Category Archives: Single Malt

Caol Ila Aged 30 Years

Caol Ila Aged 30 Years

 

สำหรับวิสกี้อย่าง Caol Ila นั้น เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้สไตล์วินเทจอันน่าทึ่งแห่งปี 1983 โดยออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 30 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัววิสกี้รุ่นพิเศษปี 2014 ของ Diageo โดยกระบวนการผลิตมาจากการบ่มโดยการผสมผสานกันระหว่างไม้โอ๊คอเมริกันแบบเติมของอเมริกาและแบบเติมของยุโรป ทำให้ชวนให้นึกถึงการผสมผสานระหว่าง Brora และ Port Ellen ซึ่งมีการผสมผสานความแว็กซ์ของรุ่นก่อนเข้ากับกลิ่นของหนังชามัวร์ของรุ่นหลังนั่นเอง

จุดเด่นอยู่ที่ วิสกี้สีทองเข้มที่มีกลิ่นจากควันไอโอดีนและหญ้า ได้รสชาติกลมกล่อมของพีทที่อุดมสมบูรณ์และเป็นข้าวเหนียวซึ่งได้หายไปในตอนแรกจากนั้นจึงค่อย ๆ สร้างกลิ่นของบุหรี่เมนทอลและหนังชามัวร์ขึ้นในตอนท้าย ทำให้เมื่อเสร็จสิ้นได้รสสัมผัสและกลิ่นยาวๆด้วยเมนทอลและพีท นั่นเอง

โดยรวมเป็นวิสกี้รสชาติดี มีความนุ่มนวล ดุดัน แข็งแกร่ง คุ้มค่า เหมาะสำหรับนักดื่มวิสกี้และพร้อมสร้างบรรยากาศท่ามกลางคืนวันอันแสนพิเศษให้คุณได้แล้ววันนี้

Tomatin Cu Bocan

Tomatin Cu Bocan

เรียกได้ว่าเป็นวิสกี้ที่มี Concept ที่น่าสนใจจากการตั้งชื่ออย่าง Cu Bocan ซึ่งชื่อนี้มีความหมายว่า “สุนัขผี” โดยผู้ผลิตอ้างถึงสุนัขที่หลอกหลอนผู้คนในหมู่บ้านใกล้เคียงในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานั่นเอง วิธีการผลิตคือเป็นวิสกี้แบบไม่ผสมพรุตลอดทั้งปี จากนั้นจะมีการปรุงรสด้วยมอลต์พีทสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง มีการบ่มด้วยส่วนผสมของถังไม้โอ๊คดิบ บูร์บอง และเชอร์รี่ ฟีนอลรวมกัน

จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นที่มีความบอบบางและบางเบา มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดใจ เป็นเพียงควันบางๆ ที่มีกลิ่นของตังเมและกลิ่นของเชอร์รี่ที่ชัดเจน รสชาติเข้มข้นขึ้นด้วยเครื่องหอมและเครื่องเทศอบ เมล็ดพืชที่คั่วอย่างนุ่มนวล และกลิ่นผลไม้ที่มีลูกพีชและแอปริคอต

โดยรวมเรียกได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นวิสกี้ตัวแทนของสไตล์ไฮแลนด์ที่มีควันจางๆ และจิตวิญญาณที่กลมกล่อมและสมดุลในทุกด้าน เหมาะสำหรับการดื่มเพื่อละเลียดรสชาติสำหรับนักดื่มวิสกี้ที่รักในรสชาติอันน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง

Tamnavulin – Glenlivet 1968 ‘The Old Mill’

Tamnavulin – Glenlivet 1968 ‘The Old Mill’

 

สำหรับวิสกี้รุ่นนี้นั้น คือ ซิงเกิลมอลต์สก๊อตวิสกี้ที่กลั่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยถูกกลั่นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2511 และเติมลงในถังไม้โอ๊คหมายเลข 2525-2527 เพื่อให้สุกในถัง โดยถังเหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่โกดังจากโรงกลั่นจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2528 และได้รับเลือกให้บรรจุขวดแบบพิเศษแบบ The Stillman’s Dram ซึ่งมีการจัดทำขึ้นเพียง 996 ขวด เท่านั้น

