 14% โดยไวน์ชนิดนี้เกิดจากการ

ปรุงแต่งโดย Baron Philippe de Rothschild Maipo ซึ่งเป็นนักปรุงไวน์ให้กับ Chile

และเขาก็ได้เลือกไร่องุ่นที่มีชื่อว่า Valle Central ซึ่งเป็นไร่องุ่นที่ช่วยทำให้องุ่น

มีกลิ่นและรสชาติที่มีความแตกต่างจากไร่องุ่นอื่นโดยสิ้นเชิง รวมทั้งยังทำให้รสและกลิ่น

ของไวน์องุ่นมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากไร่องุ่นที่นี่,ได้รับสารอาหารมาจากดินเหนียวที่ไร่

องุ่นที่นี่ใช้อีกด้วย นอกจากเอกลักษณ์ที่ได้กล่าวไปแล้ว ไวน์ชนิดนี้ยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง

ซึ่งเป็นจุดเด่น ได้แก่ การเก็บองุ่นด้วยมือเท่านั้น  และจะคัดองุ่นด้วยฝีมือมนุษย์เท่านั้น

เพื่อคุณภาพของไวน์ที่ดีที่สุด

                ไวน์ตัวนี้มีสีแดงเข้มและสีม่วงเข้มที่มีเงาแวววับสะท้อนสว่าง และมักจะมีภาพรวมของกลิ่น

ของผลไม้สุกสีแดงและกลิ่นหอมของผลไม้สีดำ รวมถึงกลิ่นอ่อนๆของขนมปังเฮเซลนัท

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีกลิ่นที่มีความหอมฟุ้งกระจาย รวมทั้งยังมีกลิ่นไวน์ที่ซับซ้อนและเข้มข้น

โดยกลิ่นแรกที่เปิดออกมาคือกลิ่นที่เข้มข้นของแบลกเบอร์รี่ แบลกเชอร์รี่และกลิ่นสตรอเบอร์รี่ป่า

หลังจากนั้น ไวน์ชนิดนี้จะมีกลิ่นของเนื้อแบลกเบอร์รี่กับกลิ่นของถั่วอัลมอนด์และกลิ่นของ

การแฟคั่วตามมา ซึ่งเป็นกลิ่นอายที่มีความร่วมสมัยแฝงอยู่

ด้วยความเข้มข้นที่ลึกซึ้งจากองุ่นพันธ์ต่างๆ ทำให้มีรสชาติที่นุ่มนวล ละมุน

ซึ่งตรงข้ามกับกลิ่นที่แสดงออกมาอย่างสิ้นเชิง ด้วยรสที่สมบูรณ์แบบของราสเบอร์รี่

แบล็คเคอร์แรนท์ผสมผสานกับกลิ่นพริกไทยดำที่มีรสเผ็ด รวมถึงความกลมกล่อมขององุ่น

Cabernet, Syrah และCamenere โดยรสชาติที่สามารถสัมผัสได้เมื่อนักดื่มได้ลิ้มลองไวน์

ชนิดนี้คือความนุ่มนวลและความเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย ทั้งราสเบอร์รี่ แบลกเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ป่า และบิลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นเบอร์รี่สีฟ้าเข้มที่พบได้แค่เฉพาะพื้นที่ทางยุโรปตอนเหนือเท่านั้น

หลังจากนั้นไวน์ชนิดนี้จะมีความนุ่มที่มียิ่งขึ้นไปอีกและความซับซ้อนจากผิวของผลไม้ดำทั้งหลาย

และจบท้ายด้วยรสสัมผัสที่มีรูปแบบเฉพาะตัวจากรสสัมผัสที่เหมือนกับขนมปังปิ้ง กาแฟ

และรสของดอกไม้หอมต่างๆ ซึ่งรสชาติทั้งหมดนั้น ผสมรวมตัวกันได้อย่างพอเหมาะพอ

เจาะและมีความร่วมสมัย และความสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้นยังเป็นไวน์ที่มีความกลมกล่อม

และมีพลังที่ถ่ายทอดความเป็นท้องถิ่นที่ผลิตไวน์นี้อีกด้วย

ปิดท้ายด้วยการทานคู่กับอกเป็ดอบซอสเครื่องเทศ และพริกไทยเสฉวน

รวมถึงเนื้อแกะ เค้กช็อคโกแลตกับชีส  และควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 16 – 17 องศาเซลเซียส

 

Escudo Rojo
Escudo Rojo

 

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon

Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon

ไวน์ชนิดนี้ผลิตจากนาป้า วัลเลย์  (Napa Valley) ซึ่งอยู่ที่รัฐซาน ฟราซิสโก ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งมีกระบวนการผลิตโดยทำมาจากองุ่น ที่มาจากการผสมจากหลากหลายพันธ์

คือ Cabernet Sauvignon 86%, Merlot 10%, Petit Verdot 2%,Cabernet Franc 1%,

Malbec 0.5% และ Syrah 0.5%โดยองุ่นนั้นได้ถูกเก็บเกี่ยวและ เรียงไว้อย่างรอบคอบในห้องใต้ดิน

