Cambus 1979 Douglas Laing XOP Black
สุดยอดวิสกี้แห่งภูมิภาค Lowlands โดยวิสกี้สก๊อตรุ่นนี้มีอายุ 40 ปี มีกระบวนการผลิตที่น่าทึ่ง ได้ถูกวางลงที่โรงกลั่น Cambus ในเดือนเมษายนปี 1979 และนำมาบรรจุขวดโดย Douglas Laing ในเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา เป็นรายการที่สามในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Xtra Old Particular Black Series ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อถังเดี่ยวโบราณที่ดีที่สุดและหายากที่สุดที่เคยมีมา
จุดเด่นคือโดดเด่นเป็นวิสกี้ที่ผ่านกรรมวิธีการสุกในฮอกส์เฮดแบบเติม บรรจุขวดที่แอลกอฮอล์สูงถึง 53.5% และวางขายบรรจุในกล่องกำมะหยี่สีดำลายนูนที่หรูหรา พร้อมลายเซ็นโดย Fred Laing และ Cara Laing อีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ของสะสมหายากจากแบรนด์ดังอย่าง Douglas อย่างมากเลยทีเดียว ด้วยกลิ่นที่ระเบิดด้วยข้าวบาร์เลย์พีทและน้ำตาลทรายแดง ในเพดานปากสัมผัสได้ถึงความเหลวไหล เครื่องเทศ และหนังที่เคี้ยวด้วยไอโอดีนและควันที่ตกค้าง สุดบอดรสชาติซับซ้อนที่หาตัวจับยาก
Darkness 8 Year Old Whisky
สุดยอดซิงเกิลมอลต์สก๊อตวิสกี้อายุ 8 ปีที่ได้รับการบ่มในถังเบอร์เบิร์นเก่า โดยมีการกลั่นผสมในถังอ็อกเทฟ Oloroso Sherry ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษอย่างน้อยสามเดือน นอกจากนี้ยังมีกรรมวิธีใช้การกรองแบบไม่แช่เย็นและบรรจุขวดโดยไม่ใส่สีเพิ่มเติมอื่นๆ สำหรับ Darkness 8 Year Old นั้นเป็นรุ่นต่อเนื่องจากจากขวดรุ่น Limited Edition ที่มีความอร่อยของเชอรี่รอคุณอยู่มากมาย
จุดเด่นอยู่ที่เปลือกส้มหวาน ช็อคโกแลตถั่วลิสง เครื่องเทศปรุงอาหารที่อบอุ่น และเชอร์รี่แห้งบางส่วน รสสัมผัสบนเพดานปากอยู่ที่ บิสกิต Amaretti, ขนมปังปิ้งชิ้นเล็กชิ้นน้อย, ลูกเกดและพรุนที่ทรงพลัง และรสสัมผัสของไม้โอ๊คที่เป็นดินเล็กน้อย เสร็จสิ้นแล้วนั้นได้รสชาติของความมันและมีควันเล็กน้อยดยมีพื้นหลังเป็นรสช็อกโกแลตยังคงอยู่
โดยรวมเป็นวิสกี้เข้มข้นหอมมันเย้ายวนใจ ที่เหมาะแก่การรับประทานอาหารอย่างซุปร้อนๆหรืออาหารประเภทสเต็กเป็นอย่างมาก เหมาะมากสำหรับการดื่มเนื่องในโอกาสพิเศษแบบสุดๆ
Lauder’s 15 Years Old
ด้วยวิสกี้อายุ 15 ปีจาก LAUDER ผสมผสานกับวิสกี้จากภูมิภาคไฮแลนด์และ Speyside ของสกอตแลนด์ที่บ่มเป็นเวลา 15 ปีในถังบูร์บงและถังเชอร์รี่ กรรมวิธีที่คัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ชั้นดีที่สุดของ Lauder ด้วยความเข้มข้นที่นุ่มนวลและสีสันที่เข้มข้นของมอลต์อายุ 15 ปี ทำให้เกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและน่าลิ้มลองอย่างแท้จริง
จุดเด่นอยู่ที่รสชาติของเครื่องเทศฟรุตเค้กที่นุ่มนวลโอบรับกับความหวานที่กลมกล่อมทำให้เป็นสุดยอดเครื่องดื่มวิสกี้จาก
บริเตนใหญ่ที่เป็นสุดยอดแบบสุดๆ
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้ชั้นเลิศที่มีความหรูหราหาตัวจับยาก เหมาะสำหรับการรับประทานเพื่อลิ้มลองรสชาติท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่นโรแมนติก เหมาะสำหรับการรับประทานคู่กับอาหารร้อนๆอย่าง ซุปตุ๋นยาจีน, สตูว์เนื้อ และ เสต็กเนื้อแดงเป็นอย่างยิ่ง
Kininvie 17 Year Old
วิสกี้สัญชาติอังกฤษจากมอลต์แท้แบบ 100% รเป็นเจ้าวิสกี้ขวดนี้เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแรกของ Kininvie รุ่นอายุ 17 ปีเลยทีเดียว กระบวนการผลิตของวิสกี้ถูกรังสรรค์ออกมาโดยการบ่มไว้ในถังไม้โอ๊คและเชอร์รี่ของอเมริกา และถูกกลั่นขึ้นในปี 1996 โดยโรงกลั่น Dufftown ซึ่งบรรจุขวดที่แอลกอฮอล์ดีกรีแรงถึง 42.6%