จุดเด่นอยู่ที่เป็นซิงเกิลมอลต์ Speyside อายุ 17 ปีที่หายากมาก เพราะในปัจจุบันนี้เป็นวิสกี้ที่ถูกรังสรรค์มาในถังไม้โอ๊คแท้ที่ได้เลิกผลิตไปแล้ว จากกระบวนการผลิตที่มีความปราณีตพิถีพิถันมากจึงได้เป็นรสชาติที่มีความซับซ้อน เข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ เป็นสีทองเข้มที่สวยสดงดงามมาก

โดยรวมวิสกี้หายากรุ่นนี้เหมาะแก่นักสะสมที่ชอบเสาะแสวงหาวิสกี้หายากในราคาที่จับต้องได้ มีความเป็นเอกลักษณ์ ลิ้มละเลียดรสชาติในวันพิเศษและโอกาสพิเศษเพียงไม่กี่ครั้ง เหมาะสำหรับเป็นของขวัญแสนวิเศษให้แก่คนพิเศษของคุณแบบสุดๆ

Tamnavulin – Glenlivet 1970 – The Stillman’s Dram

Tamnavulin – Glenlivet 1970 – The Stillman’s Dram

 

สุดยอดซิงเกิลมอลต์ Speyside อายุ 16 ปีหายากจากโรงกลั่น Tamnavulin และได้รับการคัดเลือกให้เป็นวิสกี้รุ่นพิเศษ โดยถูกกลั่นในปี 1970 และบ่มด้วยการผสมผสานของถังเชอร์รี่เบอร์เบินและถังอื่นๆเป็นเวลายาวนานถึง 48 ปีก่อนจะบรรจุขวดในปี 2019
จุดเด่นอยู่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูงแต่กลับไม่มีความแห้งกรังของรสแอลกอฮอล์แม้แต่น้อย มีความเป็นไม้โอ๊คขม แทนนิน ควันเล็กน้อย น้ำเกลือเล็กน้อย เผ็ดนำและค่อยจางลงในตอนท้าย ผสานกับรสวานิลลาอ่อน เป็นวิสกี้รสเผ็ดร้อนแรงอายุน้อยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
โดยรวมเป็นวิสกี้ชั้นดีที่แม้อายุในการผลิตจะน้อยแต่กลับให้รสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับการรับประทานคู่กับอาหารประเภทตุ๋นอย่าง เนื้อตุ๋น ซุปตุ๋นยาจีน และพวกเนื้อแดงเป็นอย่างมากเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยของอาหารได้อย่างลงตัว

Benromach 40 Year Old 1978 Single Malt Scotch Whisky

Benromach 40 Year Old 1978 Single Malt Scotch Whisky

 

สุดยอดวิสกี้จากโรงกลั่น Benromach ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาค Speyside ของสก็อตแลนด์ โดยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในโรงกลั่นเพียงไม่กี่แห่งของโลกที่ยังคงใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมในการทำวิสกี้โดยไม่ใช่เครื่องจักรอัตโนมัติใดๆทั้งสิ้น โดยวิสกี้ตัวนี้ถูกผลิตจากถังหมักเชอรี่ฮอกส์เฮดอายุสี่ทศวรรษโดยมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 184 ขวดทั่วโลกเท่านั้น
จุดเด่นของวิสกี้ตัวนี้อยู่ที่กลิ่นหอมอันน่าอัศจรรย์และเพลิดเพลินไปกับกลิ่นอันหอมหวานของน้ำผึ้งและวานิลลา ผสมกับผลไม้สุก มะนาวเปรี้ยว บัตเตอร์สก็อตช์และขิงสด จิบลิ้มรสความหวานที่กลมกล่อมอย่างลงตัวด้วยพริกไทยเล็กน้อย กลิ่นนำจากโอ๊คผสมกับลูกแพร์และกีวีฉ่ำ, ดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้นและยาสูบแห้ง, ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและกลิ่นพีทควันเล็กน้อย เป็นเอกลักษณ์ลงตัวเป็นอย่างมาก
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่แสดงถึงความพิถีพิถันของผู้ผลิตได้เป็นอย่างดี วิสกี้รสชาติหวานฉ่ำไม่รุนแรงของแอลกอฮอล์มากจนเกินไป เหมาะสำหรับเพลิดเพลินท่ามกลางบรรยากาศอันสนุกสนานในช่วงวันหยุดพร้อมกับคนพิเศษของคุณเป็นอย่างมาก