โดยองุ่นทั้งหมดที่ใช้ในกรรมวิธีการผลิตไวน์นี้ จะต้องเกิดจากการคัดเลือกมาจากองุ่น

ที่มีคุณภาพมากที่สุดที่มาจากไร่องุ่น Oakville และไร่องุ่น  Wappo Hill เท่านั้น

โดย ก่อนที่จะมีเริ่มกระบวนการผลิตซึ่งจากการผสมผสานขององุ่นได้ผ่าน

การทดลองชิมมากกว่า 18  เดือนของอายุบาเรล โดยเป็นการนำลักษณะเฉพาะตัวของไวน์จากย่านชุมชน Napa Valley

ที่มืชื่อเสียงในการหมักไวน์มาหลายปี จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้มีความดั้งเดิมแบบคลาสสิกและมีกลิ่นอายของ

ความดั้งเดิมแฝงอยู่อย่างสมบูรณ์และน่ามหัศจรรย์ และไวน์ชนิดนี้ได้เกิดจากการสร้างสรรค์และปรุงแต่ง

โดย Robert Mondavi นักปรุงไวน์ชื่อดังที่สร้างสรรค์ผลไวน์ไว้หลากหลาย

โดยเฉพาะไวน์ที่มาจากถิ่น Napa Valley แห่งนี้

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์แดงเข้ม สีประหนึ่งกับสีที่เข้มและข้นเหมือนกับสีของหมึกก็ว่าได้

โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีกลิ่นที่หอมเหมือนกันกับไวน์แคสซิสที่เป็นไวน์ที่เกิดจากการหมักลูกเกดดำ

ผสมรวมกันกับกลิ่นของบลูเบอร์รี่ที่รุนแรงและลุ่มลึก นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์

ที่มีรสสัมผัสอันรุนแรงจากแบลกเบอร์รี่ ลูกพลัม และผลไม้สีเข้ม รวมทั้งกลิ่นที่ซับซ้อนของเครื่องเทศ

สมุนไพร และเต็มไปด้วยความแน่นฉ่ำของผลไม้  นอกจากรสชาติเหล่านั้นแล้ว

ไวน์ชนิดนี้ยังมีรสชาติของที่หวานมากๆจากผลไม้สุกต่างๆ รวมทั้งยังมีรสสัมผัสของช็อกโกแลตที่

รวมตัวกันได้เป็นอย่างดี และทำให้ไวน์นี้มีความอบอุ่นที่ตราตรึงใจแก่เหล่านักดื่มทั้งหลายอีกด้วย

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังมีความเปรี้ยวที่เหมือนกับความเปรี้ยวจากสารเทนนินที่มาตัดกับรสของไวน์

ที่หวานมากได้อย่างลงตัว ทำให้ไวน์ชนิดนี้ไม่ได้มีแค่เพียงความหวานแต่อย่างเดียว โดยรวมแล้ว

ไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์ที่มีความนุ่มนวลและความรู้สึกที่ดีมากกว่าไวน์ทั้งหลายก็ว่าได้สำหรับเหล่านักดื่ม

หลายๆท่านที่ได้มีประสบการณ์สัมผัสกับไวน์ชนิดนี้ เป็นไวน์ที่มีรสสัมผัสที่เต็มเปี่ยม

รวมทั้งยังมีรสและกลิ่นอายที่ทันสมัยมากขึ้น

สิ่งที่ขาดไม่ได้ เมื่อดื่มไวน์ตัวนี้ คือ การรับประทานคู่กับ เนื้อแกะ เนื้อซี่โครงย่าง เนยแข็ง

เนื้อลูกวัวสับ โดยเฉพาะอาหารจำพวกเนื้อ หมู เนื้อลูกแกะ เป็ด หรือเนื้อสัตว์ที่ได้มาจากการล่า

ต่างๆนั้นล้วนเป็นที่นิยมรับประทานควบคู่กับไวน์ชนิดนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้อาหาร

จำพวกแฮมเบอร์เกอร์ บาร์บีคิว สตูเนื้อ หรืออาหารจากวัฒนธรรมพื้นบ้านเอเชียก็เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ที่จะรับประทานควบคู่กับไวน์ชนิดนี้จากคำบอกเล่าของนักปรุงไวน์นี้ นอกจากนี้

ไวน์ชนิดนี้ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 16 – 18 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมในการดื่มมากที่สุด

อยู่ที่ประมาณ 15.5 องศาเซลเซียส หรืออยู่ที่ประมาณ 60 องศาฟาเรนไฮต์ โดยความเย็นระดับนี้

จะช่วยให้ไวน์มีความสดมากที่สุด นอกจากนี้ไวน์ชนิดนี้ควรถูกรินอยู่ในแก้วได้แค่ประมาณ 1-3 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ ไวน์ชนิดนี้ยังเป็นไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในระดับ 14.5% อีกด้วย โดยไวน์ชนิดนี้เป็นไวน์

สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ
Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon
Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon
สั่งซื้อสินค้า
ติดต่อสอบถามสั่งซื้อทาง Line ครับ

 

error: Content is protected !!