จุดเด่นอยู่ที่กบิ่นหอมที่เริ่มจากมอลต์ ข้าวบาร์เลย์หวาน ข้าวต้ม ไล่ระดับต่อมาเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้จากดอกฟรีเซียและเจอเรเนียม รสชาติจากวานิลลาและน้ำผึ้ง ผสมผสานกับกล้วยและมะพร้าวมากขึ้นในขณะเดียวกันมีรสชาติของเมล่อน ไม้โอ๊คอบ อัลมอนด์น้ำตาล ผงคัสตาร์ดและมาร์ชเมลโลว์
โดยรวมแล้วมีรสชาติเสร็จสิ้นอันยาวนานอยู่ที่ระดับปานกลาง ด้วยรสชาติของอบเชย ท็อฟฟี่และชะเอม ที่มีความเข้มข้น เหมาะสำหรับการดื่มลิ้มรสชาติท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นอันยาวนาน
Bruichladdich 24 Year Old
สุดยอดสก็อตวิสกี้ที่ได้วัตถุดิบเป็นซิงเกิลมอลต์จากโรงกลั่นชื่อดังแห่งภูมิภาคอย่าง Speyside อายุ 24 ปี ซึ่งเริ่มนั้นถูกกลั่นในปี 1991 และต่อมาได้ถูกบรรจุขวดในปี 2016 ซึ่งสำหรับวิสกี้รุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีย์อย่าง Small Batch โดยผลิตออกมาเพียงแค่ 630 ขวด เท่านั้น
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมชนิดร่วนและเปลือกส้มแห้ง ผสานกับกลิ่นของทอฟฟี่ รวมถึงรสชาติที่กระจายอยู่ทั่วเพดานปากจากไอศกรีมผสานกับวานิลลา ตามด้วยชั้นของคาราเมลชั้นดีและถ่านเล็กน้อย เรียกได้ว่าลงตัวและสมดุลแบบสุดๆๆ
โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ชั้นดีที่มีรสชาติเยี่ยมแบบลงตัว สามารถรับประทานคู่กับอาหารชั้นเลิศประเภทซุปตุ๋นยาจีน, ไก่ตุ๋น และสตูว์เนื้อ ได้อย่างเยี่ยมยอด
Edradour Ballechin SFTC 10 Year Old 2009 Bourbon Matured Single Malt Scotch Whisky
ซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้ชั้นดีรุ่น 10 ปี จาก Edradour ที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาจากการกลั่นในถัง Oloroso Sherry ให้รสชาติเป็นเอกลักษณืและกลมกล่ม สีน้ำตาลทองอำพันมีมนต์เสน่ห์ถูกรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันจากสัญชาติวิสกี้ที่มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมอันหนักหน่วงแข็งแรงจากกลิ่นไวน์และมอลต์ผสานกับกลิ่นควันจางๆจากฟาร์ม กลิ่นแป้งดิบและสาหร่ายทะเล โดยเมื่อรสสัมผัสผ่านไปซักพักนั้นจะได้กลิ่นที่มีความเป็นธรรมชาติจากฟาร์มปศุสัตว์ที่มีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง โดยส่วนใหญ่ใช้วิธีผสมกับน้ำจะดื่มง่ายกว่า รสชาติที่มีความเผ็ดนำจากไวน์และมีความเค็มจากควันบุหรี่เล็กน้อย
โดยรวมมีรสสัมผัสเสร็จสิ้นด้วยเกลือ ผลเบอร์รี่และเถาไม้ เป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพร้อนแรง ราคาแพงหรูหรา มีความแตกต่าง ตื่นเต้น และมีความแรงอยู่ในตัว เหมาะสำหรับใช้จิบเพื่อรับรสชาติและสัมผัสบรรยากาศโดยรอบเพื่อซึมซับช่วงเวลาดีๆเป็นอย่างยิ่ง
ทั้ง 3 รุ่นนี้เป็นสุดยอดวิสกี้สัญชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Nikka Taketsuru ได้รับการตั้งชื่อตามผู้สร้างโรงกลั่น Nikka ตั้งแต่เขายังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ที่โรงกลั่นได้ถูกดูแลโดย Masataka Taketsuru ผู้เป็นที่รักของ Nikka ซึ่ง Nikka Whisky นั้นถือเป็นบรรพบุรุษของวิสกี้ทั้งหมด