 

Glenturret 30 Year Old – Jaguar E-Type 60th Anniversary

Glenturret 30 Year Old – Jaguar E-Type 60th Anniversary

 

สำหรับวิสกี้รุ่นนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นวิสกี้รุ่นพิเศษที่ทำมาแบบจำนวนจำกัดระหว่าง Jaguar และ Glenturret เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ Glenturret ในอายุของแบรนด์ที่ครบ 60 ปี  ผลที่ได้จากผลิตภัณฑ์สุดเลอค่านี้ก้คือคือวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ ซึ่งเป็นวิสกี้ไม่ได้ระบุอายุไว้บนขวดแต่เมื่อพิจารณาแล้วถือว่าเป็นวิสกี้ที่มีอายุอย่างน้อยถึง 30 ปี เลยทีเดียว
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นของชะเอม ผลไม้สีเข้ม และเครื่องเทศเนื่องจากการใช้ถังไม้เชอร์รี่ผสมกับไม้โอ๊คอเมริกันนั่นเอง รสชาติของชั้นผลไม้ท็อฟฟี่แอปเปิ้ลและคาราเมลเคลือบด้วยน้ำเชื่อมและเครื่องเทศหวาน เครื่องเทศไม้จะเร่งรสชาติได้อย่างรวดเร็วบนเพดานปาก ผสานกับความเผ็ดหวานและร้อนแรงอย่างหาที่สุดมิได้
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้เกรดพรีเมี่ยมแบบ Limited Edition เหมาะสำหรับนักสะสมวิสกี้ที่ต้องการหารสชาติอันซับซ้อนจากสวรรค์ที่มีความแปลกใหม่มาไว้ในครอบครองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

Port Ellen 5th Release 25 Year

Port Ellen 5th Release 25 Year

 

สุดยอดวิสกี้ชั้นดีจากโรงกลั่มแห่งสก็อตแลนด์ที่มีความวิเศษสุดๆจาก Port Ellen ซึ่งเป็นแบรนด์วิสกี้ที่ขึ้นชื่อว่าได้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์วิสกี้ชั้นดีมากมายหลากหลายรูปแบบอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกับวิสกี้รุ่นที่ 5 เฉกเช่นตัวนี้
จุดเด่นอยู่ที่วิสกี้สีเหลืองทองที่มีเฉกออกทองคำเก่า ด้วยชาติที่ซับซ้อนและน่าเหลือเชื่อจากวิสกี้ที่มีชั้นแยกออกมาถึง 5 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีความซับซ้อนของกลิ่น โดยเฉพาะกลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรในโพรงจมูกและรสชาติช็อคโกแลตในตอนท้ายอีกด้วย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีความสมดุลและกลมกลืนกันเป็นอย่างมากทั้งในด้านรสชาติและกลิ่น เหมาะสำหรับการดื่มในช่วงค่ำคืนอันยาวนานในฤดูร้อน เพื่อเพิ่มความร้อนแรงให้แก่คุณ

 

Royal Lochnagar Selected Reserve

Royal Lochnagar Selected Reserve

 

