Far Niente Cabernet Sauvignon Napa Valley เป็นโรงงานผลิตไวน์ที่ตั้งอยู่ที่ Napa Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สำหรับปลูกไวน์พรีเมี่ยม Far Niente เป็นเพียงแห่งเดียวที่ใช้ถ้ำในการเก็บไวน์ที่ผ่านการบรรจุลงไปบ่มในถังไม้ โดยในปีค.ศ.1885 Far Niente ได้ก่อตั้งขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของ John Benson อดีตคนงานเหมืองทองในยุคแห่งทองคำที่แคลิฟอร์เนีย ที่มาของชื่อ Far Niente มาจากวลีโรแมนติกในภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า “ปราศจากความกังวล”และชื่อ Far Niente นี้ก็ยังได้ถูกสลักไว้ที่หินที่อยู่บริเวณหน้าอาคารตั้งแต่ปีค.ศ. 1885 อีกด้วย
ที่ไร่ของ Far Niente นั้นได้มีการปลูกองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon และ Chardonnay บนพื้นดินมีการระบายน้ำได้ดีจากการผสมดินร่วนและกรวดเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังมีส่วนผสมของดินเถ้าภูเขาไฟที่ช่วยในการเจริญเติบโตของต้นองุ่นและช่วยให้ผลผลิตที่ออกมามีรสชาติของผลไม้เมืองร้อนและกลิ่นที่มีความซับซ้อน โดยการปลูกไร่องุ่นนั้นเริ่มมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1885 ด้วยเวลาที่ลึกซึ้งกว่า 4 ทศวรรษในการผลิตไวน์แดงจากองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon และการรวบรวมองุ่นจากไร่องุ่นชั้นเลิศในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองุ่นจาก Rutherford, Stags Leap, Calistoga และ St. Helena ที่ผ่านการคัดเลือกด้วยมืออย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด เพื่อที่จะนำไปผลิตไวน์ที่มีคุณภาพขึ้นมา
ในการบ่มไวน์องุ่นของ Far Niente พวกเขาจะใช้องุ่น 20% ในไร่ต่อปี และบ่มในถังไม้เก็บไว้ในถ้ำของพวกเขาเป็นเวลาอย่างน้อยสองปี ก่อนที่จะนำไวน์องุ่นออกมาวางจำหน่ายอีกครั้ง โดยแรกเริ่มนั้น John Benson ตั้งใจที่จะเจาะกำแพงด้านทิศตะวันตกของห้องเก็บไวน์ใต้ดินขึ้น แต่ด้วยการเสียชีวิตของเขาการเจาะถ้ำจึงยังไม่ได้เริ่มขึ้น จนเมื่อปีค.ศ.1980 Alf Burtleson ได้จ้างให้มีการขุดถ้ำไวน์ที่มีความลึก 60 ฟุต บริเวณด้านหลังของโรงกลั่นไวน์ที่เป็นหุบเขา ถ้ำไวน์ของ Far Niente Napa Valley จึงถือได้ว่าเป็นถ้ำไวน์แห่งแรกในอเมริกาเหนือ หลังจากนั้นอีก 21 ปี ถ้ำเก็บไวน์ได้มีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ตารางฟุต โดยการใช้อุปกรณ์ขุดแบบเดียวกับเหมืองถ่านในประเทศอังกฤษ สำหรับ Far Niente แล้วนั้นถ้ำเก็บไวน์ไม่ได้เป็นเพียง “สิ่งที่ควรมี” แต่เป็น “สิ่งที่ต้องมี” ด้วยชื่อเสียงในการบ่มไวน์อย่างดีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ความพิถีพิถันที่ตรงตามจรรยาบรรณและมารตราฐานในการผลิตไวน์ นอกจากนี้ Dirk Hampson ผู้อำนวยการผลิตไวน์ยังได้กล่าวไว้อีกว่า “ถ้ำมีคุณลักษณะที่ดีในการบ่มไวน์อย่างไม่น่าเชื่อ ที่อาคารบนดินไม่สามารถทำได้”