ซึ่งเป็นวิสกี้จากมอลต์ผสมที่ประกอบด้วย Pure Malt กลั่นจากมอลต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมจาก มะนาว แอปเปิ้ล ไม้ วนิลา ชิลี กล้วยดิบ กล้วยที่เป็นไม้เล็ก ๆ และมีชิลีดิบผสมผสานเข้าด้วยกัน รสชาติเข้มข้นหอมหวานจาก ครีม ไม้ เปลือกส้ม ขี้เหล็ก ซึ่งได้รสชาติเฉพาะตัวของมอลต์ที่ถูกกลั่นในถังเชอร์รี่ รสชาติเสร็จสิ้นจบที่ คาราเมล, มอลต์, ไม้, ขิง, แร่ ที่ให้รสสัมผัสที่ยาวนาน
โดยรวมเป็นวิสกี้สัญชาติญี่ปุ่นรสชาตินุ่มนวล มีความเป็นรสชาติแบบคลาสสิคดั้งเดิมในยุคสมัยของโรงกลั่นโบราณจากญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสะสมจากผู้สรรค์สร้างที่มีความอดทนและตั้งใจทำอย่างพิถีพิถันที่สุด
สุดยอดวิสกี้ดั้งเดิมสัญชาติสก็อตแลนด์ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันสำคัญแห่งสกอตแลนด์ แม้โรงกลั่นของค่ายนี้เกือบครึ่งจะปิดตัวไปแล้วและกลายเป็นโรงกลั่นสาบสูญก็ตามแต่ก็ยังคงคอนเซปต์ปกป้องและฟื้นฟูมรดกวิสกี้ของสกอตแลนด์เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจชีวิตของโรงกลั่นและวิวัฒนาการของมอลต์ในแต่ละชนิดตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาผ่านรุ่นสู่รุ่นเพื่อกำหนดวิสกี้ที่เป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวของวิสกี้เหล่านี้ตั้งแต่เริ่มต้น
ด้วยความสมดุลของศิลปะของการผสมซิงเกิลมอลต์ที่มีอายุมาก จึงได้เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้นและดีงามอย่างถึงที่สุด
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละรุ่นจาก กลิ่นมอลต์ เปลือกส้ม ช็อกโกแลตและพีท พีช วานิลลาอัลมอนด์และครีม ที่ถูกผสมผสานกันในขวดวิสกี้แต่ละรุ่น โดยรวมเป็นวิสกี้ที่ดื่มง่าย เข้มข้น นุ่มนวล เหมาะแก่การดื่มสังสรรค์เป็นอย่างยิ่ง
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดวิสกี้ที่ดีที่สุดจากวิสกี้แคมป์เบลทาวน์เลยทีเดียว สำหรับวิสกี้รุ่น 15 ปีตัวนี้
การันตีรางวัลที่ได้รับอย่าง Best Campbeltown Single Malt Whisky 13-20 จาก World Whiskys Awards ซึ่งเป็นวิสกี้ที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดเป็นอันดับที่เก้าจากภูมิภาคนี้
จุดเด่นอยู่ที่ความซับซ้อนของกลิ่นหอมจากอัลมอนด์ มะพร้าว หนังนิ่ม ผลไม้เมืองร้อน และชาดำตุ๋น โดยมีกลิ่นของน้ำเกลือและพีทปรากฏขึ้นจางๆ รสชาติกลมกล่อมเข้มข้นด้วยผลไม้เมืองร้อนอย่าง เชอร์รี่ คาราเมล ยาสูบ ควันไม้ และแทนนินรสเผ็ด ได้รสสัมผัสค่อนข้างยาวนานจากครีมพร้อมกับควันจางๆ ด้วยองค์ประกอบของ Springbank แบบคลาสสิกทั้งหมดได้ถูกผสานกันอย่างลงตัวไว้ที่นี่ขวดเดียวเท่านั้น
สุดยอดซิงเกิลมอลต์วิสกี้จาก Benromach ที่บ่มในถังเชอร์รี่เป็นเวลา 21 ปี ให้กลิ่นหอมของอบเชย ส้มเซบียา ราสเบอร์รี่ น้ำผึ้ง และควันอ่อนๆ ทั่วเพดานปาก เป็นวิสกี้รุ่น 21 ปีที่ขายดีเป็นอย่างมาก
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์จาก ซอสแอปเปิ้ล, องุ่นดำ, ซอสวานิลลา, ช็อคโกแลตนม, อบเชย, ฝุ่น, ไม้เปียก, อินทผลัมหวานและครีมเมื่อเวลาผ่านไปสักพักจะได้กลิ่นของควันจางๆแทรกตัวตัวอยู่ในพื้นหลัง
ได้รสชาติเข้มข้นและทรงพลัง จากส้ม แอปเปิ้ลแดง อบเชย พริกไทยดำป่น น้ำตาลทราย เอิร์ลเกรย์ ช็อกโกแลตนม ความหวานนำในแก้วแรกที่สัมผัสแทรกตัวด้วยกลิ่นและรสชาติที่เผ็ดร้อนของไม้
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพร้อนแรง เปี่ยมไปด้วยพลัง มีความหนักแน่น เข้มข้น มีรสชาติที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ เหมาะสำหรับการดื่มเนื่องในโอกาสพิเศษสำหรับคุณ
Posts navigation