สุดยอดวิสกี้สัญชาติสก็อตแลนด์ที่คัดสรรค์มาเฉพาะโดยผลิตออกมาเพียงแค่ 3000 ขวดเท่านั้น ความนุ่มลึกถูกรังสรรค์บ่มเพาะขึ้นมาจากถังไม้เชอร์รี่ชั้นดี ซึ่งมีระดับแอลกอฮอล์อยู่ในปริมาณพอเหมาะพอควรที่ 43% เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดวิสกี้จากค่ายดังอย่าง Royal Lochnagar ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
จุดเด่นได้มาจากวัตถุดิบอย่าง Single Malt จากภูมิภาค Highland ทำให้เป็นวิสกี้สีเหลืองน้ำตาลทอง มีรสชาติของ แครนเบอร์รี่, แบล็คเคอร์แรนท์ และ น้ำตาลไหม้ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่มีความเฉพาะตัวจาก  ผิวส้ม, เครื่องหนังขัดเงา, อ้อย และ เครื่องเทศ อีกด้วย
โดยรวมเป็นวิสกี้ที่มีรสชาติกลมกล่อม มีรสสัมผัสยาวนานคงค้างและขมปลาย มีกลิ่นของเชอร์รี่จางๆเคลือบความหวานไว้ เป็นวิสกี้ที่มีบุคลิกภาพเด่นชัด สร้างสรรค์ รุนแรง แต่เหมาะสำหรับการลิ้มละเลียดรสชาติแบบฉบับนักดื่มวิสกี้เช่นคุณ

Cragganmore Single Cask 43 Years old Single Malt

Cragganmore Single Cask 43 Years old Single Malt

 

สุดยอดวิสกี้แห่งสก็อตแลนด์จากภูมิภาค Speyside จากโรงกลั่น Lagavulin แห่งแคร็กแกนมอร์ที่มีความงดงามมาก โดยถูกขนานนามว่าเป็น “สิ่งที่ดีที่สุดของสเปย์ไซด์” เลยทีเดียว กระบวนการผลิตของเจ้าวิสกี้รุ่นนี้ได้ถูกดึงมาจากก้นไม้โอ๊คยุโรปเพียงตัวเดียวหลังจากผ่านไป 43 ปีอย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีการบรรจุขวดแรกในปี 2514 และมีการผลิตเพียงแค่ 474 ขวด เท่านั้น
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจาก Single Malt ชั้นเลิศที่ถูกผลิตอยู่ในถังไม้โอ๊ต รสสัมผัสที่มีความลึกลับซับซ้อนเข้มข้นและหายากเหมาะสำหรับนักสะสมและนักดื่มวิสกี้ตัวยงแบบสุดๆ
โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าเป็นของสะสมราคาแพงที่มีความหายากแบบสุดๆจากโรงกลั่นแห่งนี้ ด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้เวลายาวนานถึง 43 ปีจึงได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาท่ามกลางความปราณีตพิถีพิถันแบบสุดๆ จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง

Tullibardine The Murray Malt Whisky Bourbon Cask

Tullibardine The Murray Malt Whisky Bourbon Cask

สก็อตวิสกี้ชั้นดีแห่งสก็อตแลนด์จากภูมิภาค Highland ที่เป็นซิงเกิลมอลต์แท้แบบ 100% เลยทีเดียว โดยวิสกี้ตัวนี้นั้นถูกกลั่นครั้งแรกในปี 2547 โดยผ่านกระบวนการผลิตจากการสุกในถังบูร์บองชนิดเติมครั้งแรกและผ่านถังกรองแบบไม่แช่เย็นในครั้งที่สองเพื่อให้ได้รสชาติวิสกี้ที่ดีที่สุด
จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นแรกเริ่มของผลไม้แสนหวาน ตามมาด้วยกล้วยสุกและลูกพีชหั่นแว่นผสานกับกลิ่นหอมของกาแฟนมในพื้นหลัง รสสัมผัสที่มีความเข้มข้นและหวานติดลิ้น และพัฒนาเพิ่มเติมจากรสชาติของเครื่องเทศวานิลลา ผลไม้เมืองร้อนเคี้ยวหนึบ และเสร็จสิ้นด้วยรสชาติของอบเชย ชะเอมเทศ และโอ๊คแทนนิน
โดยรวมแล้วเป็นวิสกี้รสชาติกลมกล่อม มีบุคลิกภาพที่มีความมั่นใจ ร้อนแรง และหรูหรา เหมาะสำหรับการรับประทานในช่วงฤดูร้อนยามค่ำคืนอันยาวนานเพื่อสร้างบรรยากาศได้อย่างน่าอัศจรรย์