Dalla Valle Maya นับได้ว่าเป็นไวน์แดงชั้นเยี่ยมที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเจ้าของแบรนด์ที่เป็นเจ้าของเดียวกันกับไร่องุ่น Dalla Valle ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Gustav และ Naoko Dalla Valle เมื่อปีค.ศ.1982 ที่บริเวณเนินเขาทางตะวันออกของเมือง Oakville โดยประวัติศาสตร์ของครอบครัว Dalla Valle ได้มีการผลิตไวน์ที่ประเทศบ้านเกิดอย่างอิตาลีมาอย่างยาวนาน ไวน์ชนิดแรกของ Dalla Valle อย่าง Dalla Valle Cabernet Sauvignon นั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปีค.ศ.1986 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พวกเขาได้ก่อตั้งโรงงานผลิตไวน์ขึ้น
โดยไร่องุ่น Dalla Valle มีพื้นที่ 25 เอเคอร์หรือประมาณ 63.25 ไร่ ได้มีการแบ่งพื้นที่ปลูกต้นองุ่นสายพันธุ์หลักคือสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon และสายพันธุ์ Cabernet Franc สำหรับองุ่นสายพันธุ์ Petit Verdot ก็ได้มีการปลูกอยู่ในบริเวณเล็กๆ ที่ไร่แห่งนี้เช่นเดียวกัน ด้วยดินในบริเวณไร่มีส่วนผสมของดินภูเขาไฟทำให้สภาพพื้นดินของไร่แห่งนี้เหมาะสมอย่างมากแก่การเพาะปลูกไวน์ระดับพรีเมี่ยม พวกเขาเริ่มปลูกองุ่นด้วยวิธีออแกนิคในปีค.ศ. 2007 และค่อยๆเปลี่ยนมาใช้วิธีการปลูกแบบไบโอไดนามิคแทนปีค.ศ. 2017 ด้วยวิธีการปลูกแบบไบโอไดนามิคนี้จะช่วยรักษาสุขภาพของต้นองุ่น และยังช่วยยืดอายุของต้นองุ่นให้ยาวขึ้นอีกด้วย
ที่ Dalla Valle จะผลิตเหล้าแชมเปญแดงสามชนิดต่อการเก็บเกี่ยวหนึ่งครั้ง ซึ่งก็คือ เหล้าแชมเปญ Collina Dalla Valle ที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.2007 ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ทานได้เพลิดเพลินไปกับความอ่อนเยาว์ของไวน์ชนิดนี้ ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่ายมากที่สุดของแบรนด์ Dalla Valle และการผสมผสานที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี ต่อมาคือเหล้าแชมเปญ Dalla Valle Cabernet Sauvignon ซึ่งเป็นไวน์ชนิดแรกของแบรนด์ที่ผลิตตั้งแต่ปีค.ศ.1986 จุดเด่นของไวน์ชนิดนี้คือรสชาติที่ชัดเจนและความอ่อนนุ่มภายในปาก ประกอบกับกลิ่นหอมของราสเบอร์รี่ ผลพลัมสุก กลิ่นของกล่องไม้สนแบบเก่า และแซมด้วยกลิ่นของใบยาสูบ กลิ่นหินที่แห้ง ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ไวน์แดงชนิดที่สามคือเหล้าแชมเปญ Maya ที่ถือได้ว่าเป็นเหล้าแชมเปญระดับเรือธงของแบรนด์เลยที่เดียว โดยไวน์ชนิดนี้ได้ถูกตั้งชื่อตามชื่อของลูกสาว Gustav และ Naoko Dalla Valle ที่ชื่อ Maya ความพิเศษคือไวน์ชนิดนี้จะมีสีแดงเข้ม จากการผสมระหว่างองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon และ Cabernet Franc ในอัตราส่วน 60 ต่อ 40 และมีกลิ่นหอมจากผลไม้สีแดงและผลไม้สีดำ ที่ประกอบไปด้วยเชอร์รี่สีแดง บลูเบอร์รี่ และกลิ่นหอมของอบเชยและโกโก้ที่แทรกมาเพียงเล็กน้อย รสชาติของเหล้าแชมเปญ Maya นี้เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติของพลัมและเชอร์รี่สีสีดำอบอวนไปทั่วทั้งปาก ด้วยเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มสวยงามและความแวววับของธรรมชาติ ทำให้เหล้าแชมเปญ Maya ได้รับความนิยมอย่างมาก